สินค้าเกษตรที่บราซิลผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของโลกมีหลายอย่าง เช่น ถั่วเหลือง อ้อย กาแฟ ฯลฯ บราซิลผลิตกาแฟได้มากปีละ ประมาณ 55-65 ล้านถุง (ถุงละ 60 กิโลกรัม)รายได้ของบราซิลจากการส่งออกกาแฟใน พ.ศ.2568 อยู่ที่ 21.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นหมายความว่าเฉพาะกาแฟเพียงอย่างเดียวทำเงินให้เกษตรกรบราซิลมากกว่า 7 แสนล้านบาท (อาราบิก้า 14.76 พันล้านดอลลาร์ และโรบัสต้า 6.17 พันล้านดอลลาร์)สมาคมกาแฟแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา และองค์กรที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลว่าชาวโลกบริโภคกาแฟประมาณ 2.25 พันล้านถ้วยต่อวัน หรือเฉลี่ย 5.5 ล้านถ้วยต่อวินาที (ncausa.org และ coffeedasher.com) หลายองค์กรระดับโลกทำนายว่ากาแฟจะเป็นพืชเกษตรเพียงประเภทเดียวที่จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปีทุเรียนปลูกได้เฉพาะประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่นิยมบริโภคกันเฉพาะไม่กี่ประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฯลฯ ตลาดทุเรียนจึงแคบ ไม่เหมือนกับกาแฟที่มีสถานะเป็นพืชสากลอันดับ 1 ของโลกของจริง เพราะชาวโลกดื่มกาแฟกันทุกประเทศ ทว่าปลูกกาแฟได้เฉพาะ Coffee Belt ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างละติจูด 23.5 องศาเหนือ และ 23.5 องศาใต้ (ไทยอยู่ที่ 5 ถึง 21 องศาเหนือ)การศึกษาของ National Coffee Association (NCA) ที่ทำเมื่อมกราคม 2568 พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ใหญ่อเมริกัน หรือประมาณร้อยละ 66 (172 ล้านคน) ดื่มกาแฟทุกวันและดื่มมากกว่าน้ำดื่มบรรจุขวด คนอเมริกันดื่มกาแฟโดยเฉลี่ย 3 ถ้วยต่อวัน NCA ประเมินว่าอีกไม่เกิน 5 ปี คนอเมริกันจะดื่มกาแฟ 195 ล้านคนก่อน พ.ศ.2568 สหรัฐฯไม่เก็บภาษีกาแฟจากบราซิล กระทั่ง 2 เมษายน 2568 สหรัฐฯเก็บภาษีกาแฟจากบราซิลร้อยละ 10 และ 1 สิงหาคม 2568 สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีกาแฟบราซิลร้อยละ 50 (มีข่าวว่าจะเริ่มบังคับใช้ 6 สิงหาคม 2025)สหรัฐฯเป็นประเทศที่มีการบริโภคกาแฟมากที่สุดในโลก และนำเข้าเม็ดกาแฟเฉลี่ยปีละ 25 ล้านกระสอบ โดยมาจากบราซิล 8 ล้านกระสอบถ้าวันนี้ (พุธ 6 สิงหาคม 2568) สหรัฐฯเก็บภาษีกาแฟจากบราซิลร้อยละ 50 จริง จะทำให้ราคากาแฟในสหรัฐฯพุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้ และกาแฟบราซิลจะไม่สามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐฯได้ หากสหรัฐฯขึ้นภาษีกาแฟจากบราซิลจริง จะเป็นโอกาสของเกษตรกรชาวไทย เกษตรกรไทยอาจจะหันมาปลูกกาแฟกันมากขึ้น กาแฟอาราบิก้าใช้เวลาเพียง 3-4 ปีก็ให้ผลผลิต กาแฟโรบัสต้าใช้เวลา 2.5-3 ปี และกาแฟลิเบอริกาใช้เวลา 4-5 ปีสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร มีวิสัยทัศน์สร้าง ‘ยุทธศาสตร์กาแฟแห่งชาติ’ กล้าเสนอให้เกษตรกรเปลี่ยนการปลูกพืชชนิดเดิมอย่างเช่น ‘ข้าวโพด’ มาเป็น ‘กาแฟ’ ที่ผมถือว่าเป็นสุดยอดวิสัยทัศน์ที่สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่ประเทศก็คือ ‘การส่งเสริมการปลูกกาแฟร่วมกับป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว’ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดสุดยอดกาแฟไทย อันเป็นขวัญกำลังใจอันล้ำค่าต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟทั่วประเทศผม (นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย) ได้รับเกียรติจากกรมวิชาการเกษตรแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการ ‘โครงการประกวดสุดยอดกาแฟไทย’ พ.ศ.2567 และในปีนี้ พ.ศ.2568 ก็มีคำสั่งกรมวิชาการเกษตรที่ 1682/2568 ตั้งผมเป็นที่ปรึกษา 1.คณะกรรมการอำนวยการ 2.คณะกรรมการจัดประกวด และ 3.คณะกรรมการตัดสินฯงานประกวดสุดยอดกาแฟไทยปีนี้ จัดระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม 2568 เพื่อ 1.เทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟ 2.เพิ่มพื้นที่ปลูกกาแฟคุณภาพ 3.ลดปัญหา PM 2.5 ในภาคเกษตรไทย 4.สร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ และ 5.สร้างความเข้มแข็งตลอดห่วงโซ่การผลิตกาแฟไทยทราบว่ากาแฟไทยเริ่มปลูกอย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จังหวัดที่เด่นเรื่องการปลูกกาแฟเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วคือจันทบุรีผมเองเป็นเจ้าของแบรนด์กาแฟสวนจันท์ (Suan Chan Coffee) แต่ความที่เป็นคณะกรรมการฯ ผมจึงไม่เคยส่งกาแฟแบรนด์สวนจันท์เข้าประกวดภาษีร้อยละ 50 ที่สหรัฐฯแจ้งว่าจะเริ่มเก็บจากกาแฟบราซิลในวันนี้ ถ้าเก็บจริง ก็เป็นโอกาสทองของกาแฟไทยอย่างคาดไม่ถึง.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม