วันนี้ (12 สิงหาคม 2568) เป็น “วันแม่แห่งชาติ” วันซึ่งมีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่งยวดของพวกเราชาวไทย เพราะเป็นทั้งวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันรำลึกถึง “พระคุณแม่” ผู้ให้กำเนิดและให้ชีวิตแก่พวกเราชาวไทยทุกๆคนแต่เดิมนั้นรัฐบาลไทยตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กำหนดให้วันที่ 15 เมษายน เป็น “วันแม่แห่งชาติ” จัดให้มีการประกวดคำขวัญวันแม่, ประกวดแม่แห่งชาติ ฯลฯ เริ่มโดยกระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2493 เป็นต้นมาจัดได้ระยะหนึ่งมีการยุบกระทรวงวัฒนธรรม จึงยุบงานวันแม่แห่งชาติไปโดยปริยาย จนถึงปี 2519 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ริเริ่มขึ้นใหม่ โดยยึดถือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติไปด้วยในวันเดียวกันพร้อมกับกำหนดให้ “ดอกมะลิ” อันเป็นดอกไม้ที่ขาวบริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ มาตั้งแต่ พ.ศ.ดังกล่าว ซึ่งนับมาถึงบัดนี้เป็นเวลาถึง 49 ปีจะครบ 50 ปีในปีหน้าพสกนิกรชาวไทยจึงถือเป็นประเพณีนิยมที่จะแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่คนไทยเคารพเทิดทูนประดุจ “แม่แห่งแผ่นดิน” ควบคู่ไปกับการแสดงความเคารพ กราบรำลึกถึง “พระคุณแม่” ผู้ให้กำเนิดแก่เราและเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่ในทุกวันนี้เมื่อครั้งสมเด็จพระพันปีหลวงยังทรงดำรงตำแหน่ง พระบรมราชินีนาถ คู่พระทัย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติ และปวงชนชาวไทยอย่างอุทิศพระวรกายมาโดยตลอดทรงมีพระราชดำริในโครงการสำคัญๆต่างๆอีกหลายโครงการเป็นการส่วนพระองค์ อาทิ โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาแหล่งนํ้า และปลูกป่า ฯลฯโดยเฉพาะ โครงการส่งเสริมอาชีพ แก่ราษฎรยากจน ต่อมาได้พัฒนาเป็น โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ และ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น โขน เสื้อผ้าแพรพรรณ ตลอดจนหัตถกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีการนำมาแสดงนิทรรศการ และออกร้านจำหน่ายในหลายๆงานที่จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในช่วงนี้พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอันเป็นที่ประจักษ์เหล่านี้ จะคงอยู่ในความทรงจำของปวงชนชาวไทยตลอดไป และจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อถวายความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกันในวันนี้เริ่มจากเวลา 07.30 น. ณ ท้องสนามหลวง จะมีพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์และสามเณร 194 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านจากนั้นในช่วงเย็นนับตั้งแต่ 17.30 น.เป็นต้นไป จะมีพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ณ ท้องสนามหลวง รวมทั้งจะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เวลา 19.19 น. อันเป็นมงคลฤกษ์สำหรับต่างจังหวัดก็จะมีขึ้น ณ หน้าศาลากลางจังหวัด ทั้งในภาคเช้าและภาคเย็นในเวลาเดียวกับ กทม. ...ขอเชิญพี่น้องประชาชนทั่วประเทศร่วมถวายพระพรชัยมงคลอย่างพร้อมเพรียงกันนะครับในส่วนของการระลึกถึง “พระคุณแม่” ผู้ให้กำเนิดแก่เรานั้น ก็เป็นประเพณีที่พี่น้องประชาชนปฏิบัติอยู่แล้วด้วยการนำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบแม่...หรือที่อยู่ห่างไกลก็ใช้วิธีโทรศัพท์แบบ “วิดีโอคอล” แสดงความรัก ความเคารพ และความห่วงใยหลายๆท่านที่ “คุณแม่” ไม่อยู่แล้วก็จะทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ พร้อมยกมือไหว้รำลึกถึงพระคุณที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ปฏิบัติเคียงคู่กันไปทั้งการถวายความจงรักภักดีแด่ “แม่แผ่นดิน” และกราบหรือกอด “แม่” ของเราทุกคนในวันนี้นะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม