ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ผลพวงจากสงครามการค้าที่ผู้นำสหรัฐฯก่อขึ้น แล้วเราจะ วางแผนการเงินอย่างไรเพื่ออยู่กับความไม่แน่นอนนี้ต่อไปได้ วันหยุดที่ผ่านมาผมอ่านพบบทความใน เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นบทความของ คุณปวริศา ศุขะพันธุ์ เรื่อง “ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน คุณพร้อมหรือยัง” น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับสภาพเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน ผมขออนุญาตนำเล่าสู่กันฟังตรงนี้นะครับ เพื่อเป็นแนวทางการวางแผนการเงินให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่จะอยู่กับเราอีกนาน อย่างน้อยก็ 4 ปีที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคุณปวริศา เห็นว่าการยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ผ่านมาทำให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินสูงขึ้น การเข้าถึงบริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ควรนำไปสู่ “ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน (Financial Wellbeing)” แต่กลับพบว่า สุขภาพทางการเงินยังไม่ดีเท่าที่ควรOECD ให้คำจำกัดความของ ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน (Financial Wellbeing หรือ สุขภาพทางการเงิน (Financial Health) ว่า หมายถึงสภาวะที่บุคคลสามารถ 1.จัดการกับภาระทางการเงินในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น 2.รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ 3.ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และ 4.มีความพึงพอใจและมั่นใจในอนาคตการเงินของตนเอง แต่จากสถิติของ World Bank และ UN กลับพบว่า กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่เข้าถึงบริการทางการเงินอยู่ในระดับสูง (เกือบ 100%) เช่น สหรัฐฯ มีประชากรเพียง 1 ใน 3 ที่มีระดับสุขภาพทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ดี และ กว่า 40% ตกอยู่ในสภาวะที่รู้สึกไม่มั่นคงทางการเงินในระดับปานกลางถึงสูง ในขณะที่ ยุโรป ประชากรกว่า 1 ใน 3 ไม่มีผลิตภัณฑ์เงินฝาก ที่ ช่วยออมเงิน และ กว่า 50% กลัวว่าตัวเองจะไม่มีเงินพอในยามเกษียณ ทำให้หน่วยงานต่างๆ อาทิ G20 OECD UN BIS ตระหนักถึง การส่งเสริมให้ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงินเป็นเป้าหมายที่ต้องบรรลุขั้นต่อไปของการพัฒนาอย่างยั่งยืนความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน มีความหมายใน 4 มิติ ดังนี้1.จัดการเงินได้ หมายถึง สามารถบริหารจัดการเงินและค่าใช้จ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐาน (basic needs) ได้อย่างราบรื่น เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ค่ายารักษาโรค การชำระหนี้ ฯลฯ2.รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินจากเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับเราหรือสมาชิกในครอบครัว เช่น ตกงานขาดรายได้ เจ็บป่วยกะทันหัน ซ่อมบ้านซ่อมรถจากนํ้าท่วม ฯลฯ รวมถึงความสามารถในการฟื้นตัวทางการเงินให้กลับมาได้ ซึ่งมีหลายวิธี เช่น มีเงินออมสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน การทำประกันต่างๆ การมีสวัสดิการทางสังคม3.มีเงินพอที่จะบรรลุเป้าหมายในชีวิต โดยการวางแผนการเงินให้สามารถเติมเต็มความต้องการ (Want) หรือเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้สะดวกสบายและมีความสุขมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน เช่น ซื้อบ้าน แต่งงาน ปลดหนี้ เรียนต่อ ทำธุรกิจหรือลงทุนเพื่อให้เกิด passive income หรือ อิสรภาพทางการเงิน (Financial Independent)4.รู้สึกมั่นคงทางการเงิน มีอารมณ์และจิตใจในทางบวกว่า เราสามารถจัดการเรื่องการเงินได้ทั้งปัจจุบันและอนาคต โดยรู้สึกมั่นใจและพอใจในความเป็นอยู่ทางการเงินของตัวเองอ่านแล้วก็นึกถึงแนวคิดการจัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo 2025 ของ วารสารการเงินธนาคาร ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 15-18 พฤษภาคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ใช้แนวคิดการจัดงานว่า “Resilient Wealth การสร้างความมั่งคั่งทางการเงินแบบยืดหยุ่น” ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ทางการเงินที่มี การวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างรอบด้าน เพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ทั้ง เงินฝากเผื่อฉุกเฉิน ลงทุนเพิ่มความมั่งคั่ง ประกันลดความเสี่ยง ฯลฯ เพื่อ “ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน” ไปตลอดชีวิต.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม