กทม.ระดมทีมกู้ภัยและสุนัข K-9 ค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะผู้สูญหาย ที่ กองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางอีก 2 รอบ เพื่อให้แน่ใจไม่มีชิ้นส่วนหลงเหลืออยู่ พร้อมนิมนต์พระ 109 รูป ทำบุญก่อนปิดศูนย์บัญชาการเหตุฯอย่างเป็นทางการ ด้าน คกก.สืบสวนข้อเท็จจริงนัดประชุมตามผลการเก็บรวบรวมหลักฐาน เผยการสร้างแบบจำลองเหตุการณ์ของ 5 สถาบันตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี คืบหน้าแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ คาดใช้เวลาไม่นานรู้ผลตึกถล่มเกิดจากอะไรจากภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างและพังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่จำนวนมาก ล่าสุด กทม.เตรียมส่งพื้นที่คืนให้ สตง. หลังเคลียร์ซากเหล็กและคอนกรีตเปิดพื้นที่ได้ทั้งหมดครบทุกโซนไม่พบร่างผู้สูญหายเพิ่มเติม กทม.ยืนยันการปฏิบัติการเสร็จสิ้นในวันที่ 10 พ.ค. สรุปยอดผู้ประสบภัยทั้งหมด 109 คน เสียชีวิต 89 คน บาดเจ็บ 9 คน พบตัวแล้ว 4 คนแต่ยังไม่มาถอนแจ้งความคนหาย ไม่พบตัวอีก 7 คน สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร.อยู่ระหว่างเร่งตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนอวัยวะที่พบอีก 296 ชิ้น กทม.เตรียมจัดทำบุญใหญ่ตักบาตรพระ 109 รูป เสริมสิริมงคลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR ทุกนาย และสวดบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย 96 ราย ในวันที่ 13 พ.ค. ปิดฉากภารกิจการค้นหาและกู้ภัยอย่างเป็นทางการ ขณะที่การสอบสวนของทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่มีอะไรคืบหน้าแม้เวลาผ่านไป 1 เดือนเศษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่กองอำนวยการร่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงว่า การค้นหาผู้ติดค้างในซากอาคารดังกล่าวในวันนี้ยุติทั้งหมดแล้ว และในเย็นวันนี้ ทีมค้นหาและสุนัข K-9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อีก 2 รอบ เพราะหลังการสำรวจกองซากปูนดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พบชิ้นส่วนอวัยวะ 5 ชิ้น ทำให้ต้องตรวจสอบอีกเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลือ ส่วนเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เพื่อขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมดขนย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และในเวลา 05.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ทีมค้นหาและสุนัข K-9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อีกครั้งหรืออาจจะปรับเปลี่ยนเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่สูงถึง 9 เมตร อาจมีความอันตราย ที่ประชุมมีความเห็นให้ลดถอนความสูงลดเหลือ 6 เมตร ให้ง่ายต่อการค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ที่ยังคงติดค้างอยู่“ด้านตัวเลขผู้ประสบเหตุมีทั้งหมด 109 ราย เป็นผู้บาดเจ็บทั้งหมด 9 ราย และ 4 ราย เป็นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตที่ตรวจอัตลักษณ์ได้แล้วมีทั้งหมด 89 ราย ดังนั้นยังเหลือผู้สูญหายเพียง 7 ราย แต่ขณะนี้มีชิ้นส่วนมนุษย์ที่ได้จากการค้นหาใต้ซากตึก สตง. อยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ 296 ชิ้น ดังนั้น ผู้สูญหายทั้ง 7 รายนี้คาดว่าจะอยู่ในส่วน 296 ชิ้นนี้” รศ.ทวิดากล่าวรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า ในวันที่ 13 พ.ค. เวลา 07.00 น. จะมีการทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์สายกรรมฐาน 109 รูป และพิธีสวดบำเพ็ญส่วนกุศลให้กับผู้สูญหาย เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณอาคาร สตง. มีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานพระสงฆ์ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทำบุญแล้ว ในเวลา 11.00 น. จะประชุมหน่วยงานต่างๆในพื้นที่เรื่องการถอนกำลังและการส่งมอบคืนพื้นที่ โดยจะมีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษรในแต่ละจุด ยืนยันว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจจะเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ จะคงเหลือไว้คือ รั้วที่สำนักการโยธาของกรุงเทพมหานคร ที่ล้อมไว้ กับกล้องวงจรปิด CCTV ตามเป้าหมายจะปิดภารกิจในวันที่ 15 พ.ค. ส่วนกรณีญาติผู้สูญหายที่ยังพักอยู่ในศูนย์พักคอยฯ ต้องปิดลงเช่นกัน ได้ประสานญาติผู้สูญหายที่เหลือว่าขณะนี้ผลการพิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์ตัวตนต่างๆ ทางนิติเวชฯจะเป็นผู้รายงานและติดต่อทางญาติโดยตรงส่วนความคืบหน้าการหาสาเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ล่าสุด มีรายงานว่า นายพิศุทธิ์ สุขุม วิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอาคาร สตง. ถล่ม ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ มีนายกสภาวิศวกร ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้แทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้แทนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้แทนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ร่วมเป็นคณะกรรมการ ในวันที่ 15 พ.ค. เพื่อติดตามความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐานในการหาข้อเท็จจริงในกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างถล่มแหล่งข่าวในคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้น คณะอาจารย์ด้านวิศวกรรมจาก 5 มหาวิทยาลัย คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, ม.เกษตรศาสตร์, ม.เทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ได้จำลองแบบสร้างโมเดลอาคาร สตง.ตามแบบการออกแบบได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถคำนวณเปรียบเทียบหาจุดพังทลายของอาคารได้ว่าเริ่มต้นที่จุดไหน สำหรับผลตรวจหลักฐานด้านวิศวกรรมโครงสร้างเบื้องต้น พบว่า ชิ้นส่วนวัสดุโครงสร้างอาคารมีปัญหาจริง โดยเฉพาะในประเด็นค่ากำลังรับแรงอัดประลัยที่ไม่ถึงเกณฑ์การออกแบบและคุณภาพเนื้อปูนที่ไม่จับเส้นเหล็ก ทั้งนี้ คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายต้องพิจารณาข้อมูลจากผลการทดสอบ ประกอบกับผลการจำลองสถานการณ์อาคารถล่มอย่างละเอียด ว่า สาเหตุหลักการพังถล่มของอาคารเกิดจากการออกแบบที่ผิดพลาดหรือมาจากคุณภาพการก่อสร้าง หรือทั้งจากสองสาเหตุต่อมาเวลา 17.00 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำสื่อมวลชน เข้าสังเกตการณ์การปฏิบัติการการค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะของผู้สูญหาย ของทีมกู้ภัย USAR หลายหน่วยงาน และสุนัข K-9 6 ตัวที่พื้นที่ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จุดทิ้งซากอาคารและพัสดุของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ที่สูงประมาณ 6 เมตร ใช้เวลาเพียง 40 นาทีต้องยุติลงเนื่องจากมีฝนตกและฟ้าคะนอง เสี่ยงเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่พบชิ้นส่วนอวัยวะผู้สูญหายเพิ่มเติมนายภุชชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบผู้รอดชีวิตในอาคารที่ถล่มลงมาลักษณะแพนเค้กซีเมนต์ การนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากอาคาร จึงเป็นความท้าทายที่ยากมาก ความสูงในวันเกิดเหตุ 137 เมตร ลดลงเหลือ 26.8 เมตร ลดลงไป 100 กว่าเมตร เป็นงานที่ยากมากในการค้นหาเราพยายามเต็มที่แล้ว เราก็พบร่างเยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ คือ 89 ร่าง ยังคงสูญหายอีก 7 รายเป็นเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ที่จะต้องตรวจสอบชิ้นเนื้อและนำกระดูกไปตรวจหาดีเอ็นเอ เพราะลายนิ้วมือไม่สามารถดำเนินการได้ ถ้าหากเจอฟันก็จะสามารถตรวจหาดีเอ็นเอได้แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากเน้นหนักไปที่ทางดีเอ็นเอมากกว่า“เศษซากต่างๆที่อยู่ในไซต์งานนั้นเหลือไม่มากแล้ว เมื่อนำเศษวัสดุต่างๆมาไว้ จะตรวจสอบโดยสุนัข K-9 จะเข้ามาตรวจสอบทุกเช้า-เย็น เพื่อหาชิ้นส่วนมนุษย์ วันนี้จะให้สื่อมวลชนมาดูพื้นที่และการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าฝนตกก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เนื่องจากเราอยู่ในที่โล่ง มีโอกาสที่ฟ้าผ่าสูง เพราะไม่ได้เก็บเอาวัสดุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าออก” นายภุชชพงศ์กล่าวด้าน รศ.ทวิดากล่าวย้ำว่า วันนี้เป็นการปฏิบัติการที่ทำตามปกติที่จะให้ทีมค้นหาและสุนัข K-9 เข้าค้นหาในช่วงเช้าและเย็น วันพรุ่งนี้จะเป็นการค้นหาครั้งสุดท้ายในเวลา 05.00 น. เพื่อค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์ติดค้างอยู่ภายในกองซาก เบื้องต้นได้ล้อมรั้วไว้เหมือนเดิม เพราะข้างในเป็นพื้นที่ต้องห้าม มีวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่สามารถให้ใครนำออกไปได้ และจะนำกล้องต่างๆมาติดไว้รอบๆ เหมือนเดิม ที่ผ่านมาพบชิ้นส่วนมนุษย์เพียงหลัก 10 ชิ้นเท่านั้น และในวันที่ 15 พ.ค.นี้ สำนักงานเขตจตุจักรจะคืนพื้นที่ให้กับ สตง. และคาดว่าทางตำรวจจะเข้ามาอายัดพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อในเรื่องของคดีความทันทีเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง ในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมกันกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาแนวทางต่อไปรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ส่วนค่าใช้จ่ายในการกู้ภัยทั้งหมดนั้นยังไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขทั้งหมดได้แต่ค่าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนอยู่ที่ประมาณ 176 ล้านบาท แต่ยังมีค่าน้ำมันต่างๆ ค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักร นอกจากนี้บริษัทอิตาเลียนไทยยังรับผิดชอบในส่วนของค่าน้ำมันและค่าคนงานที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ส่วน กทม.เองยังไม่ได้มีการจ่ายเงินจ้างใครมาในเหตุการณ์นี้ เพราะส่วนใหญ่จะมีคนอาสาสมัครมาช่วย อยากฝากขอบคุณผ่านสื่อมวลชนไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่