ศ.ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้น สมศ. จึงต้องปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อให้การประเมินคุณภาพภายนอกมีความทันสมัย ยืดหยุ่น เป็นธรรม และตรวจสอบได้ สมศ.จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ ONESQA 5.0 ที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยในกระบวนการประเมินคุณภาพภายนอกนั้น สมศ.ได้กำหนดแนวทางอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ AI เป็นเครื่องมือหลักในการบริหารจัดการศึกษาผอ.สมศ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สมศ.เริ่มดำเนินการโดยเริ่มใช้ Machine Learning ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI มาใช้ใน “ระบบวิเคราะห์ข้อมูล” เพื่อชี้เป้า (Targeted Identification) กลุ่มโรงเรียนที่มีศักยภาพในการพัฒนา โดยพิจารณาจากคุณภาพบริบทเฉพาะของแต่ละสถานศึกษา เช่น โรงเรียนในพื้นที่ชายขอบ ในเมืองหรือพื้นที่พิเศษ ซึ่งโมเดลการวิเคราะห์นี้ สามารถจำแนกกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำกว่าการใช้วิธีการแบบเดิม สามารถสะท้อนศักยภาพของสถานศึกษาแต่ละแห่งตามจริง ผลักดันให้เกิดนโยบายที่ลงไปช่วยพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งโมเดลยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็น AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลการประเมินคุณภาพภายนอกโดยอัตโนมัติได้ในอนาคต และลำดับต่อไป สมศ. มีเป้าหมายในการพัฒนาแพลตฟอร์มการประเมินอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลจากรายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) ของสถานศึกษา ไปจนถึงรายงานของผู้ประเมินภายนอก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในระดับเชิงลึก และแสดงผลข้อมูลแบบสรุปข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในหน้าจอเดียวที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ทั้งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ประเมินภายนอกสามารถใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่