ชิงความได้เปรียบก่อนเจรจา สถานการณ์ล่าสุดระหว่างไทย-กัมพูชานั้นจะเห็นได้ว่ากระบวนยุทธ์ทางการสู้รบนั้นไทยเหนือกว่าอย่างชัดเจนแบบว่ากัมพูชา โดยเฉพาะ “ฮุน เซน” ผู้นำตัวแสบมองเห็นแล้วหากรบกันต่อไปยิ่งนานก็ยิ่งเพลี่ยงพล้ำพูดง่ายๆไม่มีทางสู้ได้!แต่จะหาทางลงอย่างไรเท่านั้น!แม้เขาจะประสบความสำเร็จ ที่ทำให้ความขัดแย้งไปสู่สังคมประชาโลกได้แต่ก็ไม่ได้อย่างที่เขาคาดคิดเพราะนานาชาติให้ความเชื่อถือข้อมูลไทยมากกว่าการประชุมยูเอ็นเอสซีเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ตามคำร้องขอของ 2 ประเทศคือ กัมพูชาและไทยนั้นได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการเพราะเป็นประชุมลับปรากฏการประชุมที่กัมพูชาได้ชี้แจงว่าไทยรุกรานก่อนและยิงก่อนแต่ไทยก็ตอบโต้ว่ากัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนที่สำคัญคือกัมพูชาระดมยิงใส่พลเรือนและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านที่มหาดไทยแถลงว่าเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงสมควรได้รับการประณามผลการประชุมสรุปแล้วมี 2 ประเด็น!1.ให้ทั้ง 2 ฝ่ายยุติการสู้รบและหาทางเจรจาเพื่อนำไปสู่สันติ2.ให้อาเซียนเข้ามามีบทบาทในการเจรจาเพื่อหาทางออกเท่ากับว่าเป็นการหาทางยุติความขัดแย้งด้วยการเจรจาซึ่งเป็นแนวทางสากลที่ใช้ในกรณีอย่างนี้ไม่ต่างไปจากเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นมาแล้วแน่นอนว่ากัมพูชาคงพอใจแล้วที่สามารถนำเรื่องนี้ขึ้นสู่เวทีประชาคมโลกอีกทั้งต้องการหาทางลงด้วยการเจรจาบอกว่าให้ไทยหยุดยิงก่อนอย่างไม่มีเงื่อนไขแต่ไทยยังไม่ตอบรับ ตอบกลับไปว่ากัมพูชาต้องแสดงความจริงใจก่อนเพราะระหว่างที่พูดถึงการหยุดยิงกัมพูชาก็เปิดฉากยิงถล่มไทยอีกโดยย้ายพื้นที่ไปโผล่ที่ตราดซึ่งเป็นการเปิดสมรภูมิใหม่นี่เป็นความเจ้าเล่ห์ที่ไทยต้องรู้เท่าทัน!ดังนั้นไทยจึงตอบโต้ให้หนักขึ้นเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้เหนือกว่าจนที่สุดกัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่นต้องขอให้หยุดยิงและขอเจรจาด้วยเพราะถ้าทิ้งเวลาให้นานไปกว่าเขาจะยิ่งสูญเสียมากขึ้นประเด็นที่จะเปิดเวทีเจรจานั้นไทยมีทางเลือกหลายทาง ทางหนึ่งก็คือ ตกลงแบบทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศหรือจะให้ประเทศอื่นเป็นตัวกลางซึ่ง “อันวาร์” ผู้นำมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอตัวมาแล้วก็เป็นเรื่องที่ไทยจะเอายังไงก็เป็นเรื่องของเราที่จะตัดสินใจประเด็นก็คือ “ฮุน เซน” นั้นได้สร้างความเจ็บแสบให้ไทยอย่างที่ไทยจะต้องจดจำและต้องไม่ให้เกิดขึ้นมาอีกดังนั้นเราจึงต้องมีเงื่อนไขที่ทำให้กัมพูชาต้องยอมรับเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกซึ่งก็ขึ้นอยู่กับข้อต่อรองระหว่าง 2 ฝ่ายแต่ในความได้เปรียบที่ไทยเหนือกว่าน่าจะต้องรุกมากกว่ายอมกันง่ายๆเพราะกัมพูชาไม่ได้เห็นไทยเป็นมิตรแม้แต่น้อยมีแต่จ้องจะเอาเปรียบด้วยเล่ห์กลสารพัดวิธีจนเกิดเหตุขึ้นมานับประสาอะไรขนาด “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นเพื่อนเกลอกันมันยังทำแสบมาแล้ว...ขนาดทำให้ลูกสาวตกเก้าอี้ผู้นำประเทศมันยังทำเลย... นับประสาอะไร!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม