กรณีที่ อนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ของ กกต. มีมติให้ออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วเลือก สว.ประมาณ 20 ราย ให้มารายงานตัวตามหมายเรียกกับ กกต. ส่วนใหญ่เป็นแกนนำคนสำคัญของ พรรคภูมิใจไทย ทั้งสิ้น อาทิ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภา ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผช.รมว.ศึกษาฯ ธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย ลูกนายก อบจ.เลย เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ลูกชาย มนัญญา ไทยเศรษฐ์ หลานชาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล เป็นต้น ภาษาการเมืองเรียกว่า เตรียมขุดรากถอนโคน ภูมิใจไทยไม่ให้ผุดให้เกิดเพราะถ้ามีความผิดจริง พรรคภูมิใจไทยหนีไม่พ้นวิบากกรรมทั้งพรรค สว.ที่ระบุกันว่าเป็น สว.สีน้ำเงินก็จะอยู่ไม่ได้ ส่วนจะถึงขั้นเข้าข่ายคดีฟอกเงิน อั้งยี่ ซ่องโจรอีกกระทงหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง เล่นกันแรงขนาดนี้ยังมองหน้ากันติดก็ถือว่าความอดทนเป็นเลิศ แม้อนุทินจะไม่พูดตรงๆ ว่านี่คือการเมือง แต่จังหวะนี้ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เชิญเข้าไปหารือเรื่องการปรับ ครม. เป็นการส่วนตัว ซึ่งคุณอนุทินออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า โล่งอก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกภูเขาออกจากอกได้ คนในบ้านอยู่ด้วยกันด้วยความหวาดระแวง ถือมีดไว้คนละเล่ม วันหนึ่งวันนั้นก็ต้องมาถึงเมื่อ อนุทินยืนยันว่า ถนัดทำงานที่ในตำแหน่ง มท.1 ไม่ใช่ รมว.พาณิชย์หรือศึกษาฯก็แปลว่า ไม่ยอมรับการที่จะถูกปรับให้พ้นเก้าอี้ มท.1 เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร ผลโพลการเมืองที่ออกมา กระทรวงที่อยากให้ปรับ รมต.มากที่สุดคือ กลาโหม ไม่ใช่ มหาดไทย เท่ากับว่าเผือกร้อนถูกโยนไปให้ นายกฯ แพทองธาร ในกรณีที่ภูมิใจไทยยังยืนยันที่เก้าอี้ มท.1 นายกฯจะเอาอย่างไรต่อไปเป็นหน้าที่นายกฯ ที่จะกล้าหักด้ามพร้าด้วยเข่าหรือไม่เท่านั้นเพราะฉะนั้น นายกฯ และเพื่อไทย จึงมีอยู่แค่ 2 ทางเลือก คือให้มหาดไทยอยู่กับภูมิใจไทยต่อไปไม่มีการปรับ ครม.ใดๆ อยู่กันไปอย่างนี้จนครบวาระหรือจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง หรือขับภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล แล้วเอา สส.จากพรรคอื่นที่อยู่ฝ่ายค้านมาเป็น รมต.แทน เป็นรัฐบาลลูกผสมอึมครึมไปเรื่อยๆ ไปตายเอาดาบหน้าเชื่อว่า เพื่อไทยก็ต้องชั่งน้ำหนักถึงสถานการณ์ในวันข้างหน้า โดยเฉพาะเรื่องสำคัญสองเรื่องที่ต้องทำให้เสร็จ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กับการดึงเก้าอี้ มท.1 เพื่อเตรียมพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งให้สะเด็ดน้ำ แต่นั่นหมายความว่า จะต้องยอมปล่อยเสือเข้าป่า จะสู้กับเสือก็ต้องสบตาเสือให้ดี ห้ามกะพริบตาการเมืองใกล้จะสุกงอม.หมัดเหล็กคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม