โฟกัสสายตาทั่วโลกจับจ้องมาที่ชายแดนไทย– กัมพูชาตามควันไฟสงครามที่คุโชนขึ้นจากจุดที่ทหารเขมรเป็นฝ่ายสาดอาวุธใส่ทหารไทยที่เฝ้าเวร ณ ฐานปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ต่อเนื่องจากการที่กองทัพไทยสั่งปิดด่านชายแดนและปิดเส้นทาง ห้ามเข้าพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมขับทูตกัมพูชาประจำกรุงเทพฯ เรียกทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับ เพื่อแสดงการตอบโต้ทางการกัมพูชาที่ลอบวางกับดักระเบิดในพื้นที่เขตแดนไทย จนทหารไทยขาขาด บาดเจ็บสาหัส“ลอบกัด” โดยไร้สปิริต ไม่สนกฎกติกา ข้อตกลงในเวทีสากลและถึงขั้นเปิดแนวรบ กองทัพกัมพูชาก็แสดงความเลวทรามต่ำช้าด้วยการยิงกระสุนปืนใหญ่ ถล่มอาวุธสงครามใส่เป้าหมายพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยสถานที่ปลอดการสู้รบ ห้ามโจมตีจุดอ่อนไหวตาม “อนุสัญญาเจนีวา”โดยเฉพาะจุดปั๊มน้ำมัน ปตท.ใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เขตที่ลึกเข้ามาในพรมแดนไทย ห่างจากชายแดนกว่า 20 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังซื้อของในร้านสะดวกซื้ออีกส่วนก็คือบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพรมแดนไทย ยังหนีไม่พ้นถูกลูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ ระเบิดสนั่นหวั่นไหว ตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่สันดานเขมรพาลดะ โชว์ความกระจอก รังแกแม้ชาวบ้านมือเปล่าไร้ทางสู้พฤติการณ์เถื่อนของ “อาชญากรสงคราม”แล้วยังหน้าด้านหน้าทน โร่ฟ้องยูเอ็น ตามฟอร์มที่ “ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชา ชิงส่งจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้จัดการประชุมโดยเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไทยขณะที่ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โชว์ภาพบัญชาการเกมรบ กางแผนที่ทหารขนาดใหญ่ แวดล้อมไปด้วยขุนศึกรอบกาย สั่งการกองทัพเปิดศึกโจมตีไทย“เขมรตัวพ่อ” คุมเกมการรบชายแดน “เขมรตัวลูก” เดินหมากในเวทียูเอ็น“พ่อลูกตระกูลฮุน” แบ่งบทกันเล่นอย่างเป็นรูปแบบ ต่างกับ “พ่อลูกตระกูลชิน” ที่แทบไม่มียุทธศาสตร์ ในสภาพที่ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร “นายกฯคนลูก” ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ผลจาก “คลิปร้อน” อ้อน “อังเคิล ฮุน เซน” มองทหารไทยเป็นฝ่ายตรงกันข้ามตามฟอร์มแบบที่ “อดีตนายกฯคนพ่อ” อย่างนายทักษิณ ชินวัตร พยายามแสดงตัวแสดงตนเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของรัฐบาลเพื่อไทย ในการประจันหน้ากับ “พ่อลูกตระกูลฮุน”แบบที่ทวีตด่าแหลก “ฮุน เซน” เพื่อนรัก รัวถล่มผ่านแนวรบโซเชียลฯกันถี่ๆประจานผู้นำเขมรสั่งยิงก่อน สันดาน “พระยาละแวก” เจ้าเล่ห์ ทรยศ“นายใหญ่” เพื่อไทยโชว์เปิดไฟเขียวให้กองทัพไทยลุย พร้อมออกตัวบอกปัดข้อเสนอนานาชาติที่เสนอตัวไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ขอเวลาทหารสั่งสอนให้เข็ดหลาบ“ทักษิณ” โดดออกมาแนวหน้า ท้ารบ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” ด้วยท่าทีดุดันแต่นั่นก็ทำให้ “ฮุน เซน” ได้จังหวะสวนหมัด ทวีตตอบโต้กลับในทันทีทันควันงัดภาพเก่าเป็นชุด เมื่อครั้งนายทักษิณกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แห่ไปร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบปีที่ 71 ของ “ผู้นำเขมรตัวพ่อ” ถึงคฤหาสน์พนมเปญพร้อมประโยคแสบๆคันๆ “ไม่แปลกใจท่าทีที่นายทักษิณบอกจะสั่งสอนผม เพราะเขาทรยศได้แม้กระทั่งสมาชิกพรรคของเขาเอง”ไม่เหมือนอาวุธทหารเขมรยิงมั่ว แต่ “ฮุน เซน” สวนกลับ “ทักษิณ” ได้ตรงเป้าและสังเกตคอมเมนต์คนไทย กระแสโซเชียลฯรุมตำหนิ “อดีตนายกฯคนพ่อ” ข้อหาชักศึกเข้าบ้าน พอๆกับถล่มด่า “นายกฯเขมรตัวพ่อ” ตั้งข้อสงสัยในสายสัมพันธ์ส่วนตัว “ตระกูลชิน” กับ “ตระกูลฮุน” ทำให้ข้อพิพาทชายแดนบานปลาย กลายเป็นความสูญเสียชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ณ จุดที่ประชาชนคนไทยมอบความไว้วางใจกองทัพ ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่ทหารเป็นหลักในการบริหารจัดการวิกฤติชายแดน ทำหน้าที่รักษาบูรณภาพและอธิปไตยเหนือดินแดนไทยในสภาพที่ฝ่ายบริหาร รัฐบาลไร้ผู้นำ “ตัวจริง” ในยามศึกสงครามไม่มีแม้แต่ “รมว.กลาโหม” ที่เว้นว่างไว้ในการต่อรองดีลอำนาจทางการเมืองโดยทางการแล้วก็เหลือแค่ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นเบอร์หนึ่งฝ่ายบริหาร รับบท “แม่ทัพจำเป็น”ตามสถานะ “พ่อบ้านใหญ่” ของ “อาณาจักรจันทร์ส่องหล้า” ที่รับภาระ “สตันต์แมน” รับแรงกระแทกแทน “นายกฯ 2 พ่อลูกตระกูลชิน” ต้องแปรนโยบาย ถ่ายทอดคำสั่งจาก “นายใหญ่” ไปสู่ภาคปฏิบัติอำนาจการตัดสินใจต้องดีเลย์ตามสถานะเบอร์รองจังหวะมันจึงย้อนแย้งกับสภาพเร่งด่วนของโจทย์สถานการณ์ปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่รัฐบาลผสมนำโดยพรรคเพื่อไทยไม่ใช่แค่วิกฤติสงครามชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ฉุกเฉินแต่อีกด้านมันยังมีสถานการณ์ภัยพิบัติ น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมเมืองในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน หนักสุดที่ จ.น่าน น้ำท่วมทะลักมากสุดในรอบหลายสิบปี ส่วนที่เฝ้าระวังวิกฤติจ่อตามมาทั้งที่พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ฯลฯฤทธิ์หางพายุ “วิภา” แค่ลูกแรกๆ โดยสถานการณ์กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ให้จับตาพายุกำลังก่อตัวอีกอย่างน้อย 3 ลูกชาวบ้านผวา นอนหลับไม่เป็นสุขประเมินตามสภาพการณ์ 2–3 ปีที่ผ่านมา ภัยพิบัติน้ำป่า อุทกภัยภาคเหนือไม่เคยแผ่ว มีแต่หนักขึ้นตามภาวะอากาศโลกเดือด ประกอบกับฝีมือมนุษย์ การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำเหมืองทองคำในเขตประเทศเมียนมามันคือปรากฏการณ์ที่คาดเดาได้ล่วงหน้า น้ำท่วมซ้ำซากอ่วมแน่ในเครื่องหมายคำถาม ศักยภาพของภาครัฐในการรับมือภัยพิบัติเตรียมพร้อมไว้แค่ไหน โดยเฉพาะกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นแม่งานหลักจังหวะ “โรงเชือด” ข้างคลองหลอด ทำข้าราชการผวาอารมณ์ปั่นป่วน “สิงห์คลองหลอด” จะกระทบภารกิจในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนแค่ไหนวิกฤติภัยพิบัติน้ำป่าทะลักท่วมเมือง ซ้ำเติมภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งเหวลากไม่ขึ้น ลำพังยังไม่รู้ “หวยล็อตโตคาวบอยทรัมป์” จะออกเลขไหน การเจรจาของ “ทีมไทยแลนด์” นำโดย “พระยาพิชัย” นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง จะปิดดีลภาษีด่านภาษีสหรัฐฯได้เท่าไหร่สภาพปากท้องประชาชนคนหาเช้ากินค่ำยังฝืดเคืองเต็มทีลุ้นกำหนดเส้นตายภายใน 1 สิงหาคมนี้ ถ้าหวยออกมาของไทยตัวเลขไม่ต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ที่จบดีลร้อยละ 20 อินโดนีเซียปิดกล่องที่ร้อยละ 19นักลงทุนโกยอ้าว ย้ายฐานหนีกระเจิงแน่พายุสมบูรณ์แบบ “The Perfect Storm” ถล่มเศรษฐกิจไทยยากจะฟื้นภาวะยากลำบาก คนไทยตื่นมาเจอแต่ฝันร้าย ไหนจะวิกฤติเศรษฐกิจหนักหนาสาหัส ไหนจะภัยพิบัติน้ำป่าท่วมเมืองซ้ำ ท่ามกลางเสียงตูมตามของปืนใหญ่จากการสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชา“สงครามเต็มรูปแบบ” ล้อมประเทศไทยจังหวะรัฐบาลเข้ามุมอับ เกมอำนาจการเมืองต้องเคลียร์โจทย์คณิตศาสตร์กันจ้าละหวั่น อย่างที่ “นายกฯคนพ่อ” อย่างนายทักษิณต้องเสี่ยงไปโผล่ในงานเลี้ยงดินเนอร์ กระชับสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลท้าทายเงี่ยงกฎหมาย พฤติการณ์ชัดปล่อยคนนอก “ครอบงำ”แต่นาทีคับขัน จับอาการ “พ่อลูกตระกูลชิน” ควงกันขึ้นเวทีย้ำความมั่นใจยื้อเกมอำนาจไปต่อโดยเฉพาะ “นายกฯคนพ่อ” ถึงกับงัดลูกเก๋าในเกมต้อนผู้แทนฯในสภา ย้อนตำนานสูตรโบราณ ตบกระเป๋าโชว์หน้าตักหนาๆในการล่อใจ “สส.งูเห่า” ประคองเกมโหวต ขณะที่ “นายกฯคนลูก” ต้องเข้าสภาไปนั่งคุม สส.โดดประชุม หลังเจอฝ่ายค้านเขย่า ทำสภาล่มติดๆกันกับสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ “รัฐบาลเป็ดง่อย” ผจญคลื่นศรัทธาตกต่ำอย่างหนักไม่รู้จะลากธงนำขบวนอนุรักษ์นิยมไปได้อีกกี่อึดใจ.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม