เพื่อไทยป้อง “แพทองธาร” คุยหลังไมค์ “ฮุน เซน” รักษาสันติภาพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ ขอให้มั่นใจร่วมมือกองทัพปกป้องดินแดนสุดความสามารถ วอนสังคมอย่าตกหลุมสงครามจิตวิทยาในเงามืด “ภูมิธรรม” มั่นใจรัฐบาลเหนียวแน่นกอดคอลุยต่อครบวาระ จวกภูมิใจไทยทำไม่เหมาะโจมตีปมชายแดนปั่นความแตกแยก บิ๊กเพื่อไทยต่อสายเช็กเสียงพรรคร่วมฯ ลุยปรับ ครม.ปิดจ๊อบภายในเดือน มิ.ย. “วราวุธ” อ้างข้อมูลยังไม่ครบ ชทพ.ไม่เสี่ยงถอนตัวช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ รทสช.กั๊กมติ “ตุ๋ย” ขอไปคุยกับนายกฯก่อน ปชป.ลงมติ 19 ต่อ 7 ร่วมรัฐนาวาต่อไป ปชน.บี้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เท่านั้น กมธ.ทหาร วุฒิสภา ฟาดแรงนายกฯขายชาติ ลุยยื่น ป.ป.ช.-ศาล รธน.ถอดถอน “สมชาย-ทนายนกเขา” ร้อง บช.ก.ฟันคดีอาญาเป็นภัยความมั่นคงฯ จี้ไขก๊อกรับผิดชอบ “เรืองไกร” ยื่น กกต.เชือดไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกกระแสกดดันจากรอบด้าน สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยมีเสียงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือลาออก ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามชี้แจงปกป้องนายกฯ ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติเพื่อไทยป้องนายกฯรักษาสันติภาพ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนและ สส.พรรค พท. ขอส่งกำลังใจและพร้อมยืนเคียงข้าง น.ส.แพทองธาร ทั้งในฐานะนายกฯและหัวหน้าพรรค พท. หากฟังคลิปเสียงด้วยความเข้าใจ จะเห็นได้ชัดเป็นความพยายามที่จะใช้การสื่อสารเพื่อรักษาสันติภาพ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มความสามารถ แม้ในบทสนทนาอาจมีบางถ้อยคำถูกมองว่าเป็นประเด็นอ่อนไหว สังคมไทยต้องช่วยกัน อย่าให้สงครามจิตวิทยาในเงามืดที่วางเล่ห์กลไว้ส่งผล อาจมีเป้าหมายบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อผู้นำประเทศ สังคมไทยต้องไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของขบวนการนี้เซฟผู้นำปกป้องผลประโยชน์ชาตินายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และอดีต รมว.ต่างประเทศ แถลงว่า การนำคลิปสนทนาส่วนตัวมาเผยแพร่ฝ่ายเดียวโดยอีกฝ่ายไม่ทราบ ผิดมารยาทและแนวปฏิบัติพื้นฐานการทูต เป็นการกระทำเพื่อวาระทางการเมืองในประเทศของตน ไม่คำนึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คนไทยไม่ควรแตกแยก การแตกความสามัคคีจะทำให้กัมพูชาสำเร็จตามเป้าประสงค์ที่ไว้ เนื้อหาสาระในคลิปสมเด็จฮุน เซน ต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน กัมพูชาจึงจะเปิดด่านตาม แต่ น.ส.แพทองธาร ไม่ทำตามความประสงค์กัมพูชา ปกป้องผลประโยชน์ชาติเต็มที่ ถึงวันนี้ไทยยังไม่ได้เปิดด่านตามคำขอกัมพูชา พรรค พท.ให้ความมั่นใจ จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนประเทศไทย ทำงานร่วมกับกองทัพอย่างมีเอกภาพ ปกป้องดินแดนและผลประโยชน์ชาติจนสุดความสามารถ“อ้วน” มั่นใจ รบ.เหนียวแน่นครบวาระนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังเหนียวแน่น ไม่มีปัญหาอะไร เข้าใจสถานการณ์กันดี เสียงที่มีอยู่พอไม่มีปัญหา พรรคที่มีอยู่เท่านี้พอ มีพรรค ภท.พรรคเดียวปล่อยมือไปแล้ว ก็ไม่มีปัญหา พรรคอื่นได้คุยกันบอกเราแล้วว่าจะประชุมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกเรื่องอธิปไตยมาคุยถูกแล้วควรต้องพูด เพราะต้องทำความเข้าใจร่วมกัน พอเคลียร์เรื่องนี้ให้ทุกส่วนเข้าใจกันแล้วว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เรื่อง ครม.จะเป็นเรื่องหลังจากนี้ไป มั่นใจไปได้จบครบวาระ เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา จากนี้ไปก็ทำให้นโยบายเกิดขึ้นจริง ทำให้กลไกของกระทรวงมหาดไทยเอานโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชนได้ และนายกฯพยายามชี้แจงแล้ว ได้ขออภัยประชาชนไปแล้วว่า เป็นสิ่งที่อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ปรารถนาทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัว สิ่งที่สมเด็จฮุน เซน ทำในสิ่งที่ไม่มีใครเขาทำกันระหว่างประเทศ ถือว่าไม่เหมาะสมจวก ภท.ไม่เหมาะโจมตีปมชายแดนนายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้มีสิ่งที่พยายามจะสร้างเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอก ภายในคือกลุ่มอยากล้มรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา จริงๆพรรค ภท.ที่ออกมาพูดเรื่องสถานการณ์ตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะรู้กันอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว กระบวนการแก้ปัญหากัมพูชา กองทัพยังเข้าใจเลย ทำไมพรรค ภท.ไม่เข้าใจว่า ไม่ใช่เป็นประเด็นปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของต่างประเทศที่จะมากระทบเรา ในฐานะเคยร่วมงานกันมาอย่างดี อย่าใช้ประเด็นอย่างนี้มาสร้างให้เกิดความไม่สบายใจกันและเกิดความรู้สึกแตกแยกจะไปเข้าทางสมเด็จฮุน เซน และกัมพูชา ที่อยากให้เกิดความอ่อนแอภายในประเทศนายกฯนำ ครม.เยี่ยม ร.ร.จิตอาสา 904เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 (บางเขน) ถนนพหลโยธิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นำ ครม.แต่งกายด้วยชุดจิตอาสาพระราชทาน เสื้อโปโลสีเหลืองตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดีอี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานหลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 (บางเขน) มี พล.ร.อ.คณีพล สงเจริญ ผอ.ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 (บางเขน) ต้อนรับ โดยนายกฯและ ครม.ชมวีดิทัศน์การดำเนินงาน ก่อนเยี่ยมชมและศึกษาดูงานหลักสูตรการฝึกปฏิบัติ และดูงานเศรษฐกิจพอเพียง แวะทักทายเด็กนักเรียนและเยาวชนที่มาเข้าฝึกอบรมอย่างเป็นกันเอง และไปยังโรงเลี้ยงเพื่อทานอาหารกลางวัน (อาหารพระราชทาน) ก่อนเดินทางกลับเช็กพรรคร่วมฯลุยปรับ ครม. จบ มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พลิกเกมชิงถอนตัว พร้อมเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ รับผิดชอบเซ่นคลิปคุยสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จนทำให้หลายฝ่ายกังวล แต่เมื่อ น.ส.แพทองธาร ยืนแถลงข่าวร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ ในวันเดียวกันนี้ แกนนำพรรค พท. ได้ต่อสายหาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ยังคงให้คำยืนยันจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อ รวมถึงต่อสายหา สส.กลุ่มต่างๆที่จะมาเติมเสียงให้ฝ่ายรัฐบาล ได้รับการยืนยันว่าสัญญาณยังเหมือนเดิมพร้อมมาเติมเสียงให้ ทำให้พรรค พท.เดินหน้าปรับ ครม.ตามไทม์ไลน์เดิม โดยจะเร่งรวบรวมเสียงทุกอย่างให้นิ่ง เพื่อให้การปรับ ครม.เสร็จสิ้นตามเป้าหมายเดิมภายในเดือน มิ.ย.“ทวี” บอก รบ.ไปต่อเร่งกู้ความเชื่อมั่นพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ในฐานะรัฐบาลคงต้องมีมาตรการเพื่อให้คนไทยเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล ขอให้กำลังใจทั้งทหาร ทั้งทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่นี้ ภาพรวมรัฐบาลยังไปต่อ เมื่อมีรัฐมนตรีลาออกต้องมีการปรับปรุง ครม. กรณีที่รัฐบาลมีเสียงหายไป 69 เสียง ต้องส่งสัญญาณไปยัง สส.ฝ่ายรัฐบาล ต้องรับผิดชอบต่อสภาฯ ถ้าเราเข้าครบ มันก็เกิน“นฤมล” ยัน กธ.หนุน “อิ๊งค์” ทำงานต่อที่กระทรวงเกษตรฯ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาเช่นนี้เป็นเวลาที่เราต้องสามัคคีกัน เราเป็นผู้ถูกกระทำและอาจจะกำลังจะหลงเกมของเขาหรือไม่ ตอนนี้ต้องให้กำลังใจกองทัพ เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่แนวหน้าปกป้องอธิปไตยไทย เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรค กธ.นางนฤมลกล่าวว่า มองว่าไม่จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ใดๆ เพราะทุกคนมีจุดยืนเดียวกันหมด ทุกคนหวงแหนรักษาอธิปไตยของไทย ไม่มีคนไทยคนใดที่อยากเสียอธิปไตย เมื่อถามว่าพรรค กธ.ยังสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.เป็นนายกฯใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ใช่ ยังสนับสนุนอยู่และพร้อมยืนอยู่ข้างคนไทยและกองทัพ“จิตภัสร์-สามารถ” จี้ ปชป.ถอนตัวขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรค หารือสถานการณ์การเมืองเวลา 17.00 น. น.ส.จิตภัสร์ ตั๊นกฤดากร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคและ กก.บห.เสนอให้บรรจุประเด็นการทบทวนจุดยืนของพรรคต่อการร่วมรัฐบาลเข้าสู่วาระการประชุม เช่นเดียวกับนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าและอดีต สส.กทม.พรรค ปชป.โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้อง “ถึงเวลา ปชป. ต้องถอนตัว!” ระบุเมื่อศักดิ์ศรีของชาติถูกวางไว้ใต้โต๊ะเจรจา ปชป.จะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อเพื่ออะไรมติ ปชป.19 ต่อ 7 ให้ร่วมรัฐบาลต่อกระทั่งเวลา 20.15 น. น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรค ปชป.แถลงผลการประชุมคณะ กก.บห.พรรคว่า ให้รอหัวหน้าพรรคพูดคนเดียว ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ในที่ประชุมเปิดให้ กก.บห.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายต้องการให้ถอนตัวและฝ่ายไม่ถอนตัว จนที่ประชุมให้โหวต ผลออกมาเสียง 19 ต่อ 7 ให้อยู่ ร่วมรัฐบาลต่อ ฝ่ายที่ขอให้ถอนตัวขอให้มีเงื่อนไขคือต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะพฤติกรรมชัดเจนว่าผิดทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญและขัดจริยธรรม แต่ฝ่ายเสียงข้างมากแย้งว่าเมื่อเสียงส่วนใหญ่ชนะแล้ว ไม่ควรมีเงื่อนไขใดๆนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลังการประชุมว่า พรรค ปชป.ชัดเจนที่สุดและตนไม่เคยไปหารือถึงตำแหน่งใดกับพรรค พท.เลย ได้ให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นเต็มที่เป็นอิสระ เมื่อถามว่าพรรคจะได้รัฐมนตรีเพิ่มกี่เก้าอี้ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า อย่าถามแบบนี้ เพราะไม่เคยไปต่อรองกับใครชทพ.อ้างข้อมูลไม่ครบ-ร่วม รบ.ต่อเมื่อเวลา 16.30 น. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควาระพิเศษ มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าพรรคเป็นประธาน เกือบ 2 ชั่วโมง นายวราวุธแถลงว่า ทุกคนลงความเห็นทางเดียวกันว่าสถานการณ์ขณะนี้และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น พรรค ชทพ.เชื่อว่าอธิปไตยของประเทศและความมั่นคงของประเทศคือสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง พรรคเห็นควรสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงให้รัฐบาล มอบหมายหัวหน้าพรรคไปพูดคุยกับนายกฯในรายละเอียด ได้ข้อมูลเพิ่มเติมครบถ้วนแล้วจะนำมาเสนอต่อที่ประชุม กก.บห. และ สส.พรรคต่อไป พรรคจะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เราไม่เสี่ยงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่วนคลิปเสียงเป็นการพูดคุยระหว่างอาหลาน และบอกไม่ถูกว่ามีจุดประสงค์อย่างไรรทสช.กั๊กมติ “ตุ๋ย” ขอแจ้งนายกฯก่อนเย็นวันเดยวกัน ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค 9 คน โดยนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สมาชิกกลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้รับเชิญ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ไม่ได้เชิญทุกคน ไม่ได้มีเจตนาจะไม่เชิญ สส.กลุ่ม 18 ไม่มีการแบ่งซีกแบ่งฝ่าย เป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ ตำแหน่งหรือใครไม่สำคัญไปมากกว่านี้ เมื่อถามว่าเงื่อนไขอยู่ร่วมมีการเพิ่มโควตารัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกนัฏตอบว่า ไม่เอา จุดยืนพรรคไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง อย่างที่บอกตนจะอยู่หรือไปไม่สำคัญ กระทั่งเวลา 19.00 น. กรรมการบริหารพรรค และ สส.ทุกคนปฏิเสธที่จะเปิดเผยมติพรรค บอกหัวหน้าพรรคจะแถลงเอง แต่เมื่อนายพีระพันธุ์ลงมากล่าวเพียงว่าขอนำมติไปคุยกับนายกฯก่อน แล้วขึ้นรถออกจากพรรคทันทีตั้งแง่ชง พท.เปลี่ยนนายกฯลดแรงต้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่านายกฯต้องไปแก้ปัญหาทางการเมือง หากพรรค รทสช.ถอนตัวจะทำให้ต้องมีการยุบสภา ขณะที่กระแสพรรคประชาชน (ปชน.) จะมาอย่างท่วมท้น มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมจึงมีมติให้นายพีระพันธุ์ ไปพูดคุยกับนายกฯเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยพรรค รทสช.ยอมรับได้ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ พรรค พท.ยังมีแคนดิเดตนายกฯที่เหลืออยู่คือ นายชัยเกษม นิติสิริ“หนู” โชว์รูปคู่ มทภ.2-กินข้าวกับปลัด มท.เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล แถลงลาออกจากรองประธานสภาฯคนที่ 2 หลังพรรค ภท.ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลว่า ขอลาออกไปทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนสมาชิกพรรคในฐานะ สส.ฝ่ายค้าน ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.มหาดไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “อันสยามเป็นบ้านเกิด เมืองนอนดุจบิดามารดรเปรียบได้ #พร้อมขึ้นรูปสมัยเป็น รมว.มหาดไทยสวมชุดกากียืนพูดคุยกับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 สวมชุดลายพราง ระหว่างลงพื้นที่ตรวจตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา” ต่อมาไปทานอาหารเที่ยงกับแกนนำพรรค ภท. ที่โรงแรมดิแอทธินี กรุงเทพฯ มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ นายสมชัย อัศวชัยโสภณ หรือเฮียเน้า นางจิตรา หมีทอง อดีตรองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ร่วมวง8 รมต.ส่งใบลาออกถึงทำเนียบฯต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนสมาชิกพรรค ภท.นำหนังสือลาออกจากรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายทรงศักดิ์ ทองศรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ และนางศุภมาส อิศรภักดี ยื่นต่อนายกฯผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ส่วน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล และนายนภิทร ศรีสรรพางค์ จะทยอยยื่นลาออกในวันเดียวกัน ขณะที่เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ไปอำลาข้าราชการ โดยกล่าวว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงหัวโขน การเมืองเป็นเรื่องปกติ ไปได้ก็กลับมาใหม่ได้ปชน.จี้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เท่านั้นเมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน.แถลงข้อเรียกร้องต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯว่า กรณีคลิปเสียงหลุด เป็นฟางเส้นสุดท้ายของนายกฯ ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อการบริหารแผ่นดินหมดสิ้นแล้ว ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหาให้ประเทศได้ คือรัฐบาลที่ชอบธรรมต้องมาตามระบบกลไกประชาธิปไตย การรัฐประหารไม่ใช่ทางออก จุดยืนพรรค ปชน.ภายใต้รัฐสภาชุดนี้ เราจะไม่เป็นรัฐบาล การใช้ช่องทางอื่นๆ หรือเรียกร้องให้นายกฯลาออก ภายใต้หน้ากระดานการเมือง แคนดิเดตนายกฯตอนนี้ไม่ใช่ทางออก เรียกร้องให้นายกฯยุบสภาฯคืนอำนาจประชาชนเลือกตั้งครั้งใหม่ เลือกนายกฯคนใหม่ ส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลเรียกร้องให้หลายพรรคที่ประชุมวันนี้ ประกาศถอนตัวร่วมรัฐบาลเช่นเดียวกันซัดสุญญากาศอยู่ที่ภาวะผู้นำเมื่อถามว่าถ้ายุบสภาฯจะเข้าทางกัมพูชาหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ถึงแม้ยุบสภาฯแล้ว แต่รัฐบาลรักษาการสามารถใช้กลไกในระบบราชการปัจจุบันในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศได้อยู่ ไม่ใช่การยุบสภาทำให้เกิดสุญญากาศ แต่การเกิดสุญญากาศอยู่ที่ภาวะผู้นำของนายกฯ“ลุงป้อม” อัด “อิ๊งค์” อ่อนเชิงจี้ไขก๊อกด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ช่วงดึกวันที่ 18 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร. ออกแถลงการณ์ ระบุพรรค พปชร. ห่วงใยต่อสถานการณ์และการดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงกายในประเทศ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอ ขาดประสบการณ์และชั้นเชิงการเจรจา ต่อการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกัมพูชาอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการบริหารราชการแผ่นดินของประชาชนและอารยประเทศ อาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวเจรจา ก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงกับประเทศ พร้อมแสดงถ้อยคำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรี กองกำลังด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ปกป้องรักษาอธิปไตยให้กับคนไทยด้วยความยากลำบาก เห็นควรให้นายกฯประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกมธ.ทหารขยี้นายกฯขายชาติด้าน พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ประธาน กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมคณะ สว.แถลงเรียกร้องนายกฯลาออกว่า ไม่สบายใจพฤติการณ์ผู้นำรัฐบาลด้อยความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ ยินยอมอ่อนน้อมให้ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทย ตอบสนองความต้องการที่สมเด็จฮุน เซนเรียกร้อง พฤติการณ์ผู้นำรัฐบาลส่อความเป็นคนไม่รักชาติ บ่งบอกเป็นคนทรยศขายชาติ อาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้ 1.ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ประเทศ มาตรา 52 รัฐต้องพิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขต 2.ผิดประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ในมาตราต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานกบฏ คบคิดกับบุคคลกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศ เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบลุยยื่น ป.ป.ช.-ศาล รธน.ถอดถอนพล.อ.สวัสดิ์กล่าวว่า 3.การตำหนิแม่ทัพภาค 2 เป็นคนละฝ่ายกับเรา สร้างความแตกแยกในชาติ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดจริยธรรมร้ายแรง ขาดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่อาจปล่อยให้บริหารประเทศต่อได้แม้แต่วินาทีเดียว ขอให้ลาออก ยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีและจะยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธารต่อ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 19 มิ.ย.เนื่องจากขาดคุณสมบัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน เชื่อว่าคงไม่ถึงทางตันนำไปสู่รัฐประหาร อย่าเอามาเป็นกังวล รัฐบาลน่าจะมีทางออกที่ดี คงไม่ไปถึงขนาดนั้น ทหารยุคไหนๆถ้าไม่จำเป็นจริงไม่มีใครอยากทำ“สมชาย-พธม.” แจ้งจับนายกฯภัยมั่นคงเมื่อเวลา 11.30 น. ที่หน้าศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือหรือทนายนกเขา นายคมสัน โพธิคง นักวิชาการกฎหมาย เข้าพบ ร.ต.อ.พิเชษฐ เทพสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน กก.1.บก.ป.) แจ้งความดำเนินคดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในความผิดตามมาตรา 119, 120,122,128 และ 129 จากกรณีคลิปเสียงเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชานายสมชายกล่าวว่า มายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับ น.ส.แพทองธาร เพราะตำแหน่งนายกฯเป็นประมุขของประเทศ การแอบไปเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จฮุน เซนตามคลิปเสียงแม้อ้างเป็นเทคนิคการเจรจาฟังไม่ขึ้น เนื้อหากระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายความผิดอาญาหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 มีพฤติกรรมล่อแหลมส่งผลทําให้ประเทศชาติเสียหาย สุ่มเสี่ยงสูญเสียอธิปไตยและอาจมีการกระทำอื่นๆอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เผยแพร่ น.ส.แพทองธารต้องรับผิดชอบลาออก พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว อย่าหลงประเด็นว่าต้องยุบสภา ไม่ใช่ความผิด สส. พรรคฝ่ายค้านอย่าหาประโยชน์ทางการเมือง ยุบสภาจะทำให้วุ่นวายมากขึ้น แม้พรรคประชาชนได้เปรียบในการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาบ้านเมือง นายกฯต้องเปลี่ยนแล้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ บ้านเมืองถึงเดินต่อไปได้ ถ้ายุบสภาปัญหาจะยืดเยื้อ เกิดรัฐบาลรักษาการ เกิดภาวะวิกฤติ ประเทศจมปลัก นำมาสู่การรัฐประหารภาค ปชช.นัดหารือจัดทัพขับไล่ผู้นำขณะที่นายคมสันกล่าวว่า นายกฯเสนอผลประโยชน์ต่างๆให้ฝั่งตรงข้ามเข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงมาแจ้งความตำรวจสอบสวนกลางให้ดำเนินคดีอาญา ส่วนการไปยื่น ป.ป.ช.เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในอนาคต ด้านนายนิติธรกล่าวว่า นายกฯทำตัวเองเป็นปรปักษ์กับประเทศตัวเอง ผู้นำทำตัวเป็นภัยต่อแผ่นดิน และในวันที่ 20 มิ.ย.ภาคประชาชนหลายภาคส่วน จะร่วมกันหารือกำหนดท่าที เบื้องต้นเริ่มจากการออกแถลงการณ์ให้นายกฯลาออก จากนั้นจะกำหนดท่าทีใหม่อีกครั้ง“เรืองไกร” ชงฟันไม่ซื่อสัตย์สุจริตฯเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร. ยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกฯสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) หรือไม่ กรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน นายเรืองไกรกล่าวว่า นายกฯยอมรับเองเป็นคลิปเสียงจริง ถือเป็นหลักฐานสำคัญชี้เหตุความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยศาลรัฐธรรมนูญวางแนววินิจฉัยไว้ เหมือนกรณีคดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ยึดเป็นแนวบรรทัดฐานได้ กรณีนี้จะเข้าข่ายว่านายกฯไปทำการที่ไม่ซื่อสัตย์ สุจริต ทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งและเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่มั่นใจหลักฐานมัดอยู่ที่ กกต.จัดการนายเรืองไกรกล่าวอีกว่า นี่ยังไม่ได้พูดถึงการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่จะเป็นดุลพินิจของ กกต. หรือจะมีการส่งต่อสำนักงาน ป.ป.ช.อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ตามประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรกับความมั่นคงที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เช่น มาตรา 116 และมาตรา 119 โดยไม่ใช่หน้าที่ และอำนาจ กกต. อาจมีการรวบรวมพยานหลักฐาน หรือหากมีพรรคการเมืองหรือ สว.เข้าชื่อยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือกลุ่มบุคคลที่จะยื่นถือเป็นสิทธิ ข้อเท็จจริงแทบจะไม่ต้องหายากอะไร มีเยอะมาก เมื่อถามว่าถือเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ก้าวก่ายงานราชการหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า มันจะมากกว่านั้น กระทบความมั่นคงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่