วันเสาร์สบายๆวันนี้มาคุยเรื่องถนนบรรทัดทอง สตรีทฟู้ดชื่อดังของกรุงเทพฯกันนะครับ เป็นปีแล้วที่จำนวนนักท่องเที่ยวไปกินเที่ยวเช็กอินที่บรรทัดทองลดลง ลูกค้าหดหาย ทำให้ผู้ประกอบการประสบภาวะวิกฤติ หลายร้านต้องยอมตัดใจปิดกิจการ บรรยากาศซบเซาน่าใจหายผมเกิดและโตในย่านบรรทัดทอง แม้ย้ายบ้านออกมา 20 กว่าปีแล้ว แต่ยังแวะเวียนกลับไปหาของกินรำลึกความหลังอยู่เสมอ สมัยก่อนร้านอาหารส่วนใหญ่อยู่ใน ตลาดสวนหลวง ด้านหลังถนนบรรทัดทอง กระทั่งถูกจุฬาฯเวนคืนที่ดิน ร้านรวงเก่าแก่มีชื่อทั้งหลายจึงได้แยกย้ายออกไปค้าขายที่อื่นแทน ขณะที่บางร้านก็ยังยึดทำเลเดิม หาเช่าที่เปิดร้านบนถนนบรรทัดทองตลาดสวนหลวงเป็นแหล่งรวม อาหารสตรีทฟู้ดรสเลิศราคาสบายกระเป๋า มีร้านดังหลายเจ้า หรือบางร้านไม่มีชื่อแต่รสชาติดี เช่น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายใบ้ (ล้งเล้ง) เจ๊โอวข้าวต้มเป็ด ข้าวพระราม ลงสรง หมูสะเต๊ะ คั่วไก่กระทะร้อน ก๋วยเตี๋ยวตำลึง ไก่ทอดหาดใหญ่หน้าศาลเจ้า ข้าวหมูแดงเจ๊โส่ย ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเม้ง ไอศกรีมไข่แข็ง พรเจริญ เซ็งซิมอี๊ (ลือลั่นสะท้านโลกันตร์)พอตลาดถูกเวนคืน บางร้านไม่อยากย้ายไปที่อื่น ก็ขยับออกมาเปิดใหม่บนถนนบรรทัดทอง ช่วงแรกยังไม่ได้มีร้านมากมายอัดแน่นอย่างที่เห็นในตอนนี้ แต่พอยืนระยะได้ ลูกค้าเก่ายังอยู่ ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้มีเจ้าอื่นแห่ตามมาเปิดเต็มไปหมด ต้องยกเครดิตให้ร้านเจ๊โอว เดิมขายข้าวต้มเป็ดที่ตลาดสวนหลวง ลูกค้าไม่เยอะถึงขั้นต้องรอคิว แต่พอย้ายร้านมีเมนูใหม่เพิ่มหลายอย่าง โดยเฉพาะมาม่าโอ้โห กลายเป็นกระแสดังในโลกโซเชียลยุคแรก ลูกค้ายืนรอคิวเป็นชั่วโมงร้านที่ได้รับความนิยม ลูกค้าแน่นขนัดเสมอ เช่น ร้านหนึ่ง นม นัว ร้านล้งเล้งลูกชิ้นปลา ร้านหมูสะเต๊ะนายซ้ง ร้านเฮงหอยทอดชาวเล ร้านรสข้นน้ำยาปู ฯลฯผมค่อนข้างติดรสชาติดั้งเดิม จึงรู้สึกว่าร้านอาหารที่บรรทัดทอง มีทั้ง ร้านอร่อย พอกินได้ และไม่อร่อยเลย ร้านเก่าแก่บางร้านฝีมือตก จุดเด่นความอร่อยขาดหายไป ร้านมีชื่อจากถิ่นอื่นที่ขยายสาขามาเปิดที่นี่ มีทั้งที่ต่อยอดได้ และมีที่ไม่อร่อยเท่าต้นตำรับ ขณะที่ร้านใหม่หลายร้านมีฝีมือ แต่อีกหลายร้านก็แทบไม่เห็นลูกค้าสิบกว่าปีแล้วที่บรรทัดทองเติบโตอย่างมีศักยภาพ แต่จุดแข็งบางทีก็กลายเป็นจุดอ่อนได้ ที่นี่ขายนักท่องเที่ยวกับกลุ่มวัยหนุ่มสาวเป็นหลัก ลูกค้ามาตามรีวิว ตามกระแสโซเชียล พอเศรษฐกิจทั่วโลกฟุบ นักท่องเที่ยวลดลง กระแสโซเชียลก็ลดตาม ลูกค้าหายไปกว่าครึ่ง ค้าขายขาดทุน สู้ค่าเช่าที่ไม่ไหวโดยเฉพาะร้านที่เช่าช่วงมาอีกทอด เจ๊งกันเป็นแถว น่าเสียดายทำเลทองแห่งนี้ยังดีที่ตอนนี้ได้กระทรวงพาณิชย์ออกหน้ามาช่วยแก้ปัญหาแล้ว ทำให้พอจะเห็นโอกาสพลิกฟื้นบรรทัดทองให้กลับมาคึกคัก และปลุกปั้นให้เป็นแลนด์มาร์กดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ และ คุณฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เพิ่งลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ โดยคุณจตุพรเสนอแนวทางเร่งด่วน 4 ด้าน 1.รวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง เป็นกลไกหลักในการสื่อสารและตัดสินใจ 2.กำหนดคอนเซปต์ย่าน (Unique Identity) สร้างบรรยากาศที่แตกต่างเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว 3.ลดต้นทุนผู้ประกอบการ 4.การจัดอีเวนต์ต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับย่านท่องเที่ยวอื่นๆรมว.จตุพรประกาศพร้อมจะประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ผลักดันนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการรณรงค์ใช้สินค้าไทยไปพร้อมกับการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ย่านนี้ เป็นสตรีทฟู้ดที่ปลอดภัย เดินสนุก กินเพลิน เดินชิล เติมศิลป์ เป็นแลนด์มาร์กที่ใครมากรุงเทพฯก็ต้องแวะมาในเมื่อฝ่ายนโยบายมีคอนเซปต์ชัดแล้ว ผมขอฝากให้ดูเรื่องค่าเช่าที่ การจัดระบบนิเวศ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้เหมาะสม ส่วนผู้ประกอบการก็อย่าตั้งราคาสูงนัก.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม