เรื่องของ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ในฤดูโยกย้ายหนีไม่พ้นการเรียกร้องขอความเป็นธรรมในสังคมข้าราชการไทย อันเนื่องมาจาก ระบบอุปถัมภ์ เท่ากับเป็นการทำลายกลไกการพัฒนาและการบริหารประเทศโดยตรง อาทิ กรณีของ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เป็นต้นแค่ผู้บังคับบัญชาแก้สเปกอายุงานนิดหน่อย ก็หมดสิทธิ์เลื่อนขั้น ถ้าเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง จะเรียกว่าเป็นการ ล็อกสเปก เอาหน้างาน แต่บังเอิญว่าเป็นระบบราชการไทยที่อยู่ภายใต้ระบบ อุปถัมภ์ของนักการเมือง เพราะฉะนั้นสู้ทำงานเช้าชามเย็นชามไม่ต้องดิ้นรน ชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฏ สิ้นปีรับไปหนึ่งขั้น สบายใจกว่าเยอะวันนี้เริ่มจะมีคำถามถึงรัฐบาล ถึงกองทัพ จะให้ทหารขาขาด จนกว่าจะหมดทั้งกองทัพหรือเปล่า ถึงจะรู้ร้อนรู้หนาวตอบโต้กัมพูชาบ้าง หรือมีมาตรการเด็ดขาดในการรักษาขาของ ทหารชายแดน เอาไว้ให้ครบทั้งสองข้าง การประท้วง ประณาม ตอบโต้ ขึงรั้วลวดหนาม ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น การรักษาความเป็นสุภาพบุรุษ หรือยึดหลักสันติวิธี ไม่ได้ทำให้ ทหารไทย และพลเรือนไทย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินถ้าไม่มีปัญหาชายแดน คนไทยก็ไม่รู้เลยว่า คนกัมพูชาบุกรุกเข้ามาอยู่อาศัยในแผ่นดินไทยที่ บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว มาเป็นเวลาช้านาน นอกจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะอยู่รอดปลอดภัย ไม่ต้องถูกโยกย้ายไปไหน ยังแสดงให้เห็นการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามของระบบราชการไทยได้ชัดเจนที่สุดการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือจะมีการประชุมอีกกี่สิบกรรมการ ไม่มีสัญญาณว่าจะทำให้ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยุติลง ในแนวทางสันติวิธี มีแต่จะยืดเวลาความขัดแย้งไปเรื่อยๆ นอกจากการถ่ายภาพจับมือกันระหว่างคณะกรรมการไทยกับกัมพูชาแล้ว ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากรัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะออกสื่อแล้วพูดว่า การหารือเป็นไปในทางที่ดี วันรุ่งขึ้น ทหารก็เหยียบทุ่นระเบิดอีกแล้ว รมว.ต่างประเทศ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ข้ามน้ำข้ามทะเล ไปสวีเดน ไปเซ็นสัญญา ซื้อเครื่องบินรบกริพเพนจากสวีเดน รวมแล้วมูลค่ากว่าแสนล้าน เสร็จแล้วก็บินต่อไปกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อไปชี้แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี ถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชามีการใช้ระเบิดสังหารบุคคลที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาออตตาวา การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ยืนยันท่าทีบทบาทของประเทศไทยที่รักสันติต้องการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี กลุ่มประเทศสมาชิกฟังแล้วคงพยักหน้าหงึกๆ และออกข่าวว่าผลเป็นบวกกับไทยบริบทของกฎแห่งกรรม ไม่ต้องรอชาติหน้า ถ้าแผ่นดินไม่ไหว ตึก สตง.ใหม่ไม่ถล่ม ก็คงไม่รู้ว่า ขยะที่ซุกอยู่ใต้พรม สตง.มีอะไรบ้าง ถ้าไม่มีสีกา ก็คงไม่รู้ว่า ขยะที่ซุกอยู่ใต้ผ้าเหลืองมีอะไร ถ้าไม่มีคลิปเสียงฮุน เซน คงไม่รู้อะไรดีๆกฎแห่งกรรมไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม