กลิ่นเลือกตั้งโชย...“นักเลือกตั้ง” นั้นจมูกไวเสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทีมการเมืองของพวกเขาเว้นแต่เรื่องของประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรมมักหูไม่ดี ตาพร่าฟางนี่แหละคือเหตุที่ประเทศไทยไม่เจริญเสียทีก็ไม่แปลกในสถานการณ์การเมืองที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้นั้นไม่มีความแน่นอนทุกอย่างอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอยิ่งภาวะที่นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ไม่มีความมั่นคงในความเป็นผู้นำอย่างนี้ย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานี่ก็ใกล้กำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมเพื่อพิจารณาวินิจฉัยคดี “คลิปฉาว” ที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะต้องตกเก้าอี้หรือไม่แม้จะมั่นใจว่ารอดแต่อาจไม่รอดก็ได้ใกล้ๆวันตัดสินอาจจะมีการ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” ก็ได้ ใครจะไปรู้“กล้าธรรม” ของ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ได้จัดสัมมนาพรรคอย่างเอิกเกริกเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งประกาศว่าจะได้ สส.อย่างน้อย 70 คนขึ้นไป!“พลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม” ก็ประกาศรายชื่อผู้สมัครเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วบอกว่าจะต้องได้ สส.อย่างน้อย 70 คนขึ้นไปที่กระทรวงมหาดไทย “ภูมิธรรม เวชยชัย” มท.1 และรักษาการนายกรัฐมนตรีก็สั่งข้าราชการทุกหน่วยให้จัดทำรายชื่อข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการเพื่อจะได้แต่งตั้งคนอื่นเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทนหลังจากเด้ง 2 อธิบดีของกระทรวงมหาดไทย ให้ดูเป็นขวัญตาไว้แล้วเพราะข้าราชการนั้นคือกลไกการทำงานด้านบริหารของประเทศจึงมีความสำคัญต่อนักการเมืองมาก โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆอย่างมหาดไทยการจัดแถวล่วงหน้าเอาไว้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งและการบริหารงานต่อไปในอนาคตนี่คือสิ่งที่นักการเมืองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าได้ข้าราชการเป็นพวกหรือคนใกล้ชิดย่อมมีประโยชน์ต่อการทำงานและสามารถให้ทำอะไรที่ต้องการได้!ว่าถึงเรื่องการเลือกตั้งนั้นรัฐบาล “เพื่อไทย” ยังไม่ต้องการให้มีการ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ในตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ไม่สู้ดีนักเพราะยังไม่สามารถสร้างผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันได้พูดง่ายๆว่าสนามเลือกตั้งไม่เป็นใจให้!จึงพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลให้นานที่สุด แต่สถานการณ์การเมืองไม่เป็นใจนัก เพราะมีปัญหาที่ผูกติดกันหลายเรื่องหลายประเด็นดังนั้นให้จับตาดูก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าจะต้องแก้ไขเกมอย่างไร เพราะหากไม่ผิดก็รอดแต่ถ้าผิดก็จะมีผลต่อ “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี ที่โอกาสจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกก็ยาก เพราะมีมลทินติดตัวจึงต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนมันเป็นเงื่อนไขที่แม้แต่ “ทักษิณ ชินวัตร” ยังแก้ไม่ตก แม้ปากจะบอกว่าไม่มีปัญหา แต่ความจริงแล้วมันยิ่งกว่าไฟสุมทรวงที่พร้อมจะมอดไหม้ได้ตลอดเวลา!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม