“ภูมิธรรม” ลั่นไม่ใช่เวลามานั่งคิดยุบสภา เลี่ยงแจงปมอำนาจยุบสภาของรักษาการนายกฯ แซะ ปชน.แน่ใจหรือ ภท.จะแก้ รธน.ให้ “สุชาติ” ยันตั้งใจจะลาออก สส.อยู่แล้ว เปิดทางคนถัดไป แต่ “ดร.หญิง” ยังกั๊กรอมติพรรคให้ไขก๊อก ปธ.วิปรัฐบาลเดือด ขู่ประจานชื่อ สส.-รมต.สันหลังยาว ประกาศถอนแน่ร่าง พ.ร.บ.กาสิโน จ่อดันร่าง ก.ม.นิรโทษกรรม แต่ไม่รวม ม.112 “ไผ่-ไอซ์” ปะทะฝีปากในโลกโซเชียล ต่างคนต่างสาวไส้กันแหลก พรรค ปชน.ยื่นแก้ รธน. รื้อที่มา- ระบบตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอิสระ “พริษฐ์” ชี้ต้องปลดชนวนระเบิดเวลา “อิ๊งค์” หน้าเปื้อนยิ้มเข้าทำเนียบ พร้อมลุยงาน วธ.หลังกลุ่ม สส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ออกมากดดัน สส.บัญชีรายชื่อ ที่ได้เป็นรัฐมนตรี ให้ลาออกจาก สส.เพื่อเปิดทางให้ผู้อยู่ลำดับถัดไปขึ้นมาทำหน้าที่ ล่าสุดนายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่ง สส.อยู่แล้ว เพื่อให้คนที่อยู่ในลำดับถัดไปได้ขึ้นมาทำหน้าที่“อิ๊งค์” หน้าเปื้อนยิ้มเข้าทำเนียบเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พ.ย.2568 เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในโอกาสวันพระบรม ราชสมภพครบ 100 ปี 20 ก.ย.2568 และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พ.ย.2568 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดย น.ส.แพทองธาร เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายภูมิธรรมขึ้นไปพบ ก่อนเดินไปประชุมพร้อมกัน ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารมีสีหน้ายิ้มแย้ม เดินไปนั่งเก้าอี้ของ รมว.วัฒนธรรม ขณะที่นายภูมิธรรมนั่งหัวโต๊ะทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังการประชุม น.ส.แพทองธารเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าลุยงาน วธ.ร่วมแห่เทียนที่โคราชสำหรับภารกิจ น.ส.แพทองธารในช่วงสัปดาห์นี้ วันที่ 8 ก.ค. เวลา 10.00 น. เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธารในฐานะ รมว.วัฒนธรรม จะเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH-Soft Power Forum 2025) ที่ Exhibiton Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ และวันที่ 11 ก.ค. มีกำหนดการเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช จ.นครราชสีมา ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมชมขบวนโคราชซอฟต์พาวเวอร์“อ้วน” ลั่นไม่ใช่เวลานั่งคิดยุบสภานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวกรณีเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุอำนาจรักษาราชการแทนนายกฯ ไม่มีอำนาจยุบสภาw ว่า เลขาฯกฤษฎีกาพูดข้อคิดเห็นและแนะนำ แต่ไม่ใช่ข้อบันทึกในที่ประชุม เป็นเพียงการยกตัวอย่างการปกครองในระบอบรัฐสภาแบบอังกฤษ เป็นความเห็นวิชาการในอีกแง่มุมหนึ่ง เมื่อถามว่ารัฐบาลเชื่อความเห็นของเลขาฯ กฤษฎีกาหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่าเป็นหนึ่งความเห็นที่ควรพิจารณารับฟัง แต่ไม่มีอะไรเป็นที่ยืนยัน นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ก็เคยเสนอความเห็น แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องพิจารณา เมื่อถามว่ายังไม่คิดใช้อำนาจยุบสภาใช่หรือไม่หากเกิดสถานการณ์การเมืองคับขัน นายภูมิธรรมตอบว่า จะใช้อำนาจอะไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละช่วง เมื่อยังไม่ถึงจะไปนั่งคิดทำไม วันนี้ไม่ใช่เวลานั่งคิดว่าเราจะอยู่หรือเราจะไป ต้องมานั่งคิดว่าจะทำงานให้เต็มที่ได้อย่างไร ให้ประชาชนมั่นใจ ปัญหาที่ยังไม่เกิดเราไม่ควรถาม ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะออกบวกหรือลบ ไม่ควรมาคิดเรื่องลบอย่างเดียวแซะ ปชน.แน่ใจหรือ ภท.จะแก้ รธน.ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยจะจับมือกันเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯชั่วคราว พรรคเพื่อไทยจะแก้เกมอย่างไร นายภูมิธรรม ตอบว่า ไม่ใช่เรื่องการแก้เกม แต่เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่เขาตัดสินใจ ต้องถามว่าพรรคประชาชนมั่นใจแล้วหรือที่จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องจำให้ได้ว่าวันที่พรรคเพื่อไทยเสนอแก้รัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยเดินออกทั้งพรรค เขาไม่พร้อมจะทำ การบอกว่าจะให้เขาทำให้ได้ภายใน 6 เดือน มั่นใจหรือ เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นคนที่ขวางการแก้รัฐธรรมนูญในรัฐบาลมาโดยตลอด ฝากให้พรรคประชาชนคิดโยนถามกฤษฎีกาอำนาจยุบสภานายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องอำนาจของรักษาราชการนายกฯ มีขอบเขตอย่างไร เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนกันในที่ประชุม ครม.นัดพิเศษแค่นั้น ไม่มีการบันทึกอะไร เมื่อถามว่าเลขาธิการสำนักงานกฤษฎีกาให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้อย่างไร นายชูศักดิ์ตอบว่า แลกเปลี่ยนกันเฉยๆ ส่วนจะให้ความเห็นอย่างไรไปถามท่านเอาเอง เมื่อถามว่ารัฐบาลเชื่อว่าอำนาจรักษาการนายกฯ สามารถยุบสภาได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า เป็นความเห็นทางกฎหมายแต่ละคนก็เห็นแตกต่างกัน อย่างนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ก็มีความเห็นแบบหนึ่ง ซึ่งไม่มีการบันทึก เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปพิจารณาดู เมื่อถามว่ามองเรื่องนี้อย่างไร นายชูศักดิ์ ตอบว่า ขอยังไม่ให้ความเห็น“สุชาติ” ตั้งใจลาออก สส.อยู่แล้ว ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำพิธีสักการะพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกลุ่ม สส.อีสาน พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐมนตรีที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจาก สส.ว่า จริงๆที่ผ่านมายังไม่มีการลาออก แต่โดยธรรมเนียมก็ควรลาออก เพราะการทำหน้าที่รัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว คงไม่มีเวลาไปช่วยทางสภา โดยเฉพาะตอนนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ มีความตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่ง สส.อยู่แล้ว เพื่อให้คนที่อยู่ในลำดับถัดไปได้ขึ้นมาทำหน้าที่ตั้งธนาคารพุทธแก้วิกฤติศรัทธานายสุชาติยังกล่าวถึงการแบ่งงานกำกับดูแลว่า เตรียมหารือกับนายภูมิธรรม ส่วนตัวทำได้ทุกเรื่อง เพราะอยู่การเมืองมาเกือบ 40 ปี เป็นรัฐมนตรีหลายครั้ง เมื่อถามว่าถ้าต้องดูสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หนักใจหรือไม่ นายสุชาติตอบว่าขณะนี้เกิดวิกฤติวงการสงฆ์ ทำให้พุทธศาสนิกชนไม่สบายใจ เกี่ยวกับความศรัทธาต้องรีบแก้ไข ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทรัพย์สินของวัด การประพฤติของเจ้าอาวาสหรือพระผู้ใหญ่ ที่ได้รับการบริจาคจำนวนมาก จึงต้องไปจัดการที่ต้นตอ นโยบายคือจะดำเนินการจัดการทรัพย์สินของวัดให้เป็นระบบ ทรัพย์สินของวัด ของพระ ควรแยกให้ชัดเจน และดำเนินการให้ถูกต้อง มีหน่วยงานทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ปล่อยปละละเลยจนเกิดวิกฤติ ทั้งนี้ ต้องหารือกับมหาเถรสมาคม (มส.) อาจมีการตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาขึ้นมาเพื่อดูแลโดยเฉพาะ“ดร.หญิง” ยังกั๊กไขก๊อกพ้น สส.ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังมีการพูดคุยกันภายในพรรคเพื่อหามติที่เห็นชอบตรงกัน สส.ทุกคนมีความเข้าใจว่าหน้าที่ของตนเองสำคัญอย่างไร รวมไปถึงสส.ที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นกัน ส่วนตัวพร้อมออกจากตำแหน่ง สส. หากพรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีมติพรรคในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใดขู่ประจานชื่อ สส.–รมต.หลังยาวนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงข้อเสนอกลุ่ม สส.อีสาน กดดันให้รัฐมนตรีที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อลาออกจาก สส. เพื่อให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ ไม่กระทบองค์ประชุมสภา ว่า ไม่ใช่การกดดันเป็นการหารือกันในพรรค และเป็นหนึ่งในทางเลือก สส.ที่เป็นรัฐมนตรี มี 2 แนวทาง ถ้าไม่ลาออกในวันประชุมสภาฯต้องมานั่งประชุมด้วย ทำ 2 หน้าที่ แต่ถ้าอยากทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ควรลาออกจาก สส. ให้คนลำดับถัดไปมาทำหน้าที่แทน จะให้ สส.และประธานวิปรัฐบาลรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้ เสียงเกินกันแค่ 20 เสียง ต้องอยู่ด้วยกันที่สภาฯถึงจะไปรอด ต่อไปนี้ถ้าสภาฯล่มใครไม่อยู่ในที่ประชุม ไม่ว่า สส.หรือรัฐมนตรีที่เป็น สส. จะเปิดชื่อต่อสื่อมวลชนให้ประชาชนทราบว่าบุคคลนั้นไม่รับผิดชอบงานสภา ขอแค่สัปดาห์ละ 2 วัน ไม่สามารถทำได้จะเปิดให้ทราบใครบ้างขี้เกียจสันหลังยาว ต่อไปจะได้ไม่ต้องเลือกอีก เรื่องการคาดโทษที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเข้มงวด ตรวจสอบ สส.เต็มที่ หลังประชุมจะตรวจสอบรายชื่อว่าใครอยู่หรือไม่อยู่เพื่อไทยถอนแน่ร่าง พ.ร.บ.กาสิโนนายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงดีลลับนายกฯชั่วคราว หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองว่า วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม แค่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ยังมีโอกาสชี้แจง คดียังไม่ถึงที่สุด แต่หลายคนกระดี๊กระด๊า ยังไม่ถึงเวลา ให้รอฟังศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะพิจารณาอย่างไร พ้นจากน.ส.แพทองธารยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยอีกคน คนอื่นต้องรอไปตามคิว อย่าใจร้อน ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 9 ก.ค. พรรคเพื่อไทยจะขอถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระการประชุมแน่นอน ใครจะมาชุมนุมไม่ต้องมา ร้อนเปล่าๆ กลับไปนอนตีพุง ไม่ได้ถอนเพราะกลัว ไม่ได้เสียหน้า รัฐบาลรับฟังอยู่แล้ว ส่วนอนาคตจะนำกลับเข้าสภาอีกหรือไม่ ยังพูดไม่ได้รักษาการนายกฯยังไม่รู้–ไม่เห็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ก.ค. ยังไม่มีการพิจารณาและยังไม่ได้คุยกัน เรื่องการถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อถามว่าประธานวิปรัฐบาลเป็นคนเสนอให้ถอน เพราะรัฐบาลยังไม่พร้อม นายภูมิธรรมตอบว่า อยู่ที่วิปรัฐบาลเสนอมา ตนยังไม่เห็น เป็นความเห็นของสภาที่จะนำมาเสนอใน ครม. ถ้าเสนอมาเราจะพิจารณา เรื่องนี้ยังไม่ได้พิจารณาเลย มีเรื่องที่ต้องรีบทำอีกเยอะรบ.ดันร่าง ก.ม.นิรโทษไม่รวม 112นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ กรรมการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลวันเดียวกันนี้ มีมติรับร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอโดยนายวิชัย สุดสวาสดิ์สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และร่างของนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ทั้ง 2 ร่างไม่รวมคดีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนอีก 2 ฉบับคือ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลที่กระทำความผิดอันเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ของนายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ของภาคประชาชนนั้น วิปรัฐบาลมีมติไม่รับ 2 ร่างดังกล่าว เนื่องจากมีการนิรโทษกรรมคดีเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 และการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 9 ก.ค. จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมทั้งหมดขึ้นมาพิจารณาก่อน เมื่อถามว่าการนิรโทษกรรมที่ยกเว้นความผิดมาตรา 112 อาจไม่สร้างความปรองดองได้จริง นายอัครเดชตอบว่าความปรองดองต้องเกิดขึ้น เพราะคดีมาตรา 112 มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองทั้งหมด เทียบกันไม่ได้“ไผ่” แฉ “ไอซ์–โรม–หนู” ถกปม 44 สส.วันเดียวกัน นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงการตั้งคำถามต่อ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ทำไมไม่ไลฟ์สดระหว่างกินข้าวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่มีอะไร แต่อยากรู้จริงๆว่าไปคุยอะไรกัน ได้ยินมาหลายเรื่องว่าไปจัดตั้งรัฐบาล หรือแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่ จึงโพสต์ไปเช่นนั้น ส่วนที่มีการคอมเมนต์โต้ตอบรุนแรงนั้น ยืนยันว่าเขาแรงมาตนก็แรงไป ไม่ได้ติดใจ หรือมีปัญหาในการร่วมงานใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เมื่อถามว่าที่ได้ยินมานอกเหนือจากเรื่องตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องอะไร นายไผ่ตอบว่า ได้ยินมาหลายเรื่อง รวมถึง 44 สส. ของพรรคประชาชนด้วย ถ้าจริงก็ใช่เลย เพราะทั้ง 2 คนเป็นหนึ่งใน 44 สส. ที่จะโดนคดีมาตรา 112 แต่ยังเป็นข้อสันนิษฐานอยู่เจอฟาดกลับหายหัว กมธ.งบฯขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เข้าร่วมประชุม กมธ.งบประมาณ ผู้สื่อข่าวจึงขอสัมภาษณ์กรณีมีวิวาทะกับนายไผ่ ลิกค์ ในโซเชียลมีเดีย แต่ น.ส.รักชนกขอไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะมองเป็นเรื่องไร้สาระ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ น.ส.รักชนกตอบว่า “จริงๆคุณไผ่ก็ไม่ค่อยมาทำงานอยู่แล้ว มาเซ็นชื่อแล้วก็หายไป” เมื่อถามว่านายไผ่ระบุว่าเรื่องในวงกินข้าวมีเรื่อง 44 สส.ในคดีมาตรา 112 ด้วย น.ส.รักชนกตอบว่า “was seeds are” (เป็นเมล็ดพืช) ยืนยันว่าไม่มี เป็นไปตามที่บอกไม่โกหก คุยอะไรก็บอกตรงๆ ไปคุยเรื่องคอลเซ็นเตอร์จริงๆ“โรม” ฉะ “อ้วน” โยนบาปแก้ รธน.นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ถามพรรค ปชน. เชื่อใจพรรค ภท.ได้หรือไม่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยควรดำเนินการเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่เข้าใจหรือโลกมันกลับตาลปัตร เพื่อไทยเคยประกาศจะทำ แต่ทำไมไม่ทำ เลิกโยนความผิดให้คนอื่นแล้วแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียที ส่วนเรื่องของการโหวตนายกฯยังมาไม่ถึง ยังไม่ถึงเวลาต้องตัดสินใจว่าเราจะโหวตให้ใคร เบื้องต้นทุกคนรับรู้ถึงจุดยืนของพรรคประชาชน ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีใครติดต่อมาในเบื้องหลังบ้างเย้ย “ทักษิณ” กลายเป็นตัวถ่วง รบ.นายรังสิมันต์ยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ว่า เรื่องชั้น 14 เป็นกรณีที่มีปัญหา ทำให้ฉุกคิดว่าขณะที่คนเพื่อไทยเรียกร้องว่าทำไม ปชน.ไม่พูดถึงคดีฮั้วเลือก สว. ก็ขอตั้งคำถามกลับไปว่าทำไมพวกท่านไม่พูดเรื่องคดีชั้น 14 หรือต้องเรียกว่าเรื่องฮั้วชั้น 14 ทั้งที่เป็นเรื่องทำลายหลักนิติธรรมเหมือนกัน ส่วนนายทักษิณที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล จะไปขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์อะไรก็ได้ แต่สถานการณ์ของรัฐบาลวันนี้เป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลขาดความชอบธรรมทางการเมืองมากที่สุด นายทักษิณไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะช่วยกอบกู้อะไรในรัฐบาลนี้อีกแล้ว นายทักษิณเป็นคนที่ทำให้รัฐบาลนี้ไม่มีเสถียรภาพ ทำให้รัฐบาลนี้ง่อนแง่นอย่างทุกวันนี้มีชั้น 14 เป็นความเลวร้ายขั้นต้นสภาย้ำ “ลุงป้อม” หมดสิทธิ์นายกฯว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี โดยอ้างมีจำนวนเสียง สส.อยู่ในเกณฑ์เพียงพอจากการเลือกตั้งในครั้งแรกว่า ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะต้องใช้เสียง สส.ปัจจุบันในวันโหวตเลือกนายกฯ และกระบวนการเสนอชื่อเป็นไปตามรัฐธรรมนูญผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ระบุว่าให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามมาตรา 88 เฉพาะจากบัญชีรายชื่อพรรค การเมืองที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็น สส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น สมาชิก 500 คน พรรคต้องมี สส. 25 คน จึงสามารถเสนอบุคคลในบัญชีเป็นนายกฯได้ ขณะนี้มี สส.ในสภาฯ 495 คน ร้อยละ 5 คือ 24.75 คน แต่ พปชร.มี สส.เหลืออยู่ 19 คน ไม่ถึงร้อยละ 5 ไม่สามารถเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯได้ปชน.ยื่นแก้ รธน.รื้อองค์กรอิสระที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมสส.พรรค ปชน. ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในประเด็นว่าด้วยองค์กรอิสระ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบรายชื่อ สส.ว่าครบจำนวนตามรัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ หากครบถ้วนสมบูรณ์จะเชิญวิป 3 ฝ่าย คือ สว. รัฐบาล และผู้นำฝ่ายค้านหารือ จะพิจารณาตามที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมให้ สส.–สว.ร่วมเลือกองค์กรอิสระนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา มี 3 ฉบับ คือ 1.แก้ไขกระบวนการที่มาและการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ จากเดิมที่สรรหาและเสนอชื่อผ่านคณะกรรมการสรรหาช่องทางเดียว แก้เป็นให้เสนอชื่อได้จากช่องทางที่ประชุมศาล สส.รัฐบาล สส.ฝ่ายค้าน สว. โดยไม่มีการปรับแก้ไขเรื่องคุณสมบัติ ยกเว้นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่กรรมการทั้ง 9 คน ควรมีความหลากหลาย 2.แก้ไขประเด็นการคัดเลือกและเห็นชอบ จากเดิมต้องใช้การลงมติของ สว. แก้เป็นให้มาจากการพิจารณาร่วมกันของรัฐสภา โดยได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา มีเงื่อนไขกำหนดว่าต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของ สส.ฝ่ายรัฐบาล และ สส.ฝ่ายค้าน 3.เพิ่มเติมกระบวนการถอดถอน ที่ให้สิทธิ สส. และประชาชน เข้าชื่อ 2 หมื่นคน ยื่นเรื่องถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระได้ กรณีที่ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ข้อเสนอพรรคประชาชนเชื่อว่าจะได้รับเสียงฉันทามติขั้นต้นจากสมาชิกรัฐสภา ประเด็นองค์กรอิสระถือเป็นระเบิดเวลาต้องปลดชนวน การแก้ไขรายมาตราดังกล่าวจะทำคู่ขนานไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับรมช.คลังโอ่ “แพทองธาร” ทำจีดีพีโตวันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภา พิจารณากระทู้ถามสดของนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เข้าเป้า เช่น อัตราการท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวจีนลดลง จากผลกระทบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การประเมินจีดีพีที่โตต่ำกว่าคาดการณ์ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชี้แจงว่า รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศทำจีพีดีเกิน 3% ทุกไตรมาส และไตรมาส 2 ของปี 2568 ทำได้ดีกว่าที่คาดเศรษฐกิจ โตสูงกว่า 7-8 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การประมาณตัวเลขจากสถาบันทางเศรษฐกิจ เช่น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เชื่อว่าจะปรับขึ้นอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในไม่ช้า เพราะไตรมาส 2 bเป็นตัวเลขดี ทั้งการผลิต การบริโภค ยืนยันรัฐบาลมองไปข้างหน้าและกล้าคิด พยายามสร้างรายได้ใหม่ไม่หมกมุ่นเงินงบประมาณ แต่มองเงินที่ลอยในอากาศ ขอให้มั่นใจในรัฐบาลประชุมนัดแรกคลิป “อิ๊งค์–ฮุน เซน”เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นัดประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดใหญ่ ประกอบด้วย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. รองหัวหน้าฯ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. และพนักงานสอบสวน บก.ป. เป็นครั้งแรก เพื่อนำประเด็นที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.แพทองธารตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร กรณีมีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน มาเปรียบเทียบกับข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้างให้ทุกท้องที่รับแจ้งส่งเรื่อง บช.ก.มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุมสรุปเบื้องต้นว่า การแจ้งความเรื่องคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีมีการแจ้งหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ตร.ให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ส่งข้อมูลหลักฐานมาให้คณะพนักงานสอบสวน บช.ก. รับไว้เพียงหน่วยเดียว ขณะนี้คณะทำงานกำลังรอข้อมูลหลักฐานที่ตำรวจพื้นที่ส่งมาให้ จากนั้นจะมาประชุมตรวจดูข้อมูลหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมประเด็นไหน“เนวิน” ฟ้องหมิ่นปล่อยคลิป “อังเคิล”นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ได้ยื่นฟ้อง น.ส.วันทนีย์ เงาเรือง ต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญามาตรา 328 พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 10 ล้านบาท จากการโพสต์ข้อความเท็จในแอปพลิเคชัน “เธรด” ที่เปิดเป็นบัญชีสาธารณะ กล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา และมีส่วนพัวพันปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีการกล่าวอ้างว่าโจทก์แอบบันทึกเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นำคลิปเสียงดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ยังมีข้อความกล่าวหาโจทก์ยึดที่ดินของรัฐ 5 หมื่นไร่ สร้างสนามแข่งรถ สนามฟุตบอล ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความเท็จ กระทบต่อชื่อเสียง ต่อธุรกิจและครอบครัว“ตุลย์” ค้านอวยยศ 2 หมอ รพ.ตำรวจที่ ตร. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. คัดค้านการเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท.นพ.โสภณ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. เนื่องจากทั้งสองนายอยู่ระหว่างถูกสอบสวนในคดีสำคัญและมีมติชัดเจนจากแพทยสภาว่ากระทำผิดจริยธรรมทางการแพทย์ กรณีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องขังในคดีอาญา มารับการรักษาที่ รพ.ตำรวจ ขณะเดียวกันยังมีผู้ร้องเรียนทั้งสองนายไปยัง ป.ป.ช. ข้อหากระทำผิด ป.อาญามาตรา 157 อยู่ระหว่างการสอบสวน เรียกร้องให้ ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบมูลความผิด ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไปรวมถึงสั่งย้ายข้าราชการตำรวจทั้งสองนายออกจากตำแหน่งเดิม เปิดโอกาสให้บุคลากรใน รพ.ตำรวจให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. และศาลได้เต็มที่ และจะไม่ยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่