จังหวะที่ใช่! ถึงเวลาพิธีกร นักแสดง นักเขียนโปรดิวเซอร์ที่โด่งดังจากรายการ เทยเที่ยวไทย, ทอล์ก-กะ-เทย และล่าสุดกับรายการ ปูเสื่อรอ “ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร” หรือ “ยายป๋อมแป๋ม” ลุกขึ้นมาเสิร์ฟอีกบทบาทกับ One stand up comedy ครั้งแรกของ “ป๋อมแป๋ม” ใน “เกิด แก่ เจ็บ ยาย-Pompam’s Stand up comedy”! จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 18 ต.ค.68 จำนวน 2 รอบ เวลา 13.00 น. และ 19.00 น. ที่โรงละคร M Theater เปิดจองบัตร 1 ส.ค.นี้ ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และ www.thaiticketmajor.com ที่เจ้าตัวบอกเลยว่าแม้จะยืนพูดคนเดียวเล่าเรื่องราวของตัวเองที่พบเจอมาแต่มันก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทุกคนที่ต้องเคยเจอ เลยอยากชวนร่วมสนุกและเฉลิมฉลองเรื่องชีวิตธรรมดา อะไรที่จุดประกายขึ้นมาให้อยากทำ Stand up comedy ตอนนี้?“เรารู้สึกว่าช่วงตอนทำเทยเที่ยวไทยมันต้องทำทุกอาทิตย์ ต้องเล่าเรื่องนู่นนี่นั่นอยู่แล้ว ตอนนั้นมันก็มีคนชวนทำอยู่หลายที แต่ตอนนั้นพูดอยู่ตลอด มันไม่มีเรื่องใหม่ๆแต่พอหลังๆมันว่างขึ้น เทยเที่ยวไทยไม่ได้ทำเลยมีเวลาเก็บข้อมูล มีเรื่องใหม่ๆที่รู้สึกว่าเออก็คันปากอยากเล่า พอดีได้เจอพาร์ตเนอร์ที่น่ารักอย่าง นางแมวป่า คุณมะนาว ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ผู้เขียนบทให้เราตั้งแต่ตอน Wake up ชะนี แล้วก็คุยกันมาตลอดกับคุณมะนาวรู้สึกว่าอยากทำอะไรใหม่ๆพอได้ยินโปรเจกต์นี้เลยอยากมาช่วยเขียนให้ พอยายไปฮ่องกงกับน้องโอปอล-ปาณิสรา กับซันนี่ ก็นั่งรำพึงรำพันกับชีวิต น้องปอลก็เฮ้ยพี่มีคนทำให้หรือยัง กลายเป็นคนทำงานด้วยทั้งหมดก็เป็นแบบเป็นคนที่เรารักนับถือแล้วก็ไว้ใจ ก็เป็นเวลาที่ลงตัว 18 ต.ค.นี้” หลายคนอยากรู้ว่าครั้งนี้ป๋อมแป๋มจะเอาอะไรมาเล่า?“ตั้งแต่ช่วงที่หยุดโควิดไป งานมันก็เริ่มไม่ได้ตึงตัวมาก มันก็เลยมีเวลาได้ไปนั่งพิจารณาปลงอสุภะกับตัวเอง ตอนโควิดที่มันไม่ได้มีงานเลยหนึ่งเดือนก็มีงานครึ่งครั้ง เลยได้หนีไปอยู่ทะเลที่หัวหิน ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้ไปบวช เลยรู้สึกว่ามันก็มีเรื่องราวต่างๆนานาให้เล่าได้ พอในช่วงที่งานมันไม่ได้แน่นเนืองแล้วมันมีเวลาได้ไปทำงานอื่นๆที่ไม่ใช่งานวงการบันเทิง อยู่ดีๆเราต้องไปบริหารบาร์ ปั่นน้ำ ทอดไก่ได้ละวัน 400 บาท ทำแคทเทอริ่ง ก็เป็นอีกแชปเตอร์หนึ่งในชีวิตที่ยังไม่เคยเล่า เลยมานั่งคุยกับคุณมะนาว ว่าเอ๊ะทำไมมันก็ยังมีความสุขได้อยู่ ทำไมมันแฮปปี้ได้อยู่ ตอนบวชแล้ว ก็พอบวชเสร็จแล้วไปด้วยชุดลาสิกขาไปหัวหินเลย ในกระเป๋าก็คือมีจีวร ไปด้วยชุดสีขาว ไปซื้อเสื้อผ้า 5 ชุด ปรากฏว่าอยู่ตรงนั้นน่ะก็คือแบบ 6-7 เดือน ใส่เสื้อผ้าซักวนอย่างนั้น มันก็อยู่ได้ ก็รู้สึกว่าไอ้ชีวิตธรรมดาๆมันก็เพลิดเพลินดี ขณะเดียวกันมันก็ยังคงมีเรื่องขบขันมีเรื่องสนุกสนานอยู่ พอเรากลับมาเราก็รู้สึก Enjoy ชีวิตของการเป็นคนธรรมดาหรือชีวิตทั่วไป แล้วสังขารเรามันก็ไม่ใช่ว่าเหมาะสมจะไปโลดโผน เลยเอาเรื่องนี้มาเป็นธีมของงานว่าเดี๋ยวจะมา celebrate ความธรรมดากันว่ามันมีเรื่องสนุกอยู่นะ หลายๆเรื่องที่คัดมาเนี่ยก็หลักๆมันก็เป็นเรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คุณพ่อคุณแม่น่ะก็มีอินไซด์ประมาณนี้ร่วมๆกันเคยเจออะไรประมาณนี้” ลองยกตัวอย่าง 3 คนที่ถูกพูดถึงแน่ๆ? “3 คนที่จะเล่า ก็คงเป็นเรื่องของคุณเป็ด ผู้จัดการ อีกคนหนึ่งที่อยากจะขอเล่าเรื่องคือคุณพี่มอเตอร์ไซค์ ผมยาว หน้าศุภาลัย แบบวงอินคา เพราะเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ไม่รู้จักทาง และก็อาจจะเป็นเพื่อนๆที่เคยทำงานด้วยหรือเปล่า อย่างมอนสเตอร์ฝน ก็น่าสนใจ”เราต้องพูดให้คนดูข้างล่างมีความสุขและขำมันยากมั้ย?“ก็รู้สึกว่ายาก อย่างที่บอกว่ามันเป็นงานใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ไอ้ประเภทไปพูดเจื้อยแจ้วนานๆมันก็เคยทำแต่ก็เป็นแนวถามตอบ หรือไม่ก็เป็นเชิงสอนหนังสือ พออันนี้ Structure ของการมาเล่าเรื่องที่เป็น Stand Up มันก็มีอีกแบบ เราก็ทำงานกันค่อนข้างเยอะ ว่าจะเล่าในมุมไหน ก็ทำงานกับส่วนนี้เยอะ” ตื่นเต้นแค่ไหน? “ตื่นเต้นมากแล้วก็ไม่ Do or Die แต่ว่ามันแบบมันก็อุตส่าห์เก็บมาตั้งนานถึงจะทำ สำหรับตัวเองเราก็คาดหวังว่าอยากให้มันออกมาโอเค อย่างน้อยแล้วคุณผู้ชมมาฟัง หนึ่งคือได้หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ได้ฟังแล้วมีอะไรได้คิดเก็บกลับบ้านไปสักนิด” ถ้าคนดูที่รู้จักกันมีรีแอ็กตรงนั้นเลยล่ะ? “สำหรับคนดูก็ให้หัวเราะให้ตะโกนแซว เราเลือกจัด M Theater เพื่อให้ทางตัวเราเองที่อยู่บนเวทีกับคนดูมันยังแบบ มันยังรู้สึกว่าใกล้กันอยู่ เรายังเห็น ตะโกนแซวกันได้” ทำไมถึงใช้ชื่อว่า เกิด แก่ เจ็บ ยาย?“อย่างที่พูดว่าเราอยาก celebrate ความธรรมดา คำว่าเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นธรรมดาธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ที่ทุกคนเจอ ไม่ว่ายากดีมีจนสูงต่ำดำขาวก็เป็นเรื่องที่เป็นปกติของทุกคน เป็นคำตอบกับเรื่องราวที่เราจะเล่าเรื่องความทั่วไปที่ทุกคนอินได้ เก็ตได้ อยู่กรุงเทพฯแล้วต้องเจอกับรถมอเตอร์ไซค์ เป็นกระเทยที่มีพ่อเป็นเด็กช่าง ความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้าง เกิดคือพาร์ตครอบครัว แก่ก็คือเรื่องประสบการณ์จนถึงเรื่องของสังขารอันร่วงโรย เจ็บก็เป็นเรื่องโง่ๆเง่าๆในชีวิต ผู้ชาย ความรัก เรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหน ยายก็คือทุกวันนี้ก็ตกตะกอนมา ทุกวันนี้เราก็รู้สึกว่าการเป็นคนปกติทั่วไปมันอาจจะเกรด C เกรด B บ้าง ไม่ต้อง A ตลอด มันก็เป็นพาร์ตที่มีความสุขดี วันที่มีชัยเราก็แฮปปี้ แต่วันที่เราพ่ายแพ้บ้างมันก็ไม่ได้เป็นความตีอกชกตัว มันก็ไม่ได้เป็นความหดหู่ เป็นเรื่องธรรมดาปกติ” เป็นคนคอนเทนต์เข้าหามั้ย? “คือเราเป็นคนไม่ระมัดระวัง มันก็มีตอนเกิดมันก็ซวย แต่พอเวลาผ่านไปแล้วแป๊บหนึ่งมันก็จะกลายเป็นเรื่องตลกเอง เหตุการณ์ในอดีตพอมาเล่าอีกครั้งว่าตอนเกิดมันเต่าถุยยังไงมันจะกลายเป็นเรื่องที่ดีเอง เช่น ตกจักรยาน ตกเขา ตอนนั้นเจ็บนะ ย้อนไปตอนนั้นได้ยินเสียงเพื่อน เพื่อนไม่ได้ถามว่าเป็นอะไรมั้ย เพื่อนถามว่าเก็บภาพทันหรือเปล่า หรือว่าจะตอนเสือกัด ไปหาหมอหมอถามว่าโดนอะไรมา บอกหมอว่าเสือกัดค่ะ พาเสือไปเดินเล่นมา หมออาจจะบอกว่าเชิญไปแผนกจิตเวช แต่มันเป็นเรื่องจริงไง”อยากให้ฝากว่าคนดูไปดูแล้วจะได้อะไรกลับมา?“ก็รู้สึกว่านี่ก็น่าจะเป็น Stand Up Comedy ครั้งแรกก็ไม่รู้จะครั้งสุดท้ายหรือเปล่า แต่ว่าเราก็ทำให้มันเหมือนกับเป็นครั้งสุดท้ายไป อยากให้มาปล่อยจอย มาสนุกสนาน ว่างๆมาได้เลย หลายเรื่องที่เราคัดมาอย่างที่บอกไปว่าเราก็เลือกเรื่องที่เราคิดว่าคุณผู้ชมอะน่าจะมีประสบการณ์บางอย่างร่วมกันเพราะฉะนั้นเผื่อคุณผู้ชมกลับไปบ้านแล้วไปนั่งคุยกันว่าเออยายเจอแบบนี้เคยมั้ย แค่นี้เราก็ดีใจมากแล้ว” ปีนี้เป็นปีที่ยายได้ทำอะไรบทบาทใหม่ๆ?“อย่าง Stand up comedy แพลนไว้ตั้งแต่ประมาณปลายปีที่แล้วแล้วล่ะแต่ก็ค่อยๆประกอบร่างเริ่มปีนี้ ก็ได้ทำงานใหม่หลายอย่าง ต้องขอบคุณทางคุณนิด-อรพรรณ ที่ชวนมาทำรายการ “ปูเสื่อรอ” ก็ดีใจ เรื่องข่าวสารเราก็สอบถามจากน้องรถเมล์-คะนึงนิจ หน้างาน ก็ติดตามข่าว ก็ได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆในการเล่าเรื่อง ก็ต้องขอบคุณ แองจี้ รถเมล์ คุณนิด ปกติที่คุยกันก็จะเห็นเวลาเราเล่าเรื่องจะมีแนวโน้มเล่าไปเรื่อย แต่พอเป็นข่าวมันต้องเล่าอีกแบบ”ย้อนกลับไปความเป็นยาย เมื่อไหร่ที่หลายคนรอบตัวบอกว่าเป็นคนเล่าเรื่องสนุก?“ก็ตั้งแต่เด็กมั้งคะ ถ้าจำไม่ผิดอะเด็กๆเราเป็นคนเจื้อยแจ้ว ในขณะที่เพื่อนๆชอบคุยกันเอง เราจะชอบเกาะโต๊ะอาจารย์ไปเม้าท์กับอาจารย์ ผู้ใหญ่เค้าจะชอบหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเรา เราชอบเป็นหัวเรือใหญ่ในการโต้วาที ไม่เคยได้รับการเทรนหรือฝึกอะไรมาจะเป็นแนวครูพักลักจำ พื้นเพน่าจะมาจากเป็นคนชอบอ่านหนังสือวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษเราจะต้องถูกเทรนให้ตอบคำถามว่า Main Idea เรืองนี้คืออะไร ผู้เขียนต้องการสื่ออะไร มันถูกเทรนด้วยเรื่องนี้มา เพราะฉะนั้นเวลาเล่าเรื่องมันก็เลยจะจับใจความได้”วันหนึ่งการเล่าเรื่องเหล่านี้ กับตัวตนของ “ยาย” ทำให้มีแฟนๆที่รัก รู้สึกยังไง?“ก็ต้องขอบคุณนะคะ ตอนเด็กๆขอบคุณเพื่อนในซอยที่ตอนเด็กๆไม่ค่อยเล่นกับเรา ทำให้เราใช้เวลากับทีวี หนังสือเยอะ เราไม่ได้ไปเล่นสนุกสนานกับคนอื่นๆเค้าได้บ่อย เราก็มีหนังสือ สกุลไทย หญิงไทย กุลสตรี ขวัญเรือน ของแม่เป็นเพื่อนเล่นเรา ก็รู้สึกว่าขอบพระคุณนิตยสารสตรีเหล่านั้น ทุกอย่างในชีวิตนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ”.เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่