เรื่องคมๆ ความหมายชวนคิด (สุริยเทพ ไชยมงคล อินสไปร์ เครือนานมี พิมพ์ พ.ศ.2553) เรื่องที่ 33 รูปแบบใหม่ที่เหมาะสมกว่า เนื้อหาของเรื่อง ให้แง่คิด...ลึกคม...จนผมต้องสะดุดอ่านโรเจอร์ วิศวกรชาวอเมริกัน สงสัยมานาน เขารู้ดี ทางรถไฟในสหรัฐอเมริกา มีความกว้าง 4 ฟุต 8.5 นิ้ว (1.435 เมตร) แม้จะดูว่าเป็นความกว้างที่เหมาะสม ทั้งยังใช้รูปแบบนี้เท่ากันทั่วประเทศ แต่เขาก็สงสัยมานาน“ความกว้างเท่านี้ กำหนดขึ้นมาจากอะไรหรือ?”หลังจากตรวจสอบข้อมูลเก่าต่างๆ โรเจอร์ค้นพบ “บางสิ่ง” ที่น่าสนใจกลุ่มผู้สร้างทางรถไฟกลุ่มแรกของสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทที่ผันตัวมาจากการผลิตรถม้า พวกเขาเอาเทคโนโลยีและประสบการณ์มากมายในการผลิตรถม้า มาใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟด้วยโรเจอร์พบว่ารถม้าของสหรัฐอเมริกามาจากประเทศอังกฤษ มีมาตรฐานระยะห่างระหว่างล้อ 4 ฟุต 8.5 นิ้ว ซึ่งเป็นระยะห่างที่พอดีสำหรับให้ม้าสองตัวลากรถแม้โรเจอร์จะเห็นว่ารูปแบบระยะห่างของทางรถไฟ ไม่ สอดคล้องกับประโยชน์ใช้สอยเต็มที่ แต่เรื่องแบบนี้ น่าแปลก ก็ใช้ตามๆกันมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีใครเคยคิดจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย และประโยชน์ใช้สอยเลยจบเนื้อเรื่องในส่วนของเรื่องคมๆ ต่อด้วยคำอธิบายความหมายชวนคิด ก็ยังมีเรื่องเล่าที่คล้ายกัน...อีกเรื่องนายทหารปืนใหญ่หนุ่มแน่นคนหนึ่ง ตรวจตราการฝึกฝนของกองทหารใต้บังคับบัญชา เขาสังเกตเห็นว่ามักมีพลทหารนายหนึ่งยืนประจำอยู่ข้างปืนใหญ่ตั้งแต่กระบวนซ้อมยิงเริ่มต้น โดยยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนตัวเลยหลังการสอบถาม ก็ได้ความว่า ระเบียบข้อบังคับของการฝึกซ้อมกำหนดไว้เช่นนี้ระเบียบที่ว่าใช้กันมาตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ม้าลากปืนใหญ่ สมัยนั้น จำเป็นต้องมีพลทหารมายืนอยู่ข้างม้า เพื่อคอยดึงสายบังเหียนม้าเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ม้าขยับตัว เพราะจะทำให้วิถีกระสุนปืนใหญ่คลาดเคลื่อนทั้งยังช่วยลดเวลาในการเล็งวิถีกระสุนปืนใหญ่ให้น้อยลงวันเวลาผ่านมายาวนาน เวลายิงปืนใหญ่ไม่ต้องใช้รถม้า จึงไม่ต้องทำอย่างเดิมอิีกแล้ว แต่กฎระเบียบทหารยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังต้องมีพลทหารยืนอยู่ข้างปืนใหญ่เหมือนเดิมนายทหารปืนใหญ่ผู้นี้ จึงเสนอเรื่องราวไปถึงระดับกระทรวงกลาโหมให้แก้ไขและผู้ใหญ่ก็เห็นด้วย เปลี่ยนระเบียบให้เป็นไปตามเหตุผล คือเมื่อไม่ต้องใช้พลทหารไปยืนทำอะไรข้างปืน ก็ให้เลิกระเบียบนั้นเสียประเด็นพลทหารยืนข้างปืนใหญ่ ในกระทรวงกลาโหมเป็นที่มาของคำถาม“สิ่งที่สืบทอดกันมาแต่อดีตนั้นถูกต้องเสมอไปกระนั้นหรือ?คำถามนี้ ไม่ได้ออกจากปากนักการทหาร นักการสงครามประเทศตะวันตก แต่กลับออกจากปากกา “หลู่ซวิ่น” นักประพันธ์เอกของจีนเขาเขียนใส่ปากตัวละครตัวหนึ่ง ในเรื่องบันทึกของคนบ้า สมัยนั้น สร้างความฮือฮามากประโยคทิ้งท้ายของเรื่องคมๆ ความหมายชวนคิด มีต่อไปนี้...เราต้องกล้าท้าทายเรื่องเดิมๆ ท้าทายกับความคิดเก่าๆ ท้าทายกับอิทธิพลมืดที่สืบทอดกันมาไม่ว่าจะเนิ่นนานสักแค่ไหนมีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้น.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม