หลังตกอยู่ในความปั่นป่วนมานาน 6 เดือน จากการประกาศกฎอัยการศึกอย่าง ไม่สมเหตุสมผลของนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีในขณะนั้น ในที่สุดเกาหลีใต้ก็ได้ผู้นำคนใหม่ “อี แจ–มยอง” จากพรรคประชาธิปไตย นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีพร้อม ภาระหนักอึ้ง แบกความหวังของคนทั้งชาติ ให้ฟื้นฟูประเทศที่แตกแยกและซวนเซให้กลับมาแข็งแกร่งเกรียงไกร หลังคว้าชัยในการ เลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมานายอีเคยกล่าวว่า จะรับมือกับความท้าทายอันซับซ้อนสารพัดรูปแบบทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ด้วยแนวทาง ยืดหยุ่น มองโลกอย่างเป็นจริง ไม่ดื้อดึงยึดถืออุดมการณ์มากจนเกินไป แต่จะเน้นที่ผลในทางปฏิบัติเป็นหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการต่างประเทศ ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ประกาศแนวทางจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดย มองว่าความร่วมมือ กับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญ และจะดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยคำนึงถึงความเป็นจริงและผลประโยชน์ของชาติ ขณะที่มีแผนจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับจีนและเปิดช่องทางการสื่อสารเพื่อการเจรจาและความร่วมมือกับเกาหลีเหนือ อีกครั้งเพื่อสันติภาพยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี แต่ก็ย้ำถึงความจำเป็นในการป้องปราม ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือเช่นกันนายอีและพรรคประชาธิปไตยสนับ สนุนการเจรจากับเกาหลีเหนือมายาวนาน เชื่อว่า เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลี และลดความตึงเครียดเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอาวุธนิวเคลียร์“การชนะสงครามนั้นเป็นสิ่งสำคัญ การชนะโดยไม่ทำสงครามนั้นสำคัญยิ่งกว่า แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการสร้างสันติภาพและทำให้ไม่เกิดการต่อสู้ห้ำหั่นกันตั้งแต่แรก”.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม