วันนี้น่าจะเห็นโฉมหน้า นายกฯคนที่ 32 ของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่เห็นก็แสดงว่าการเมืองไทยติดหล่มจมปรักวงจรอุบาทว์เป็นอัตวินิบาตกรรมของคนไทยและประเทศไทยเองเป็นกรณีศึกษาอีกบริบทของการเมืองการปกครองไทย ที่บิดเบือน วิถีของประชาธิปไตย ติดกระดุมผิดเม็ดมาตั้งแต่ต้น มีผลกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้เกมการชิงอำนาจทางการเมืองก่อนที่นายกฯและ ครม.ชุดใหม่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ นายกฯรักษาการ ภูมิธรรม เวชยชัย ยืนยันว่านายกฯรักษาการมีอำนาจเต็มเท่ากับนายกฯที่ทำหน้าที่ได้เหมือนนายกฯทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายหรือยุบสภาถ้าจะเล่าย้อนหลังถึงการเดินเกมในการตั้งรัฐบาลหลังจากที่อดีตนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่ง ต้องยอมรับว่า ภูมิใจไทยเตรียมการมาดี มีความพร้อมทุกด้าน ตอบรับเงื่อนไขของ พรรคประชาชน ที่เสนอเงื่อนไข 2-3 ข้อทันที ส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอเงื่อนไขให้ พรรคประชาชน เป็นคนเลือกระหว่าง เพื่อไทยที่จะยอมยุบสภาก่อน 4 เดือน เป็นแค่การเสนอออปชันเพิ่มเติม ไม่ใช่สาระของเงื่อนไขหลักอยู่ดีเหตุผลที่ทำให้พรรคประชาชนลังเลคือ จะเชื่อใครดี ระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย หรือจะไม่เลือกใครเลย ถ้าไม่เลือกใครเลย เพื่อไทยก็ได้อานิสงส์ เพราะคะแนนเสียงใกล้เคียงกึ่งหนึ่งมากกว่า ต้นทุนในการซื้องูเห่าถูกกว่าทีนี้ เพื่อไทยอยู่ยาวเลย เป้าหมายต้องการยุบสภาของพรรคประชาชน จะหายไปในพริบตาเดียว เพราะฉะนั้นพรรคประชาชนต้องเลือกโหวตมากกว่า ขึ้นอยู่กับว่าเลือกโหวตให้ภูมิใจไทยหรือไม่โหวตให้ภูมิใจไทย อะไรที่ทำให้เดินทางไปสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่ขึ้นอยู่กับว่าพรรคไหนจะเชื่อใจได้หรือไม่ได้ถ้าจะยึดเป้าหมายที่ 2 การทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ในระยะเวลา 4 เดือน คงไม่เห็นความชัดเจน และพรรคประชาชนคงไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเป้าหมายหลัก จึงไม่ใช่เงื่อนไขที่พรรคประชาชนตั้งความหวังไว้ตั้งแต่แรกเงื่อนไขที่ว่า พรรคเพื่อไทยหรือภูมิใจไทย ดีกว่ากัน โดยยกเรื่อง ฮั้วเลือก สว. หรือ ที่ดินเขากระโดง ก็ไม่ใช่องค์ประกอบในการตัดสินใจ ถ้าอีกฝ่ายจะยก เรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ มาตอบโต้ก็จะไม่จบ ไม่สามารถตัดสินได้ว่าพรรคไหนหรือฝ่ายไหนดีกว่าหรือเลวกว่ากันเหตุผลที่แท้จริงในการโหวตนายกฯคนที่ 32 คือการ ผ่าทางตันทางการเมือง นำไปสู่ การยุบสภา แล้วให้คนไทยเจ้าของประเทศเป็นคนตัดสินพรรคไหนดีไม่ดี ไปว่ากันตอนหาเสียงเลือกตั้งจะแฟร์ที่สุดในที่นี้จะไม่เอ่ยถึงพรรคกล้าธรรมคงไม่ได้ ตั้งข้อสังเกตกันเยอะ ทำไมไม่มีใครคนไหนพรรคไหนพูดถึงพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์มาก แล้วทำไมอนุทิน ชาญวีรกูล ไปคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าไม่กี่คำเรื่องก็จบมีคำตอบอยู่แล้ว.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม