มวยยกท้ายๆ ก็ต้องจัดเหลี่ยมในทุกจังหวะ เวทีชิงอำนาจประเทศไทย ถึงจุดไคลแมกซ์เมื่อพรรคประชาชนดึงจังหวะ หล่อหรูมาพักใหญ่ สุดท้าย “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีมแถลงค่ายส้มพร้อมเท 143 เสียง โหวตหนุน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯตามเงื่อนไขเจรจา “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 ข้อ” กับว่าที่ผู้นำคนใหม่โดยสรุปเนื้อ “ต้องยุบสภาใน 4 เดือน” เร่งตั้งต้นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งกรณีต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ ก่อนเร่งตั้ง ส.ส.ร.และที่เพิ่มเติมเงื่อนไขเข้ามา ค่ายส้มขีดเส้นใต้“ต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆเพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก”บล็อกเกมชิ่งปลดแอก ปิดทุกช่องโดนต้มนาทีนี้เงื่อนไขหวานเจี๊ยบ อะไรๆ “เสี่ยหนู” ก็ยอมอยู่แล้ว พาไพร่พลแถลงข่าวร่วมลงนามรับเงื่อนไขทันที พร้อมอวดตัวเลขจ่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย 146 เสียง ให้ 143 เสียงพรรคก้าวไกลสนับสนุนรอพิธีกรรมในสภาฯแห่หามขึ้นเสลี่ยงเป็นนายกฯคนใหม่แต่อีกทางหนึ่ง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะ “ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ” ประกาศลั่น ลงนามเสนอพระราชกฤษฎีกา “ยุบสภา” ขึ้นทูลเกล้าฯปาดหน้าไปก่อนตัดเกมของค่ายสีน้ำเงินแบบช็อตต่อช็อตเรื่องราวยังมีให้ติดตามกันแบบรายชั่วโมงนับจากนี้ ทั้งกระบวนการทูลเกล้าฯยุบสภา จะถูกโดนตีความ “อำนาจรักษาการนายกฯ” ว่าทำได้หรือไม่ อีกทางหนึ่งก็ต้องชะลอคิวเรียกประชุมสภาฯโหวตเลือกนายกฯฝ่ายหนึ่งมุ่งสู่ฝัน อีกฝั่งต้านสุดแรง ในเดิมพันสูงลิ่ว “แพ้ไม่ได้ พ่ายเจ๊งยับ” ทั้งสองฝ่ายเป็นศึกเดือด “สีแดง–น้ำเงิน” โดยมี “สีส้ม” เป็น “ตัวแปร”ที่สำคัญต้องรอผล “กรรมการ” ตัดสินชี้ทิศทางเกม “อำนาจประเทศไทย” รอบนี้แน่นอน อีกจุดโฟกัสสำคัญไม่พ้น “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ที่กำลังอยู่ในภาวะถอยร่นจนมุม แต่ยังฮึดรัวหมัดชุดสวนโป้ง ยื้อเกมสุดกำลังลากนอกจากส่งสัญญาณ ให้มืองานตระกูลชินฯอย่าง “ภูมิธรรม” ทิ้งไพ่ “ยุบสภา” ทั้งที่ก็รู้ว่าไม่ได้สร้างความได้เปรียบ เพราะเอาเข้าจริงก็แหยงสนามเลือกตั้ง ในห้วงกระแสเพื่อไทยมีแต่ทรุดกับทรุดแต่เพราะคิวนี้ เงื่อนไขเจรจาขอเปิดดีลกับ “กรรมการ” ในรอบใหม่ เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับ ฉะนั้นสไตล์ “ทักษิณ” ก็ต้องโชว์ฤทธิ์เดช ขวางฝ่ายตรงข้ามทุกทาง ยื้อทุกเกม จะพังก็ให้พังไปด้วยกันอย่าหวังว่าจะเข้าสูตรครองอำนาจกันได้ง่ายๆเพียงแต่ก็มีคนประเมิน แนวเกมบุกฮาร์ดคอร์บู๊ระห่ำโหด พักหลังความมั่นใจเกินกรอบกลายเป็นเหิมห้าว ยิ่งพาออกทะเล วนลูปอยู่กับเกมเปะปะที่สำคัญคือ “ไม่นิ่ง” แถมยั่วแรงต้าน สร้างอริศัตรูทั่วทิศจนมีสัญญาณอันตรายในช่วงเข้าโค้งสุดท้าย “ทักษิณ”ก็น่าจะรับรู้ตั้งแต่ “อดีตนายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ตกเก้าอี้โดยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อได้ถึงการบอกเลิก “สัญญาการงาน”ในภาวะกระแสต้านกระหึ่ม กระแสที่เคยหนุนครองอำนาจ วันนี้สถานการณ์แปรเปลี่ยนแฟนๆเพื่อไทยเสียงแผ่ว เอาเข้าจริงก็ชักจะแหยงเข็ดคิวบริหารรัฐบาลเพื่อไทย ลากบ้านเมืองสู่สารพัดวิกฤติถึงจะยื่นเงื่อนไขเปลี่ยนผู้เล่น แม้แต่หา “คนกลาง” มาเสียบแทน ก็ไม่มีกระแสเห็นพ้องเพียงพอ สัญญาณตอบรับไม่ชัดหนำซ้ำเมื่อเกมใกล้ถึงจุดเปลี่ยน จนอาจต้องยอมรับสภาพ ก็ดันทุรังเล่นลูกปั่นป่วนทั่วทิศชนิดเย้ยฟ้าท้าดินอัดเกมโหดลูกหนัก อีกทางก็เหมือนเร้าจุดจบ ทั้งกิจการการเมืองและปมชนักคดีจ่อเข้าโซนอันตรายลูกเฮี้ยวเที่ยวล่าสุดจะ “เข้าตัว” หรือไม่ จะได้รู้อีกไม่นานนี้.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
