เจ้าอาวาสวัดม่วงแจ้งความถูกคนร้ายย่องฉกเงินสด 10 ล้านบาท ทองคำแท่ง 250 บาท รวมมูลค่า 22.5 ล้านบาท ที่เก็บไว้ในสำนักงานเจ้าอาวาสหายไร้ร่องรอย เผยเงินสด 10 ล้านบาท เป็นเงินส่วนตัวเพิ่งเบิกจากแบงก์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจะเอามาซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไรจากคนรู้จักที่แนะนำ พอเช้าวันที่ 29 จะเข้าไปเอาเงินบางส่วนไปใช้จ่ายถึงรู้ว่าหายเกลี้ยง เมื่อตรวจสอบละเอียดถึงรู้ว่าทองคำแท่ง 250 บาท หายไปด้วย ด้านตำรวจ สน.เพชรเกษมประสาน พฐ.เก็บลายนิ้วมือแฝงเป็นเบาะแสล่าโจรเหตุคนร้ายย่องฉกเงินสดและทองคำแท่งเจ้าอาวาสวัดม่วงรวมมูลค่า 22.5 ล้านบาท เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม รับรายงานจาก ร.ต.อ.กิตติพงษ์ บุญเศรษฐ รอง สว. (สอบสวน) สน.เพชรเกษม ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 มิ.ย. นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรประจำวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เป็นตัวแทนพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเหตุคนร้ายลักทรัพย์ภายในสำนักงานเจ้าอาวาส (กุฏิเจ้าอาวาส) วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวนจุดเกิดเหตุภายในวัดม่วง บริเวณสำนักงานเจ้าอาวาส (กุฏิเจ้าอาวาส) พบพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง อยู่ในสำนักงานฯให้การว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ไปเบิกเงินส่วนตัวที่ธนาคาร TMB ธนชาต สาขาศาลายา ประมาณ 10 ล้านบาท ใส่กระเป๋าเดินทางนำกลับที่สำนักงานเจ้าอาวาส มีนายธวัชชัย หรือเดี่ยว คำเสน อายุ 37 ปี และนายทิณกร หรือเบียร์ ต้นแก้ว อายุ 35 ปี ลูกศิษย์เดินทางไปด้วย ทั้งนี้ ไปเบิกเงินจำนวนดังกล่าวมาซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร จากคนที่รู้จักแนะนำและเงินอีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเจ้าอาวาสวัดม่วงเผยอีกว่า ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 29 มิ.ย. มาที่สำนักงานเพื่อจะนำเงินไปใช้จ่ายบางส่วนพบว่ากระเป๋าเงินใบดังกล่าวได้สูญหายไปจากสำนักงาน เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในสำนักงานเพิ่มเติมพบว่า ทองคำแท่งที่ซื้อสะสมไว้ หนักรวม 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานด้วย แจ้งให้นายศักดา ไวยาวัจกรวัด แจ้งความดำเนินคดีด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นเงินและทองแท่งที่หายไปเป็นของเจ้าอาวาสไม่ใช่ของวัด มีการไปเบิกกับลูกศิษย์มาเก็บไว้ในห้องนอนในกุฏิเจ้าอาวาส เป็นไปได้ที่เจ้าอาวาสมีเงินสะสมและทองแท่งจำนวนมาก เพราะเป็นเจ้าอาวาสวัดมาหลายสิบปีและเก็บสะสมไว้ ตรวจสอบห้องนอนเบื้องต้นไม่พบร่องรอยงัดแงะ ขณะนี้เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่คนเข้านอกออกในกุฏิเจ้าอาวาสทุกคนเป็นผู้ต้องสงสัยหมด รวมทั้งคนร้ายรายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดแต่รู้ว่าเจ้าอาวาสมีเงินทองสะสมเก็บไว้ในกุฏิจำนวนมาก ขณะที่ไวยาวัจกรและลูกศิษย์ 2 คนของเจ้าอาวาสที่รู้เรื่องเงินทองเหล่านี้ยังสามารถติดต่อได้ แต่จะต้องเชิญมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลักทรัพย์คดีนี้หรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในและรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าอาวาส ใช้วิธีย่องเบาลักทรัพย์สินทีละเล็กละน้อย อย่างไรก็ตาม จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝง เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป