ก่อนหน้าเคยเอ่ยปากอาจจะไม่รับงานละครแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ ล่าสุดมาร่วมงาน EXCLUSIVE PRESS INTERVIEW “คุณแม่แก้ขัด” ณ อาคาร 7 ช่อง 7HD เผยไม่ทิ้งวงการบันเทิงแต่เลือกบทที่สร้างแรงบันดาลใจและสังคม พร้อมอุบโปรเจกต์ใหม่เตรียมตัวจับไมค์ร้องเพลงแล้ว เริ่มจากถามถึงละครเห็นบอกว่าจำอะไรไม่ได้เลย“จำไม่ได้เลย ก่อนหน้าที่สัมภาษณ์ที่คุยกันแล้วจำได้ เพราะขอดูคลิปเก่าๆ ซึ่งเป็นคลิปโดนแอบถ่ายหมดเลย (หัวเราะ) ที่แอบถ่ายไม่รู้เป็นเพราะชอบหรือเปล่า ขอดูฉากอื่นๆ ไม่ค่อยมี”ฉากไหนที่ช็อตฟีลที่สุด“ฉากที่ผมดูคลิปนี่แหละครับเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าเล่นแบบนั้น ถ้าย้อนกลับไปถามว่าตอนนั้นทำไมกล้าเล่นแบบนั้น ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันทำไมกล้าเล่น โชคดีมากที่ละครออนตอนนี้เพราะตั้งแต่ผมสึกมาผมใช้เวลาเกือบเดือนกว่าจะปรับตัวเป็นฆราวาสได้ ก่อนหน้าผมยังทำตัวเหมือนพระอยู่เลย สมมติทานข้าวอยู่ผมจะไม่คุยกับใครเลย ใครถามผมแค่จะพยักหน้าเพราะมันเป็นข้อปฏิบัติของพระ ถ้าผมลุกเมื่อไหร่นั่นคือทานเสร็จ จะไม่เดินกลับมานั่งทานอีก” เห็นว่าอยากกลับไปบวชอีกรอบ“ใช่ครับ อยากมากๆ แต่ผมคิดว่ามันมีเรื่องทางโลก พระท่านมาถามผมสมมติถ้าเราทิ้งไว้แบบนี้เราจะสบายใจหรือเปล่า ผมลืมคิดสิ่งนี้ ไม่สบายใจแน่นอน อยู่ดีๆผมจะทิ้งหนี้ให้คนอื่นนี่นะ ผมจะไปทิ้งทุกข์ให้คนอื่นได้ไง เป็นสิ่งที่ผมลืมคิดไป เป็นสิ่งที่เราไปสร้างเอง ไม่มีใครบอกให้ผมซื้อบ้าน ไม่มีใครบังคับให้ซื้อรถ คุณเป็นคนตัดสินใจซื้อเองแล้วอยู่ดีๆคุณจะทิ้งอันนี้ให้ใครล่ะ”เห็นว่าหลังจากนี้อาจจะไม่รับ งานละครแล้วด้วย“ก่อนหน้าเวลาคนถามผมว่าจะรับงานละครไหม ตอนนั้น 50-60% ด้วยซ้ำ แต่ ณ ตอนนี้ 70% ที่อาจจะรับได้ มันมีความเปลี่ยนเพราะแฟนๆ พอรู้ว่าละคร คุณแม่แก้ขัด จะออนแอร์ ทุกคนดีใจแล้วก็ถามแต่คำถามนี้ ก็มานั่งสะท้อน ก่อนหน้าก็แฟนคลับก็มาถามถึงละคร สารวัตรใหญ่ ผมไปงานแต่ละงาน เจอตำรวจใหญ่ หลายๆ คนเขาพูดว่าชอบมากเลยตอนเป็นตำรวจ เราเป็นดาราที่สร้างแรงบันดาลใจให้ตำรวจ ทำให้ผมเปลี่ยนมายด์เซตตัวเอง ถามว่าชอบละครแนวไหนที่อยากเล่น อะไรก็ได้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้สังคม ที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม”สิ่งที่อยากทำจริงๆในปัจจุบันคืออะไร“ตอนผมหายป่วยเพื่อนก็ถามว่าจำได้ไหมว่าความฝันตัวเองคืออะไร ผมมานั่งคิดว่าความฝันตัวเองเหมือนเดิม แต่หนทางที่จะไปให้ถึงความฝันผมเปลี่ยนประมาณนึง ความฝันหลายเรื่อง เช่น อย่างผมชอบทำเพื่อสังคม อย่างการเล่นละคร สารวัตรใหญ่ เป็นละครน้ำดีที่ทำให้คนได้แง่คิด หนทางความฝันของผมอาจจะมีเปลี่ยน มีเพิ่มมาบ้างประมาณนึง” เห็นว่าจับไมค์ร้องเพลงละ“อันนี้ยังเป็นความลับ (หัวเราะ) ที่บอกงานวงการบันเทิงที่ผมสนใจมานั่งคิด ผมชอบสวดมนต์โดยมีคำแปล ตอนผมเป็นพระก็มีปัญหากับพระหลายรูปมาก ท่านครับมีคำแปลบทนี้ไหม เพราะนั่นคือคำสอนของพระพุทธองค์ ผมอยากศึกษาว่าพระองค์สอนอะไร เลยคิดว่าบทเพลงก็มีประโยชน์นี่หน่า เวลาผมร้องก็จะเลือกเพลงที่มีความหมายดีๆ”อนาคตอาจมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง“อาจมีในเร็วๆนี้ กำลังจะไปคุยกับรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พอดีได้สนทนาธรรมกัน พี่เขาเลยส่งมาเซอร์ไพรส์ลองมาดูอันนี้หน่อย”จะเป็นเพลงแนวไหน“น่าจะเดาไม่ยาก (หัวเราะ) อันนี้คือขั้นต้น พูดไปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหรือเปล่า” อัปเดตอาการป่วย“ก่อนหน้านี้ผมอีกรอบนึงมันหนักกว่ารอบแรก หมดสติที่ รพ. ก่อนหัวใจหยุดเต้น โชคดีคุณหมออยู่เลยใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ เป็นเหตุการณ์ก่อนบินไปบวชที่อินเดีย หลังจากบวชไม่มีเหตุการณ์อะไร ผมก็ยังไม่เข้าใจ ก็งง เป็นความรู้สึกสบายตัวที่ไม่เคย เป็นแบบนี้มาก่อน ที่ทุกคนทักผม ถามว่าเป็นพระเขาอนุญาตให้แต่งหน้าหรือเปล่า ทำไมหน้าดูสว่าง ดูผ่องจนสึกออกมาผมมานั่งดูคลิปตอนบวชเป็นพระ หน้าต่างจากตอนนี้มาก หน้าดูใส ดูผ่อง ดูมีออร่า ทำไมตอนนี้ผิวเข้มๆ เป็นสิ่งที่แปลกจากตอนเป็นพระ ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรต้องระวัง” ออกกำลังกายหนักๆได้มั้ย“คุณหมอไม่ได้ห้าม ผมเองไม่กล้า พยายามสังเกตตัวเองแน่ๆ ผมเลิกตีแบดแน่นอน มุมส่วนตัวอาจจะไม่ถูกจริตกับคนที่เป็นโรคอย่างผม คุณหมอสงสัยกรรมพันธุ์เพราะคุณแม่หัวใจเต้นช้าแต่ผมหัวใจเต้นเร็ว เดาเอาเองเพราะสนามแบดไม่มีแอร์ ห้ามมีลมไม่งั้นมีผลต่อลูกแบดเป็นเพราะอย่างนี้หรือเปล่า”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่