“รองเต่า” สั่งตำรวจ บก.ปปป.เข้าสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดม่วง ประเด็นที่มาที่ไปของเงิน 10 ล้านบาท และทองคำ 250 บาท แต่กุฏิถูกปิดล็อกจากด้านนอก ติดต่อไม่ได้ ต้องคว้าน้ำเหลวเดินทางกลับ ประกาศจะกลับไปสอบปากคำเจ้าอาวาสอีกรอบเพื่อคลี่คลายข้อสงสัย ถ้าพบเป็นเงินวัดมีความผิดแน่ ส่วนคดีลักทรัพย์เป็นหน้าที่ของตำรวจ สน.เพชรเกษม ดำเนินการ ด้าน “ผกก.สน.เพชรเกษม” เดือด ถูกโซเชียลกล่าวหาออกตัวให้เจ้าอาวาส ยันทุกคนยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ระหว่างสืบสวนคลี่คลายคดี สอบปากคำไปแล้ว 4-5 ปาก ต้องรอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ ส่วนภาพวงจรปิดในกุฏิมีบางส่วนถูกลบไปตามวงรอบการบันทึกภาพกรณีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิพระราชวัชรพัฒนาทร (ณรงค์ ปสนฺโน) เจ้าอาวาสวัดม่วง และเป็นเจ้าคณะเขตหนองแขม ได้เงินสด 10 ล้านบาท และทองคำแท่ง หนัก 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท หลังทราบเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ สน.เพชรเกษม เข้าสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีได้ข้อมูลว่า เงินทั้งหมดไม่ได้เป็นเงินของวัด แต่เป็นเงินเก็บส่วนตัวที่พระราชวัชรพัฒนาทรสะสมหลายสิบปีตั้งแต่บวชเรียน บางส่วนเอาไปลงทุนซื้อทองมาเก็บไว้ และเพิ่งไปเบิกเงินสดมาเตรียมไว้ลงทุนทองคำเพิ่มอีกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจาก สน.เพชรเกษม เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.ค. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เผยว่า มีสื่อออนไลน์บอกว่าตนออกตัวให้เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกเงินและทองที่ถูกฉกไปเป็นเงินส่วนตัว ตนตอบตามที่เจ้าอาวาสบอก แต่ไม่ได้ทิ้งประเด็น ยังบอกว่าทุกคนคือเป้า ที่สำคัญตนไม่ได้ออกตัว บอกว่ามีพิรุธเยอะ ส่วนเงินตนถามว่า มาจากไหน ท่านตอบบวชมา 50 พรรษา เป็นเงินสะสม อาตมาหมดตัวแล้ว แต่ยอมรับเป็นความประมาทของ ตัวเองด้วย ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาลักไป พร้อมเปิดสมุดบัญชีให้ดูว่าเป็นเงินส่วนตัว ขอให้ตามจับคนร้ายให้ได้เพื่อเอาเงินมาคืน ที่ลงทุนทองเพราะไวยาวัจกรวัดแนะนำให้เก็งกำไร ดอกเบี้ยธนาคารน้อย บางส่วน เอามาทำบุญใช้จ่ายในวัด เงินวัดมีอีกบัญชี บางส่วนเป็น เงินสดเก็บไว้อย่างดี มีคณะกรรมการวัดดูแลเบิกจ่าย“ส่วนประเด็นกล้องวงจรปิดในกุฏิห้องนอนที่เกิดเหตุ ถูกมือดีเอากระดาษมาปิดกล้องไว้ สอบถาม เจ้าอาวาสทราบว่า ท่านนำมาปิดไว้เอง เพราะตอนกลางคืนอาจมีภาพไม่ดีหลุดออกไป เช่น นอนสบง จีวรเปิด เป็นภาพไม่เหมาะสม แต่ถ้าไปไหนหลายวัน หรือไปต่างประเทศ จะเปิดแผ่นกระดาษที่ปิดกล้องออก ส่วนข่าวที่ว่ามีสุนัขพันธุ์พิตบูลอยู่ในกุฏิด้วย วันที่ไป ตรวจสอบเหตุพบมีสุนัขอายุมาก เป็นหมาแก่นอนอยู่ เห็นผมยังไม่เห่าเลย ส่วนอีกตัวขังอยู่ในกรงนอกกุฏิ ไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไรทั้ง 2 ตัว” พ.ต.อ.ปราโมทย์กล่าวผกก.สน.เพชรเกษม เผยต่อว่า หลังรับแจ้งความเดินทางไปดูที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เพราะเป็นคดีใหญ่ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชา ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าเก็บ หลักฐานและลายนิ้วมือแฝง นำผู้เกี่ยวข้องไปสอบสวน 4-5 คนแล้ว มีไวยาวัจกร ลูกศิษย์วัด ร่วมทั้งเจ้าอาวาส และประสานตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ด้วย ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เกิดเหตุวันไหน แต่อยู่ ในช่วงวันไปถอนเงินสด 10 ล้านบาท จากธนาคารวันที่ 20 พ.ค.ถึงวันที่ 29 มิ.ย. ที่ทราบเหตุ ภาพบางส่วน ถูกลบไปแล้วตามวงรอบการบันทึกภาพ เจ้าหน้าที่ทุกคนทำคดีเต็มที่เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ที่วัดม่วง เวลา 11.33 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการให้พนักงานสืบสวน บก.ปปป.เข้าร่วมตรวจสอบกับชุดคลี่คลายคดี สน.เพชรเกษม ตรงไปยังจุดเกิดเหตุกุฏิเจ้าอาวาส แต่ปรากฏ ว่า กุฏิปิดล็อกกุญแจจากด้านหน้า ตำรวจ ปปป.พยายาม หาทางเข้าไปพบเจ้าอาวาส รวมทั้งโทร.สอบถาม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตำรวจ บก.ปปป. นายหนึ่ง เผยว่า เข้ามาสอบถามถึงประเด็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตอนนี้ยังไม่พบเจ้าอาวาสและคนขับรถคนสนิท พยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถาม แต่ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสได้ด้านนายเบียร์ เจ้าหน้าที่ดูแลวัดม่วง กล่าวว่า ช่วงที่เจ้าอาวาสไปเบิกเงินที่ธนาคารตนนั่งรถไปด้วย วันนั้นมีทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย คนขับรถ เจ้าอาวาส และตน โดยไม่รู้ว่าเจ้าอาวาสไปเบิกเงินเท่าไหร่ หลังเบิกเสร็จเจ้าอาวาสนำเงินใส่กระเป๋ากลับไปที่กุฏิ ไม่ได้พูดอะไร ยืนยันว่าไม่ได้เครียด ให้ปากคำตำรวจ สน.เพชรเกษม ไปหมดแล้วที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผยว่า สั่งให้ตำรวจ บก.ปปป.เข้าไปตรวจสอบที่วัดม่วง เบื้องต้นให้ตรวจสอบเรื่องเงินของหลวงพ่อว่า ได้มา อย่างไร ส่วนเรื่องลักทรัพย์เป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่ แต่ในส่วนของ บก.ปปป. ต้องตรวจสอบเรื่องเงินสด 10 ล้านบาท กับทองคำ 250 บาท ของหลวงพ่อว่า ได้มาอย่างไร เรื่องนี้ต้องให้หลวงพ่อชี้แจงมา ทั้งนี้เงินวัดจะมี 2 ส่วน คือ เงินวัดกับเงินส่วนตัว ถ้าเป็น เงินส่วนตัวคือ เงินที่สาธุชนบริจาคให้หลวงพ่อส่วนตัว อันนั้นไม่ผิด แต่ถ้าเอาเงินวัดมาใช้ถือว่ามีความผิดเรื่องทุจริต พรุ่งนี้จะให้เจ้าหน้าที่ไปพบหลวงพ่อที่วัดเนื่องจากวันนี้ไม่เจอ ได้แค่ประสานข้อมูลกับตำรวจท้องที่เท่านั้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่