“แม้ศัตรูมีอาวุธครบมือ แต่หากใจขลาด ย่อมแพ้ตั้งแต่ยังไม่รบ...” วาทะของนักรบไทยในอดีตสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงอาวุธที่อยู่ในมือ หากแต่คือพลังใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธา และหนึ่งในสิ่งที่คอยเกื้อหนุนพลังใจนั้น คือ “ยันต์เกราะเพชร”เครื่องรางอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทหารไทยในทุกยุคทุกสมัยมักพกติดตัวเข้ารบ“ยันต์เกราะเพชร” ไม่ใช่เพียงแค่ลวดลายอักขระบนผืนผ้า แต่มีรากฐานจากคัมภีร์พุทธคุณระดับสูง ตามตำนานกล่าวว่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นผู้สร้างสรรค์บทสวด “พระคาถายันต์เกราะเพชร” โดยมีหลักในการสวดพุทธคุณ 108 จบ เพื่อเสริมแกร่งพลังจิต และสร้างเกราะคุ้มกันภัยทั้งทางกายและใจต่อมาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ได้นำยันต์เกราะเพชรมาพัฒนาเป็นรูปแบบที่ประชาชนเข้าถึงได้ ทั้งในรูปแบบผ้ายันต์ สมุดยันต์ ตะกรุด หรือแม้แต่การถ่ายทอดบทสวดให้สาธุชนทั่วไปสามารถสวดเองได้ที่บ้าน ในอดีตยันต์เกราะเพชรถูกมอบให้กับทหารหาญก่อนออกรบ โดยเชื่อว่าผู้พกพาจะรอดพ้นจากอันตราย ป้องกันศัสตราวุธ คงกระพันชาตรี และยังช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้อีกด้วยเรื่องเล่าจากชายแดน...มีทหารชายแดนรุ่นเก๋าเคยเล่าไว้ว่า “ตอนอยู่แนวหน้า ปืนยิงเฉียดหู ข้าวไม่มีกิน หนาวจนเลือดจับตัว...แต่พอเอามือแตะยันต์ในอกเสื้อ เหมือนมีกำลังใจขึ้นมาทันที”บางคนถึงกับเล่าว่า ขณะที่เพื่อนร่วมรบถูกกระสุนล้มลงไปตายหลายคน ตัวเองกลับรอดมาได้เพราะพกยันต์เกราะเพชรติดตัวไว้ตลอดเวลาเรื่องราวเหล่านี้แม้ไม่มีหลักฐานทางวิทยา ศาสตร์ใดยืนยันว่า ยันต์สามารถป้องกันกระสุนได้จริง แต่พลังศรัทธาที่นักรบมอบให้กับยันต์เกราะเพชรนั้น กลับแสดงให้เห็นถึง “พลังใจ” อันเข้มแข็งจิตวิทยาทางการรบยืนยันว่า หากผู้ใดเชื่อมั่นว่าตนเองมีสิ่งคุ้มครอง จะทำให้ไม่ตกใจง่าย มีสติพร้อมรับสถานการณ์ นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมยันต์เกราะเพชรจึงยังคงอยู่ในกระเป๋าเสื้อของทหารหลายคน แม้ในยุคที่เทคโนโลยีสงครามจะก้าวล้ำเพียงใด บทสวด “พระคาถายันต์เกราะเพชร” มีเนื้อหาสั้น กระชับ สวดได้ง่าย แต่ทรงพลังหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำแนะนำให้สวดทุกวัน วันละ 9 จบ หรือ 108 จบ เพื่อเสริมเมตตา คุ้มครองภัย แคล้วคลาดจากอันตรายO O O O“ยันต์เกราะเพชร” (เว็บบอร์ด www.watthakhanun.com) บันทึกไว้ว่า การเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปานท่านบอกว่าเป็น ตำราพระร่วง สำหรับยันต์เกราะเพชรนั้นก็ได้จากบท อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติถ้าอ่านลงตามแบบหนังสือจีน คือ อ่านตามขวาง ก็ได้ใจความว่า อิระชาคะตะระสาติหัง จะโตโรถินัง ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น..แล้วก็ชักสูตรเป็นตาข่าย เวลาจะเป่ายันต์เกราะเพชร ท่านก็เขียนใส่กระดานดำ เมื่อท่านเขียนแล้ว ก็ให้คนที่จะมารับยันต์เกราะเพชร จุดธูปเทียนบูชารับศีลแล้วก็ภาวนา ว่า “พุท” ...หายใจเข้า “โธ”...หายใจออกถ้ามีลูกอยู่ในท้องก็ให้จุดธูปแทนลูกในท้อง 1 ดอก เวลาคลอดบุตรออกมา ก็จะมียันต์ทั่วทั้งตัว แล้วภายในเวลา 7 วัน ยันต์ก็จะหายเข้าไปในตัว..สำหรับผู้ใหญ่นั้น ย่อมไม่เห็นยันต์ ถ้าใครรักษาไว้ด้วยดี เมื่อเวลาตายเขาเอาไปเผา จะเห็นมีรูปยันต์ที่กระดูกยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานนี้ท่านกล่าวว่า ท่านได้มาจากยอดธงมหาพิชัยสงครามเป็นธงออกศึก ท่านตัดเศียรเอามาโดยเฉพาะ แบ่งจากยอดธง คือ ธงนั้นมียันต์มาก ทีนี้เอายันต์หนึ่งในยอดธงมหาพิชัยสงคราม ท่านให้ชื่อว่า “ยันต์เกราะเพชร”เวลาที่ท่านจะเป่าให้ ท่านอธิบายว่าของท่านไม่รับรองเรื่องคงกระพันชาตรี รับรองแต่เพียงว่าใครรับยันต์เกราะเพชรแล้ว... จะไม่ตายโหง, จะไม่ถูกคุณผี คุณคน จะป้องกันสรรพอันตรายที่บุคคลทั้งหลายทำมาด้วยวิชาการต่างๆ, จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์พิษ อย่างนี้ เป็นต้น O O O Oบุคคลทั้งหลาย...ถ้าได้รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าบูชาไว้ด้วยดี ใครก็ตามจะกลั่นแกล้งบุคคลที่ได้รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ท่านห้ามไม่ให้โกรธตอบ ให้ทำเฉยแล้วบุคคลนั้นจะได้รับผลกรรมที่ตัวทำนั้น หมายความว่า...เราไม่ต้องทำตอบ เมื่อเขาแกล้งเราด้วยวิธีใด ก็วิธีนั้นแหละจะลงโทษเขาถ้าเขาคิดจะฆ่าเรา เขาก็ตายเอง ถ้าเขาจะกลั่นแกล้งเราให้ย่อยยับ เขาก็ย่อยยับเอง ถ้าเขาจะทำให้เราลำบาก เขาก็ลำบากเอง อันนี้เป็นวิธีการอันหนึ่งที่ไม่ใช่ทำให้เขาลำบาก ถ้าเขาทำ ผลนั้นเขาจะพึงได้รับเอง เราไม่บาป แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า...ห้ามดื่มสุราเมรัยเด็ดขาด ห้ามทุจริตโดยการลักขโมย ฉ้อโกงอย่างนี้ เป็นต้นถ้าใครประพฤติปฏิบัติในศีล 2 ประการได้ “ยันต์เกราะเพชร”...ก็จะคุ้มครองบุคคลผู้นั้น ถ้าใครรักษาศีลไม่ได้ ยันต์เกราะเพชรจะไม่คุ้มครอง อันนี้เป็นความจริง เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง...“จะเช มัตตา สุขังธีโร”...ปัญญาชนพึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม“ศรัทธา”..นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้..“ลบหลู่”.รัก-ยมคลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม