นายกฯทูลเกล้าฯ ครม.ใหม่แล้ว เพื่อไทยจัดทัพ รับวิกฤติ “อิ๊งค์” นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม “ภูมิธรรม” รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ข้าม ห้วยไปรั้งตำแหน่ง มท.1 เว้นว่าง รมว.กลาโหม ให้ “บิ๊กเล็ก” รักษาการ รมว. รอ “บิ๊กแก้ว” อดีตสายตรง “ลุงตู่” ปลดล็อกพ้นตำแหน่ง สว.ครบ 2 ปีมานั่งคุมกลาโหม “พงศ์กวิน” หลานชาย “สุริยะ” ม้ามืดเสียบ รมว.แรงงาน พรรคแกนนำแบ่งเค้กเพิ่มเก้าอี้ซื้อใจพรรคร่วมฯถ้วนหน้า “ก๊วนธรรมนัส” ผงาดใหญ่เบิ้มได้คุม 2 กระทรวงเกรดเอ “นฤมล” ลุกจาก รมว.เกษตรฯไปนั่ง รมว. ศธ. ส่ง “อรรถกร” เลื่อนชั้นแทนพ่อขึ้นนั่ง รมว.เกษตรฯ “เสี่ยเฮ้ง” อัปเกรดตีตราจองเก้าอี้ มท.3 “ปลัดตุ๋ม” ลาออกจากราชการรับงานใหม่เป็น รมว.พาณิชย์ “แพทองธาร” เมินอังเคิลเขย่าการเมืองไทย โพสต์คำสอนให้อภัย “อ้วน” ไม่สนใจจอมปั่นรายวัน “ฮุน เซน” โวยสัมพันธ์ 30 ปีพัง เพราะลูกสาวเพื่อนดูหมิ่นเหยียดหยาม แฉ “ทักษิณ” จัดฉากป่วยทิพย์น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือ “ครม.อิ๊งค์ 2” ขึ้นทูลเกล้าฯเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการปรับใหญ่ ครม. มีทั้งโยกสลับตำแหน่งและมี รมต.หน้าใหม่เข้ามานั่งเก้าอี้ฝ่ายบริหารหลายตำแหน่งนายกฯหน้านิ่งไม่ตอบทูลเกล้าฯ โผ ครม.เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่พื้นที่สถานี รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มตะวันออก OR14 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เขตห้วยขวาง ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตรวจเยี่ยมการฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุ “การตอบโต้ภัยคุกคามพื้นที่ส่วนหลัง” ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธารถึงโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า ได้มีการทูลเกล้าฯไปแล้วหรือยัง นายกฯไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ยิ้มและเดินไปโดยไม่หันมามองสื่อมวลชน“ธรรมนัส” ผงาด กธ.คุม รมว.ศธ.-กษ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อโผ ครม.ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลได้รับการเกลี่ยตำแหน่งเพิ่มกันถ้วนหน้า โดยพรรคกล้าธรรม (กธ.) ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาพรรค กธ.ได้รับปูนบำเหน็จขยับเก้าอี้ให้ตำแหน่งใหญ่โตขึ้นอย่างมาก โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ขยับไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร อดีต รมช.เกษตรฯที่จะมาเป็นรัฐมนตรีแทนพ่อนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ แต่ได้ขึ้นชั้นนั่งเก้าอี้ใหญ่เป็น รมว.เกษตรฯ นอกจากนี้ยังมีโควตาในส่วนของ สส.พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) บางส่วนที่เข้ามารวมกับพรรคกล้าธรรมจะได้ 1 ตำแหน่ง เป็น รมช.ศึกษาธิการ โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม กับนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ บุตรชายนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ทสท.เป็นคู่ชิงดำ ที่ได้กรอกประวัติเอาไว้ทั้งคู่ แต่ท้ายที่สุดนายฉันทวิชญ์เข้าวินได้เก้าอี้ไปครอง“เฮ้ง” อัปเกรดไปนั่งเก้าอี้ มท.3ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ได้อัปเกรดไปเป็น รมช.มหาดไทย นั่งลุยงานในกระทรวงใหญ่ขึ้น ตีตราจองเป็นเจ้าของรหัส มท.3 ส่วนนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลาออกจากราชการมารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ตามโควตาคนนอกของนายทุนผู้สนับสนุนพรรค รทสช. ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้รับจัดสรร รมช.เพิ่มมาให้ 1 ตำแหน่ง โดยนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรี ธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ประเดิมเก้าอี้ รัฐมนตรีครั้งแรกเป็น รมช.สาธารณสุข แทนนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ที่ขยับไปเป็น รมช.มหาดไทย รับหน้าที่ มท.4 ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เพิ่มมา 1 เก้าอี้ รมช.เช่นกัน โดย พรรคมอบให้นายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม นั่งตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข“พงศ์กวิน” ม้ามืดเสียบ รมว.แรงงานขณะที่ในส่วนของพรรค พท. ในฐานะแกนนำมีการขยับและเพิ่มเก้าอี้ โดยขยับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ข้ามห้วยไปเป็น รมว.มหาดไทย ส่วนกระทรวงกลาโหมจะให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม ไปพลางก่อน เพื่อรอ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ หรือ “บิ๊กแก้ว” อดีต ผบ.ทสส. อดีต สว.ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง สว. จะครบ 2 ปีในวันที่ 31 ก.ย.68 มานั่งเป็น รมว.กลาโหม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ปรับไปนั่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนรัฐมนตรีใหม่ ประกอบด้วยนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค พท. หลานชายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และคมนาคม แกนนำพรรค พท. ได้เป็นตำแหน่ง รมว.แรงงาน และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ“อิ๊งค์” ควบ วธ. “พ่อมดดำ” รมต.สำนักนายกฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้นายจักรพงษ์ แสงมณี อดีต รมช.ต่างประเทศในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และอดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯที่หลุดจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ได้กลับเข้ามานั่งเป็น รมช.พาณิชย์ อีกครั้ง ขณะที่นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯได้เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวด้วยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะนั่งควบคำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม อีกหนึ่งตำแหน่งด้วย9 รมต.หน้าใหม่ตบเท้าร่วม ครม.อิ๊งค์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โผ ครม.ชุดใหม่ครั้งนี้มีรัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ 9 ตำแหน่งประกอบด้วยนายพงศ์กวิน นายจักรพงษ์ นายสุชาติ น.ส.ลิณธิภรณ์ นายอรรถกร นายชัยชนะ นายอนุชา นายจตุพรและ น.อ.อนุดิษฐ์ หรือนายฉันทวิชญ์ ขณะที่มีอดีตรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง 10 คนคืออดีต รมต.จากพรรคภูมิใจไทย 8 คนที่ลาออกไปก่อนหน้านี้และมีรัฐมนตรีถูกปรับออก 2 คนคือนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯและนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และสลับตำแหน่ง 5 คน ประกอบด้วยนายภูมิธรรม นางนฤมล น.ส.สุดาวรรณ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายเดชอิศม์“ชัยเกษม” โชว์ฟิตตีกอล์ฟพร้อมนั่งนายกฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวันที่ 26 มิ.ย.มีภาพนายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว. ยุติธรรม แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลำดับที่ 3 ขณะออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆที่วอเตอร์ มิลล์ กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ถูกจับตา เพื่อยืนยันสุขภาพแข็งแรง ต่อมานายชัยเกษม เปิดเผยว่า วันนั้นไปตีกอล์ฟหลายชั่วโมง สนุกดี ตอนนี้สบายดี สบายมาก เมื่อถามว่าพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ นายชัยเกษมกล่าวว่า มันต้องพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ถามว่าอยากไหม ใครจะอยากเหนื่อยอยู่สบายๆกับครอบครัว เมื่อถึงเวลาแล้ว จะได้เป็นหรือไม่อยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ผู้มีอำนาจต้องพิจารณากัน แต่จริงๆแล้วไม่ค่อยได้ไปยุ่งทางพรรคแล้ว เพียงแต่ว่าเขาอยากจะให้ตนทำอะไร ตนพร้อมยินดี แต่ว่าส่วนใหญ่ว่ากันไปเถอะ คนเก่งๆมีเยอะแยะ ไม่ต้องมาเป็นห่วง ดูให้ดีที่สุดให้บ้านเมืองมันไปได้แล้วกัน ตอนนี้ตนมาไกลเกินกว่าคิดถึงอะไรพวกนี้แล้ว“อ้วน” แย้มยังนั่งรองนายกฯควบไม่รู้ที่ทำเนียบรัฐบาลนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวนายกฯนำรายชื่อ ครม.อิ๊งค์ 2 ขึ้นทูลเกล้าฯแล้วว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกฯใจนายกฯอยากทำให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่รัฐมนตรีจะได้เข้ารับหน้าที่และทำหน้าที่เต็มที่เชื่อว่าเร็ว ตนรู้แค่ว่ายังเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เพราะยังมีงานต่อเนื่อง แต่จะเป็นรองนายกฯอย่างเดียวหรือควบกระทรวงใดไม่ทราบ ต้องถามนายกฯคนอื่นอยู่ในสภาวะเดียวกัน เรารู้แค่ว่ามีความเปลี่ยนแปลง ทุกคนยืนยันประวัติไปอยู่ที่นายกฯจะหยิบใครไปอยู่ตรงไหน ในพรรค พท.ไม่เคยมีปัญหาอย่าจับแพะชนแกะ “อิ๊งค์” ยังไปต่อนายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีภาพนายชัยเกษมตีกอล์ฟ ตีทุกสัปดาห์อยู่แล้ว คนเล่นกอล์ฟทำอย่างนี้กันอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายชัยเกษมให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมเป็นนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถือเป็นไพ่ของพรรค พท.ที่จะเดินต่อให้ครบวาระ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คิดที่จะเดินอะไรต่อ แต่คิดจะให้นายกฯเดินต่อในรัฐบาลและตั้ง ครม.ให้เสร็จโดยเร็ว ไม่มีประเด็นอื่น อย่าจับแพะชนแกะ“ประเสริฐ” มั่นใจ พท.ไร้แรงกระเพื่อมนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกฯนำรายชื่อ ครม.ใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯแล้วว่า ไม่ทราบว่ามีทูลเกล้าฯหรือยัง เป็นกระบวนการภายใน นายกฯยังไม่แจ้งว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ ใครจะอยู่ตรงไหน แต่จะอยู่ตรงไหน นายกฯคงดูความเหมาะสม ยินดีทำงานทุกตำแหน่งที่นายกฯมอบหมาย เมื่อเห็นหน้าตา ครม.ใหม่แล้ว เชื่อว่าภายในพรรค พท.ไม่มีแรงกระเพื่อม นายกฯคงจะมีเหตุมีผลวางบุคคล เป็นอำนาจของนายกฯอยู่แล้ว“แพทองธาร” โพสต์คำสอนให้อภัยอีกเรื่อง เมื่อเวลา 08.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ไอจีสตอรี เป็นคำสอนของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถานว่า “อภัย ถ้ามีโอกาสให้ จงให้เถิด แม้ว่าการให้อภัยของเรา เขาจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม ความโล่ง โปร่ง เบา สบาย ก็เกิดที่ใจของเราแล้ว” โดยการโพสต์สตอรีดังกล่าวของนายกฯเป็นช่วงที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กำลังไลฟ์ในเช้าวันเดียวกันนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันที่ 26 มิ.ย. นายกฯยังได้โพสต์คำสอนของแม่ชีศันสนีย์ ด้วยว่า “คนที่มีความสุขจะไม่ทำร้ายคนอื่น”ชมสาธิตแผนเผชิญเหตุภัยคุกคามต่อมาเวลา 14.30 น.ที่พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มตะวันออก OR14 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เขตห้วยขวาง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตรวจเยี่ยมการฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุ “การตอบโต้ภัยคุกคามพื้นที่ส่วนหลัง” มี พล.ท.สุเมธ พรหมตรุษ ผบ.ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทหาร ตำรวจ หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกฯได้ชมการสาธิตการก่อวินาศกรรมจนเกิดเหตุเพลิงไหม้และช่วยเหลือประชาชนขณะเกิดเหตุในสถานีรถไฟใต้ดิน ประสานการช่วยเหลือทั้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กทม.ตำรวจ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพลำเลียงผู้บาดเจ็บ ชมการสาธิตเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่มีการใช้อาวุธทำลายล้างสูงหรือ WMD และการกราดยิง การช่วยเหลือตัวประกันโดยใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้ายุติปัญหาหยอดซ้อมเป๊ะมาก ปชช.อบอุ่นใจน.ส.แพทองธารกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ได้เห็นการฝึกที่ทุกคนรู้หน้าที่ สบายใจแทนประชาชนว่าถ้ามีเหตุวิกฤติขึ้นจริงๆ ฝ่ายความมั่นคงทราบขั้นตอนที่แน่ชัด นี่คือความอุ่นใจ ความมั่นใจ ขอชื่นชมทุกคนที่ทุ่มเทการฝึกอย่างหนัก การวางแผนถือว่าเป๊ะมาก ชื่นชมจากใจ วันนี้ทำให้ประชาชนอุ่นใจ มั่นใจในความมั่นคงของประเทศ ต้องขอบคุณมากๆและขอส่งกำลังใจทุกท่าน“อ้วน” เมินจอมปั่นจ้อเขย่า “ทักษิณ”ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ออกมาแฉคลิปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ไม่ได้สนใจฟัง เพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เขาพูดหลายอย่างกลับไปกลับมา พูดไปเรื่อย ไม่รู้ว่าจะไปฟังภาษากัมพูชาทำไม เพราะฟังไม่ออก เขากำลังเล่นสงครามข่าวสารและจิตวิทยา เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย หากรัฐบาลไทยสั่นคลอน จะทำให้สิ่งที่เขาต้องการ อยากให้พวกเรายืนอยู่บนหลักของเรา หากเขาอยากเปิดอะไรก็เปิด ถ้ามีปัญหาค่อยว่ากันไปตามกฎหมาย แต่เชื่อว่าไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องสงครามข่าวสาร เปิดประเด็นทุกวันพยายามเคลื่อนไหวให้ต่างประเทศช่วย“ฮุน เซน” ท้าไทยยื่นฟ้องไอซีเจวันเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรีกัมพูชากล่าวระหว่างการประชุมสภาท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ตั้งคำถามว่าในเมื่อรัฐบาลไทยกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดอธิปไตย แล้วทำไมไม่ไปยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ทำไมหลีกหนีกระบวนการทางกฎหมาย แน่นอนว่าเรื่องนี้หากกัมพูชาถอนออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ ประชาชนจะโทษรัฐบาล ไทยก็โดนเหมือนกันถ้าทำเช่นนี้ แต่ถ้าให้ศาลตัดสินทุกคนจะบอกได้เต็มปากว่านี่คือคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ คนที่ไม่ทำคือขาดความซื่อสัตย์ ได้สั่งการกระทรวงยุติธรรมไปแล้ว ให้พิจารณาเพิกถอนสัญชาติบุคคลที่สมรู้ร่วมคิดต่างชาติทำร้ายกัมพูชา อาจจำเป็นต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ ขอให้กระทรวงยุติธรรมไปศึกษาความเป็นไปได้ทางกฎหมาย มันถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ เพื่อให้เป็นหลักประกันว่ากัมพูชาจะไม่ถูกแทรกแซง ส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามอยากให้เปิดเผยรายละเอียดเอกสารที่ยื่นต่อศาลไอซีเจ ไม่จำเป็น ไม่มีสิทธิมาขอนายกฯต่อสายตรงหารือ “มาครง”เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มตะวันออก OR14 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยการสนทนาโดยสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก โดยไทยยืนยันจุดยืนรักษาสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ พร้อมสนับสนุนระเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกฎระเบียบสากลในมิติอาเซียน ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนในการรับมืออาชญากรรมข้ามชาติดึงฝรั่งเศสช่วยเคลียร์ข้อพิพาทกัมพูชาโฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา น.ส.แพทองธารย้ำว่าประเทศไทยยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ด้วยความสุจริตใจ และประเทศไทยยังคงสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เดินหน้าทำงานต่อไปและหวังว่าฝรั่งเศสในฐานะหุ้นส่วนระหว่างประเทศที่ใกล้ชิด จะมีบทบาทสนับสนุนบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชาให้กลับมาดำเนินต่อไปด้วยดี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสรับทราบเจตนารมณ์ของไทย และจะพิจารณานำไปประสานความร่วมมือกับกัมพูชาต่อไป นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสถานการณ์ในเมียนมาแฉ “ทักษิณ” ใส่ปลอกคอจัดฉากป่วยทิพย์สำหรับกรณีที่ประกาศจะแฉนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไทย สมเด็จฮุน เซนกล่าวว่า “ทุกคนคงจำภาพถ่ายคู่กันแสดงให้เห็นนายทักษิณใส่อุปกรณ์พยุงคอและสายคล้องแขนเมื่อเดือน ก.พ.2567 ตอนที่ถ่ายรูปด้วยกันตอนนั้นนายทักษิณมิได้ป่วยแต่อย่างใด แต่เป็นการจัดฉากเพื่อถ่ายรูป และผมก็มีความเสียใจอย่างมากที่ความสัมพันธ์ 30 ปี กับนายทักษิณต้องมาพังเพราะ ถูก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ลูกสาวของเพื่อน ทำการดูหมิ่นเหยียดหยาม”หยัน “อิ๊งค์” ให้ร้ายแม่ทัพเข้าข่ายกบฏสมเด็จฮุน เซน กล่าวถึง น.ส.แพทองธารว่า เพื่อเป็นการซื้อใจตน ท่านนายกฯไทยได้จงใจที่จะหมิ่นประมาทผู้บัญชาการกองทัพของตัวเอง สงสัยเหมือนกันว่าเรื่องนี้คนไทยมองอย่างไร เพราะถ้าเป็นกัมพูชาถือว่าเข้าข่ายกบฏ สมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติใส่ร้ายป้ายสีกองทัพของตัวเอง แต่เท่าที่ดูแล้วคนไทยคงมองเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นกิจการภายในประเทศไทย แต่ในกัมพูชาจะไม่มีการอนุญาตให้ใครมาดูถูกกองทัพ นอกจากนี้ยังมีที่ปรึกษาเล่าให้ฟังว่ารัฐบาลไทยแอบยอมรับมาเป็นการส่วนตัวว่า หาก น.ส.แพทองธารคุมอำนาจได้มากกว่านี้ ผู้บัญชาการกองทัพที่กำลังเป็นประเด็นคงถูกจำคุกไปแล้ว แต่สุดท้ายไม่เข้าใจจริงๆว่า นายกฯไทยวิจารณ์กองทัพตัวเองเพื่อมาเอาใจตนไปได้อย่างไร ขนาดตนยังไม่เคยวิจารณ์กองทัพไทยเลย ขอฝากไปยังนายกฯ ไทยด้วยว่าไม่ควรไม่ใช้ถ้อยคำที่แสดงความใจแคบ หรือพยายามเล่นเกมการเมืองเพื่อเจรจากัมพูชาเรื่องพรมแดนและสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง รู้จักคนชื่อฮุน เซนน้อยไป อย่าคิดมาใช้แท็กติกหลอกกัน“บุญสิน” รับโล่ดีเด่นปราบยาเสพติดเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 68 รวม 210 รายและทายาทครอบครัวผู้เสียสละชีวิต เข้าร่วมพิธี โดยปีนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลที่มีผลงานระดับดีเด่น ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยผู้เข้าร่วมงานร่วมกันปรบมือแสดงความยินดี และเมื่อ พล.ท.บุญสินเดินลงจากเวทีผู้มาร่วมงานต่างเข้าไปขอถ่ายภาพคู่และเซลฟี่เป็นที่ระลึก ทั้งนี้นายภูมิธรรมกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ขอขอบคุณกำลังสำคัญขับเคลื่อนภารกิจต่อสู้กับยาเสพติดผบ.เหล่าทัพตบเท้าชี้แจงงบฯ ปี 69เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 พิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 204,434 ล้านบาท มีผู้บัญชาการเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.เข้าร่วมชี้แจงภาพรวมงบฯแต่ละหน่วยงานอย่างพร้อมเพรียง โดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.กล่าวถึงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนว่า ตั้งงบฯในปี 68 เตรียมเข้าสู่ ครม.เดือน ก.ค.ขออนุมัติให้ ทอ.ลงนามทำสัญญา รมว.กลาโหมระบุว่า หากเรื่องมาถึงท่านพร้อมจะเซ็นและอนุมัติขณะที่ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร.ชี้แจงว่า แผนงบฯ ปี 69 โครงการจัดหาเรือฟริเกต 2 ลำ เป็นหลักประกันรักษาผลประโยชน์ของชาติตามหน้าที่ของ ทร.จากกรณีประเทศจีนได้ขยายอิทธิพลทางทะเลเพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ตามยุทธศาสตร์ BRI และสนับสนุนยุทโธปกรณ์ ท่าเรือ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้ประเทศในภูมิภาคอาเซียนช่วง4-5 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ประเทศเพื่อนบ้านมีกำลังทางเรือที่แข็งแกร่งมากขึ้น มีความเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ทางทะเลโดยเฉพาะในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนได้ ทร.จำเป็นต้องมีความได้เปรียบในการรบที่เหนือกว่า เพื่อให้ประเทศคู่กรณีเข้าสู่การเจรจาในระดับต่างๆต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่