การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและ สมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ ฉลุย ไร้เหตุรุนแรง หลายพื้นที่ผลอย่างไม่เป็นทางการ คนหน้าเดิมคว้าชัยได้นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีต่อ ส่วน “ลูกพีช” นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ทายาท “นายกเบี้ยว” กวาดคะแนน สท.ยกทีม รวมถึง “น้ำอ้อย” มารดา ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เช่นเดียวกับที่เทศบาลนคร นครราชสีมา “ทีมชาติพัฒนา” ชนะยกทีม ส่งให้ นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ได้เป็นนายกฯ ส่วนเมืองสุพรรณฯ พลิกล็อก “วิชัย เศรษฐพานิช” คว้าชัยนั่งเก้าอี้นายก เทศมนตรีตำบลบ้านโพธิ์ ล้มแชมป์เก่าเหนือความคาดหมาย ขณะที่ กกต.คาดรับรองผลเป็นทางการได้ ใน 30 วัน เว้นมีการร้องเรียนจะสอบสวนให้เสร็จภายใน 60 วัน นนทบุรีจับซื้อเสียง ส่วนสงขลา ลูกน้อง สจ.ดัง ยำบาทา ตร.คาคูหาเลือกตั้งตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ ในวันที่ 11 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยหลายพื้นที่มีการแข่งขันกันสูงระหว่างผู้ดำรงตำแหน่งมานานนับสิบปี ที่ลงมารักษา เก้าอี้กับผู้ท้าชิงหน้าใหม่คนแห่หย่อนบัตรเลือกตั้งทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาติดตามการเปิดหน่วยเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายศักดิ์ชัย เลิศกิตติวัฒนกุล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายจีรวัฒน์ พราหมณี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครหัวหิน นำคณะให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชน ทยอยเดินทางมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไปร้องเรียนแล้ว 532 เรื่องด้านนายอิทธิพรกล่าวว่า ภาพรวมของการเลือกตั้ง ตอนนี้ได้รับการร้องเรียนจำนวน 532 เรื่อง ซึ่งในครั้งก่อน มี 1,743 เรื่อง ตนพยายามทำทุกวิถีทาง ทั้งป้องกันและป้องปราม พร้อมกับปลูกฝังค่านิยม ว่าซื้อเสียง ขายเสียงไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมมือกับ กกต. ตั้งด่านตรวจค้น พบว่าสถานการณ์ปกติดี แม้จะมีข่าวว่าซื้อเสียงบ้าง ก็อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันต่อไป ภาพรวมของสถิติการออกมาใช้สิทธิของประชาชน ตั้งเป้าตัวเลขไว้ที่ร้อยละ 70 ส่วนผลการเลือกตั้งเบื้องต้น สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.so.th Facebook แฟนเพจ “สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง” Application Smart Vote ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไปจับซื้อเสียงคืนหมาหอนอย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกคืน ก่อนวันเลือกตั้งมีการจับกุมผู้ซื้อเสียงได้ในหลายพื้นที่ โดยที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี เวลา 21.30 น. วันที่ 10 พ.ค. พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมตำรวจสืบสวนภูธร จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.จ.นนทบุรี ร่วมกัน จับกุมนายชาคริต ลามอ อายุ 25 ปี ได้ที่ซอยประเสริฐ อิสลาม ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง บุหรี่ไฟฟ้า 2 ชิ้น น้ำยาเติม 2 ขวด เงินสดจำนวน 1,200 บาท รายชื่อ บุคคล 92 ชื่อ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จากการสอบสวนนายชาคริตรับสารภาพว่า เป็นหัวคะแนนให้กับหนึ่งในผู้สมัครนายกเทศบาลนครนนทบุรีทำหน้าที่หารายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทางผู้ว่าจ้างให้เงินมาแจกหัวละ 350 บาท แต่จะหักค่าหัวคิว 50 บาท จากนั้นได้นำตัวนายชาคริตส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีข้อหาครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง เรื่องการซื้อเสียง สำนักงาน กกต.จ.นนทบุรี ลงประจำวันไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนจะสืบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโร่แจ้ง ตร.มีคนมาแจกเงินจากนั้นเวลา 12.30 น. วันที่ 11 พ.ค. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ มิ่งเมือง สว. (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากนางพูนสุข วงษ์สนธิ์ อายุ 69 ปี นางปิยยาภรณ์ สุธธรรมมา อายุ 63 ปี นางจะริน เทียมเอนก อายุ 55 ปี ว่า เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 พ.ค. มีบุคคลชื่อนกน้อย นครสวรรค์ ไม่ทราบชื่อจริง และสกุลจริง เข้ามาที่ซอยนครอินทร์ 8 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี และนำเงินมาให้พวกตนคนละ 200 บาท เพื่อให้เลือกผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรี พรรคดัง พร้อมกับ นำเงินของกลางมามอบให้ตำรวจไว้เป็นหลักฐานและ ต่อมา พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เดินมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานแจ้งให้ กกต.จ.นนทบุรี ดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งต่อไปรวบผู้สมัคร สท.พกปืนเข้าพื้นที่ส่วนที่ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ. สว่างอารมณ์ ร่วมจับกุมชาย 4 คน พร้อมอาวุธปืน 3 กระบอก ขณะนั่งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กต 2408 อุทัยธานี เข้ามาในพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านหนองชุมเห็ด ต.พลวงสองนาง โดย 1 ในนั้นคือ นายกิมตี๋ พลูสาริกิจ อายุ 54 ปี ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลพลวงสองนาง พกปืน .38 ไว้ที่ตัว แม้จะอ้างว่าเป็นปืนมีทะเบียน แต่ยังไม่สามารถนำเอกสารมายืนยันได้ และจากการตรวจปัสสาวะ พบว่าชายสองคนในรถมีสารเสพติดในร่างกาย ด้าน พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ เกตุจิตร ผกก.สภ.สว่างอารมณ์ เปิดเผยว่าแจ้งข้อหาทั้ง 4 คน พกพาปืนไปในที่สาธารณะ ไม่มีเหตุอันควร ส่วนชายสองคนที่ตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกิมตี๋เคยถูกดำเนินคดีเรื่องอาวุธปืนมาแล้วและเป็นลูกน้องของ สจ.คนดังในพื้นที่ ส่วนที่เข้ามาในพื้นที่ตำบลพลวงสองนาง คาดว่าจะมาป่วนหัวคะแนนของผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพลวงสองนาง ที่อยู่คนละกลุ่มเหล่าคนดังตบเท้าเข้าคูหาขณะที่บรรยากาศการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ทั่วประเทศ ถือว่าคึกคัก ประชาชนทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน แม้แต่ผู้นั่งรถเข็น ผู้สูงอายุที่ใช้ไม้ค้ำยัน ต่างให้ความสนใจออกมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่องตลอดวัน รวมถึงเหล่าคนดังในแต่ละพื้นที่มาหย่อนบัตรในหน่วยเลือกตั้ง อาทิ ที่เขตเลือกตั้งที่ 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 20 วัดชัยมงคล ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ มาลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ ส่วนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 4 ตำบลอุทัยใหม่ อาคารนิพัทชา โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดมณีสถิต อ.เมืองอุทัยธานี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.พรรคภูมิใจไทย มาพร้อมกับนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาลงคะแนนพร้อมกับครอบครัวไทยเศรษฐ์ ในเวลา 11.00 น. ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มโคราชชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้าคูหาที่หน่วยเลือกตั้งที่ 25 เขตเลือกตั้งที่ 4 ศาลาอเนกประสงค์ วัดหลักร้อย อ.เมืองนครราชสีมา และนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมครอบครัวลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งที่ 28 เขตเลือกตั้งที่ 1 ชั้นล่างอาคารภัตตาคารเสียวเสี้ยว ถนนบัวรอง ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมาคนนนท์แห่ใช้สิทธิคึกคักที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่มีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.เมืองนนทบุรี และ อ.ปากเกร็ด นายสมนึก ธนเดชากุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี อดีตนายกเทศมนตรี 9 สมัย ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยที่ 24 เขตเลือกตั้งที่ 1 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ส่วนนายวิชัย บรรดาศักดิ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด ในฐานะแชมป์เก่า 5 สมัยติดต่อกัน เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนน สีหน้ายิ้มแย้ม ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 20 บริเวณศาลาอเนกประสงค์ ภายในวัดช่องลม ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด ขณะที่ นายภาสกร ฐิติธนาวนิช ผู้สมัครในนามพรรคประชาชน ผู้ท้าชิงเก้าอี้นายก มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 1 ภายในโรงเรียนวัดบ่อ ตลาดปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด ตั้งแต่ช่วงเปิดหีบเลือกตั้ง จากนั้นก็มีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงกันอย่างคึกคัก“นายกเบี้ยว–ลูกพีช” หย่อนบัตรขณะที่ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 30 โรงเรียนวัดนาบุญ ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว พร้อมด้วยนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือลูกพีช และนางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ หรือน้ำอ้อย เดินทางมาลงคะแนนเสียง ซึ่งหลังจากลงคะแนนแล้วได้ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยนายกเบี้ยว กล่าวว่า เมื่อคืนรู้สึกเงียบดี ช่วงเวลา 21.00 น. ก็เข้านอนแล้ว ขณะที่ทาง กกต.ก็บอกว่าไม่มีการตรวจพบการทุจริตการเลือกตั้งแต่อย่างใดคนตื่นตัวมาเลือกตั้งแต่เช้าอีกสนามเลือกตั้งที่ต้องลุ้น คือ จ.สมุทรปราการ ที่นับตั้งแต่เปิดหีบเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งต่างๆในพื้นที่ มีคนสมุทรปราการพร้อมใจออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีอย่างเต็มที่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก จนบางหน่วยคนยืนต่อคิวเป็นแถวยาว ทั้งใน ต.บางเมือง และเทศบาลนครสมุทรปราการ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เทศบาลเมืองลัดหลวง อ.พระประแดง เช่นเดียวกับที่ จ.ชลบุรี นางสาวมนัสนันท์ วิทนา ผู้อำนวยการ กกต.จ.ชลบุรี พร้อมคณะ มาตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 7-12 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี และเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่วัดเมืองใหม่ จังหวัดชลบุรี บรรยากาศโดยทั่วไปคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้า แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับท้องถิ่น ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จังหวัดชลบุรีมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีทั้งสิ้น 88 คน และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลรวม 1,364 คน มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 837,867 คนลูกน้อง สจ.ดังรุมยำ ตร.คุมคูหาอีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 15.30 น. เกิดเหตุวุ่นวายที่ใต้อาคาร 2 โรงเรียนนวมินทร์สงขลา สถานที่ตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา เมื่อนายสิริดนัย พลายด้วง สมาชิก อบจ.สงขลา บุตรชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 สงขลา เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยให้ลูกน้องเข้ามาในเขตเลือกตั้งใกล้คูหาเพื่อถ่ายรูปขณะหย่อนบัตร ดต.นิสาธิต คงเทพ เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยประจำคูหาเลือกตั้ง จึงเข้าไปเตือนว่าห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง สร้างความไม่พอใจให้นายศิริดนัย พร้อมขึ้นเสียงว่า “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร” หลังจากนั้นได้ต่อว่าด่าทอเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นรถ แต่ขณะขับออกไป ได้ลดกระจกชี้เป้าให้ลูกน้องที่มาด้วยประมาณ 5-6 คนว่าคนนี้แหละที่มีปัญหากับตนเอง สักพักลูกน้องที่มาด้วยพากันกรูไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิตต่อหน้าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งและผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยลูกน้อง สจ.ยังตะโกนบอกว่าลูกพี่กูใหญ่ไม่มีใครกล้าทำอะไร ขณะที่ ดต.นิสาธิตได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.สงขลาและเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสงขลาแล้วจับหนุ่มถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งส่วนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 15 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พ.ต.ท.อาทร จิตรถิ่น พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม ควบคุมตัวนายฉัตรชัย กลิ่นไกล อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 15 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังมีผู้แจ้งว่านายฉัตรชัยถ่ายรูปการกาบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพธิ์งาม ซึ่งนายฉัตรชัยสารภาพว่าแค่ถ่ายเล่นไม่ทราบว่าห้ามถ่ายรูป นอกจากนี้ ยังตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ.2562 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 87 ในระหว่างออกเสียงลงคะแนน นำเครื่องมือหรืออุปกรณ์ถ่ายบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้วโดยผิด ก.ม. และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษเลือกตั้งราบรื่นคาดรู้ผล 4 ทุ่มต่อมาในเวลา 18.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงข่าวหลังปิดหีบเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ว่าจากที่ได้รับรายงานการลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ทุกหน่วยเลือกตั้งทั้ง 76 จังหวัด ได้ลงคะแนนทุกแห่งไม่มีการงดลงคะแนน แม้ระหว่างนั้นมีรายงานเหตุพายุฝนฟ้าคะนองหลายแห่ง แต่ยังสามารถจะดำเนินการลงคะแนนได้ตามปกติ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบางจังหวัด หลังปิดการลงคะแนน อยู่ระหว่างการนับคะแนน หลังจากนั้นจะต้องประกาศผลการนับคะแนนที่หน่วยการเลือกตั้ง แล้วนำผลคะแนนไปรายงานต่อเทศบาลที่ตัวเองได้รับหน้าที่มา ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งบางแห่งมีประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่เยอะ และส่งรายงานผลไปที่เทศบาลแล้ว และจะเริ่มรายงานผลตามลิงก์ของเทศบาลใหญ่ๆ คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการหลังเวลา 22.00 น.ร้องเรียน 358 เรื่อง ฉีกบัตร 6 รายพ.ต.ท.ระพีพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีเรื่องการกระทำความผิดที่หน่วยเลือกตั้ง เช่น การทำให้บัตรเสียหาย มีผู้ฉีกบัตรเลือกตั้งจำนวน 6 ราย ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วยศรีสะเกษ 2 ราย บุรีรัมย์ 1 ราย สระแก้ว 1 ราย อ่างทอง 1 ราย และประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานเรื่องร้องเรียนจนถึงขณะนี้มีทั้งหมด 358 เรื่อง อยู่ในการดำเนินการของชุดสืบสวนไต่สวน ส่วนใหญ่เป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 65 ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเทศบาล 2,463 แห่ง มีจำนวนผู้สมัครนายกเทศบาลเท่ากับจำนวนที่พึงมีในแต่ละเขตเลือกตั้งทั้งหมด 429 แห่ง แบ่งเป็นที่มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีเพียงคนเดียว ประกอบด้วยเทศบาลนคร 4 แห่ง และผู้สมัครสมาชิกเทศบาลเท่ากับจำนวนพึงมี (เขตละ 6 คน) จำนวน 166 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลนคร 2 แห่ง ใน 4 เขตเลือกตั้ง เทศบาลเมือง 21 แห่ง ซึ่งมีอยู่ 44 เขต และเทศบาลตำบล 143 แห่ง 241 เขตเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าผู้ที่จะได้รับเลือกตั้ง ต้องเป็นผู้ที่ได้คะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น และต้องมากกว่าจำนวนคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครรายใดคาดรับรองผลใน 30 วันพ.ต.ท.ระพีพงษ์กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งเสร็จ สำนักงาน กกต.จะรวบรวมผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะเสร็จไม่เกินวันที่ 14 พ.ค.นี้ จากนั้น จะเสนอเข้าที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณามาตรา 17 วรรคแรก ของ พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ ถ้าไม่มีเรื่องร้องเรียนจะมีการประกาศผลภายใน 30 วัน ส่วนถ้ามีเรื่องร้องเรียนจะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จภายใน 60 วัน รวมถึงกรณีบางเขตได้ผู้สมัครไม่ครบ หรือมีบัตรเขย่งอาจเข้าเกณฑ์ที่ กกต.จะมีคำสั่งให้ลงคะแนนใหม่ ก็จะมีคำสั่งในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนถ้าการสอบสวนเรื่องร้องเรียนดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ กกต.จะประกาศรับรองผลไปก่อน แต่ไม่ตัดอำนาจ กกต.ที่จะดำเนินการสืบสวนไต่สวนตามกฎหมายในระยะเวลาที่เหลืออยู่ต่อไป ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิยังสามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน หลังการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิ โดยสามารถแจ้งได้ด้วยตนเอง ทางไปรษณีย์หรือแจ้งผ่าน smart votสั่งสอบจับหัวคะแนนที่นนทบุรีส่วนกรณีมีรายงานการจับกุมการซื้อเสียงแจกเงินที่จังหวัดนนทบุรีนั้น พ.ต.ท.ระพีพงษ์กล่าวว่า ทางจังหวัดนนทบุรีรายงานให้ทราบแล้วว่าได้จับกุมผู้แจกเงินพร้อมโพยรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ จ.นนทบุรี ได้ให้ฝ่ายสืบสวนของ จ.นนทบุรี เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานไปที่ กกต.จังหวัด และได้ รายงานต่อเลขาธิการ กกต.แล้ว ขณะนี้ถือว่าจังหวัดรับเป็นคดีความ เพื่อจะดำเนินการสืบสวนไต่สวนและรายงานให้สำนักงาน กกต. ทราบเพื่อพิจารณาต่อไปผลไม่เป็นทางการตัวเต็งผงาดจากนั้นในช่วงค่ำ หลายพื้นที่ที่มีการนับคะแนนครบแล้ว และได้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นการ โดยที่น่าจับตาอย่าง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ผลคะแนนเลือกตั้งนายกเทศบาลเมืองนางรอง อย่างไม่เป็นทางการ จาก 3 เขต 26 หน่วยเลือกตั้ง เบอร์ 1 นายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนากุล หรือนายอำเภอโจ จากทีมนางรองรักประชา ได้ 5,074 คะแนน หมายเลข 2 นายธนพัฒน์ จึงเรืองสิทธิ์ ได้ 3,739 คะแนน ขณะที่ จ.นครราชสีมา นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล จากพรรคชาติพัฒนา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งได้ 12,623 คะแนน ส่วนผู้สมัคร สท.หมายเลข 7-12 จากพรรคชาติ พัฒนา มีคะแนนนำพรรคประชาชนทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง สร้างความดีใจให้กับทีมงานและแฟนคลับที่เดินทางมาให้กำลังใจกับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่มีคะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอย ส่วน จ.นครศรี ธรรมราช มีเทศบาลที่ได้นายกเทศมนตรีเป็นคนหน้าเดิม ได้แก่ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้แก่ ดร.โจ นายกณพ เกตุชาติ เทศบาลเมืองปากพนัง ได้แก่ นายขวัญชัย รอดมณี เทศบาลตำบลขุนทะเล ได้แก่ นายโสภณ พรหมแก้ว ขณะที่เทศบาลตำบลท่าศาลา ได้นายกคนใหม่ คือนายอยุทธ์ เชาวลิต“ลูกพีช” คว้าชัยจ่อว่าที่ สท.ส่วนพื้นที่ที่น่าจับตาอีกแห่งได้แก่ ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นั้น มีรายงานถึงผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการว่า นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ ลูกพีช ผู้สมัคร สท.ธัญบุรี และนางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ หรือน้ำอ้อย มารดา ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งท้องถิ่นแบบยกทีม ขณะที่ผลการเลือกตั้งเทศบาลตำบล เชียงรากใหญ่ นายสมประสงค์ ธูปกระจ่าง ญาติของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง “บิ๊กแจ๊ส” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไม่อาจฝ่าด่านคู่แข่งอย่าง นายเสวก ประเสริฐสุข อดีตนายก อบต.เชียงรากใหญ่ หลายสมัยไปได้ ต่างจากที่ จ.สุพรรณบุรี นายวิชัย เศรษฐพานิช คว้าชัยนั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ล้มแชมป์เก่านายวิรัตน์ คำหอมกุล อย่างเหนือความคาดหมายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่