วิศวกรใหญ่กรมโยธาฯ ประธาน คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตึก สตง.ถล่ม นำคณะทำงานเก็บหลัก ฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม หาข้อมูลเชิงลึกเน้นสำรวจความเสียหายโครงสร้างอาคารนำไปสร้างแบบจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มให้มีความแม่นยำเพื่อวิเคราะห์สาเหตุ ด้านอุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯร่วมสังเกตการณ์ชี้เป็นคดีใหญ่พิสูจน์ในชั้นศาลนานกินเวลาเกิน 10 ปี หากรวบรวมหลักฐานไม่ละเอียดพออาจเกิดข้อโต้แย้งทางวิศวกรรมจนไม่สามารถเอาผิดใครได้ ส่วนการค้นหาผู้สูญหายเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบเพศเพิ่มเติมอีก 1 ราย บริเวณพื้นที่โซน D อยู่ระหว่างค้นหาพื้นที่เป้าหมายอีก 3 จุด โซน A กับโซน D เชื่อมต่อกันเป็นโถงหน้าตึก และโซน B เนื่องจากสุนัขตำรวจและคนขับรถแบ็กโฮได้กลิ่นศพโชยออกมารุนแรงกรณีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค.จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ทำให้มีผู้สูญหายหลายรายอยู่ในซากตึก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยเร่งตรวจสอบเก็บหลักฐาน และจำลองเหตุการณ์หาสาเหตุที่ตึกถล่ม โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นหน่วยงานหลักรวบรวมข้อมูลหลักฐานดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทุกฐานความผิด รวมทั้งมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.บางซื่อ ให้เอาผิดผู้เซ็นสัญญาสร้างตึกเอาผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ม. 157 หลังเหตุตึก สตง.ถล่มผ่านไปเดือนกว่า สังคมจับตามองเนื่องจากคดีขณะนี้ไม่คืบเพียงจับกุมผู้ต้องหา บ.ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินคดีความผิดนอมินี 4 ราย ส่วนการค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ กทม. ยืนยันควานหาให้ทั่วทุกตารางนิ้วคาดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 พ.ค. จากนั้นส่งมอบคืนพื้นที่ให้สตง.โดย กทม.ยังเดินหน้าเร่งค้นหาผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่มเข้าสู่วันที่ 41 ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 พ.ค. บรรยากาศการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 12 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานระดมกำลังกันค้นหาในบริเวณชั้นใต้ดินของซากอาคาร สตง. ใช้ทั้งเครื่องจักรหนัก เดินเท้าสำรวจ และทีมกล้องโดรนจากมุมสูง เจ้าหน้าที่และทีมค้นหาเปิดพื้นที่ซากอาคารที่เหลือ ในส่วนพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร สตง.ที่ถล่มกับอาคารจอดรถ และอาคารหอประชุม โซน A B และ D จากการปฏิบัติต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 6พ.ค. จนถึงช่วงสายวันที่ 7 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 รายไม่ทราบเพศ ที่บริเวณโซน D และตรวจพบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ที่กองทิ้งซากวัสดุก่อสร้างอาคาร สตง.ที่หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจำนวนหนึ่ง ได้แก่ ชิ้นเนื้อ 1 ชิ้น กระดูก 3 ชิ้น และส่วนกะโหลก 1 ชิ้นที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร พนักงานสอบสวนบก.น.2 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บหลักฐาน เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทีมวิศวกรกรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมกับ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ต.อนุชา รัศมี ผอ.ส่วนคดีคุ้มครองผู้บริโภค 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมประชุมวางแผนเพื่อเก็บหลักฐานบริเวณจุดรากฐานชั้นใต้ดินของตึก สตง. ตรวจสอบเสาอาคารที่แตกกะเทาะที่อยู่ชั้นใต้ดิน เนื่องจากเป็นจุดโครงสร้างที่มีความเสียหายต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ทีมวิศวกรโครงการ กรมโยธาธิการฯจะเข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานเหล็ก ในโครงสร้างของเสาคอนกรีตฐานอาคารที่แตกหักและทรุดตัวเพื่อตรวจพิสูจน์ว่า เป็นไปตามมาตรฐานแบบแปลนที่ออกแบบไว้ถูกต้องหรือไม่ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตว่า ขณะนี้ภารกิจค้นหาคงเหลือพื้นที่ต้องตรวจสอบอีก 3 จุด อาจมีผู้สูญหายติดค้างอยู่ในซากอาคารจากข้อมูลที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทราบว่ามีผู้สูญหายที่ยังคงต้องติดตามหาอยู่อีกจำนวน 12 ราย ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่ต้องสงสัย 3 จุด ได้แก่ โซน A, B และ D โดยพื้นที่โซน D เป็นพื้นที่โถงส่วนหน้า วันที่เกิดเหตุตึกถล่มมีเศษซากอาคารถล่มล้นออกมายังบริเวณนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการขุดเปิดพื้นที่เพิ่ม หากขุดลึกจนถึงชั้นทรายด้านล่างโดยไม่พบสิ่งผิดปกติก็จะยุติการค้นหาในจุดนี้“ส่วนโซน A ที่เชื่อมต่อกับโซน D ด้านหน้า จะเปิดพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อค้นหาให้มั่นใจว่า ไม่มีร่างของผู้ประสบภัยตกค้าง และโซน B ถือเป็นจุดที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากช่วงเช้าทีมสุนัขกู้ภัย K9 ตรวจพบสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าอาจมีร่างของผู้ประสบภัยอยู่ภายในซากอาคาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและคนขับเครื่องจักรแจ้งว่า ได้กลิ่นคล้ายซากศพโชยออกมาจากบริเวณจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่เร่งรื้อถอนเศษวัสดุอย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับรากฐานของอาคารที่แตกร้าวที่อยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อเข้าไปให้ถึงจุดที่สุนัข K9 ต้องสงสัย สำหรับการรื้อถอนในโซนB มีการตัดเหล็กและแยกปูนให้แคบลง เพื่อความปลอดภัย และหากไม่มีอุปสรรคเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นที่ค้นหาร่างผู้สูญหายได้ครบทั้งสามจุดบริเวณรากฐานของอาคารชั้นใต้ดินมีบางส่วนแตกหักอยู่ ไม่ให้เครื่องจักรหนักเข้าไปทำงานโดยตรง แต่จะใช้แขนกลของเครื่องจักรยื่นเข้าไปเจาะสกัดปูนและใช้เครื่องตัดแบบระบบแก๊สเพื่อลดการรับน้ำหนัก” นายสุริยชัยกล่าวผอ.สปภ.กทม.กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ขยายพื้นที่การตรวจสอบไปถึงจุดทิ้งกองเศษวัสดุในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ใช้โดรนถ่ายภาพทางอากาศทำตารางแบ่งพิกัดอำนวยความสะดวกให้กับทีมค้นหา เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อาสาและสุนัข K9 ตรวจสอบในพื้นที่อย่างละเอียด ผลปฏิบัติในวันที่ 6 พ.ค. พบร่างผู้สูญหาย 1 ร่าง บริเวณโซน D และชิ้นส่วนศพอีก 5 ชิ้น ที่บริเวณจุดทิ้งกองเศษวัสดุ ช่วงบ่ายจะมีการประชุมร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้สูญหาย ตัวเลขล่าสุดปรับเพิ่มเป็น 109 ราย พร้อมกับวิเคราะห์เชิงลึกยืนยันที่อยู่สุดท้ายของบุคคลสูญหายจากการสืบสวนของพนักงานสอบสวน รวมถึงข้อมูลชิ้นส่วนศพที่ส่งไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเปรียบเทียบดีเอ็นเอของญาติเพื่อยืนยันตัวตน หากยืนยันได้แน่ชัดว่าไม่มีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่แล้ว ผอ.เขตจตุจักรในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์จะพิจารณาประกาศยกเลิกพื้นที่สาธารณภัย ก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึง สตง.ให้เตรียมความพร้อมแล้วต่อมาเวลา 10.30 น. นายพิศุทธิ์ สุขุม วิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอาคาร สตง.ถล่ม นำคณะทำงานตรวจสอบโครงสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างและวัสดุศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบซากวัสดุโครงสร้างอาคาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กองพันทหารช่าง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมสนับสนุนเก็บวัสดุหลักฐาน โดยมีนายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย (TSEA) ขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยหนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุในครั้งนี้เป็นการเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. วันนี้ทีมงานเน้นสำรวจความเสียหายในระดับที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อวิเคราะห์ประเภทของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างอาคาร นำข้อมูลไปใช้ในการสร้างแบบจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงให้มากยิ่งขึ้น แบบจำลองที่ใช้จะมีอยู่หลายระดับ การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์สาเหตุโดยรวมด้านนายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย (TSEA) กล่าวหลังร่วมลงตรวจพื้นที่ตรวจจุดเกิดว่า ต้องการติดตามว่าตรวจสอบเก็บหลักฐานในคดีนี้อย่างไรต่อไป เนื่องจาก กทม.ประกาศเตรียมส่งมอบพื้นที่เกิดเหตุคืนให้ สตง.ในอีก 4 วัน ผู้คนในสังคมจำนวนมากเป็นห่วงว่าจะยุติการเก็บหลักฐาน อาจเกิดการทำลายหลักฐานขึ้น และไม่ส่งผลดีต่อรูปคดีในการเอาผิดผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุตึกถล่ม เพราะคดีใหญ่แบบนี้ต้องใช้เวลาพิสูจน์ในชั้นศาลกินเวลานานแน่นอน อาจใช้เวลาเกินกว่า 10 ปี ถ้าหลักฐานไม่ละเอียดเป็นไปตามมาตรฐานชัดเจน อาจเกิดข้อโต้แย้งทางวิศวกรรมจนไม่สามารถเอาผิดใครได้ ตนลงพื้นที่วันนี้ได้รับการยืนยันจากทีมพนักงานสอบสวนว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึง สตง.แล้ว ขออายัดพื้นที่ที่เกิดเหตุหลัง กทม.ส่งคืนจนกว่าการตรวจสอบเก็บหลักฐานในการสอบสวนแล้วเสร็จ เชื่อว่าถ้ามีเวลามากขึ้นอาจเจอหลักฐานเป็นชิ้นคอนกรีตที่สมบูรณ์อีกที่มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นางมาแระ อายุ 22 ปี ชาวพม่า หนึ่งในผู้ที่รอคอยเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้ที่สูญหายเหตุตึกถล่ม กล่าวทั้งน้ำตาว่า จนถึงขณะนี้ไม่ได้ข่าวการพบร่างสามี นายยาน ลิน จอ ชาวพม่า เป็นช่างกระเบื้อง วันที่เกิดเหตุสามีไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปเพราะใช้กันอยู่แค่เครื่องเดียว ตนพกติดตัวไว้เนื่องจากท้องใกล้คลอดลูก สามีทำงานปูกระเบื้องตกแต่งที่ชั้น 29 หัวหน้าคนงานโทร.มาบอกว่า เกิดเหตุตึกถล่มสามีไม่ได้ออกมา ตกใจและเสียใจมากเพราะเขาเป็นคนหารายได้เลี้ยงครอบครัว ขอเพียงได้ชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนของสามีนำไปบำเพ็ญกุศลก็ดีใจแล้ว วันนี้พาลูกชาย น้องเมย์เดย์ที่เพิ่งคลอด ไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบกับชิ้นส่วนอวัยวะที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจที่รัฐสภา เวลา 13.30 น. วันเดียวกัน นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อสรุปสาเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่พังถล่ม พร้อมด้วยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. แต่นายมณเฑียรติดภารกิจให้นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการ สตง. เข้าชี้แจงแทน นายปลอดประสพกล่าวก่อนการประชุมว่า ตึก สตง.ถล่มงบประมาณของรัฐสูญไปหรือไม่ก็ไม่รู้ บริษัทประกันจะรับผิดชอบหรือไม่เพราะเป็นพิบัติภัย ใช้เงิน 2 พันกว่าล้านบาทสร้างแต่ถล่มลงภายใน 8 วินาที มีคนตายเป็นร้อยคน อยากขอร้องให้ช่วยสนับสนุนการทำงานของ กมธ. เพื่อให้แน่ใจว่านับแต่วันนี้ต้องไม่เกิดเหตุแบบนี้อีก ผู้ว่าการ สตง.ไม่มาความเห็นส่วนตัว ถือว่าเป็นลูกผู้ชายไม่พอ ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ในฐานะที่อายุมากกว่าจะเชิญท่านมาอีก กมธ.ฯ อยากฟังคำอธิบายจากปากผู้ว่าการ สตง.ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ทดลองระบบเซลล์บรอดแคสต์ (Cell Broadcast) หรือระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติครั้งแรกในประเทศไทย เป็นการทดสอบขนาดเล็กในระดับอาคาร ประกอบด้วย ศาลากลาง จ.เชียงราย อุบลราชธานี สุพรรณบุรี สงขลา และศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคาร A และ B ทั้งนี้ การทดสอบส่งเฉพาะระบบเซลล์บรอดแคสต์เท่านั้น ไปยังมือถือระบบ iOS 50 ล้านเลขหมาย Android 70 ล้านเลขหมาย (รวม 120 ล้านเลขหมาย) สำหรับมือถือที่มีสัญญาณต่ำกว่า 4G และอุปกรณ์ IPhone ต่ำกว่ารุ่น IPhone 11 จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน Shot Massage ภายใน 10 นาที ความพิเศษของระบบเซลล์บรอดแคสต์สามารถส่งข้อความและเสียงแจ้งเตือนภัยไปยังมือถือทุกเครื่องในพื้นที่เสี่ยงได้พร้อมกันทันที ไม่จำเป็นต้องระบุหมายเลขและไม่ต้องติดตั้งแอปฯเพิ่มเติม อาศัยการจับสัญญาณมือถือกับเสาสัญญาณ (Cell site) ทั้งระบบ iOS และ Android บนเครือข่ายมือถือ 4Gและ5Gสำหรับการทดสอบจำลองเหตุการณ์ฝนฟ้าคะนอง และน้ำท่วม ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ที่ได้รับจากรายงานจากศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติบางนา จากนั้น ผอ.ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ขออนุญาตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศแจ้งเตือนภัยไปยัง 5 พื้นที่ทดสอบ เมื่อได้รับอนุมัติแจ้งกลับไปยังศูนย์ภัยพิบัติบางนาดำเนินการแจ้งไปยังเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายสามารถระบุเวลาล่วงหน้าได้ เมื่อถึงเวลา 13.00 น. ทั้ง5พื้นที่ปลายทางต่างรายงานเข้ามาว่าได้รับแจ้งเตือนทดสอบครบถ้วน ศาลากลาง จ.เชียงราย รายงานว่าได้รับข้อความผ่านเครือข่าย AIS 30 วินาที ส่วนเครือข่าย True 1 นาที นับแต่เวลาที่กำหนด ศาลากลางอุบลราชธานี สุพรรณบุรี สงขลา และศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคาร A และ B ได้รับตามเวลาปกติด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า การทดสอบแจ้งเตือนภัยผ่านระบบเซลล์บรอดแคสต์ ประสบความสำเร็จอย่างครบถ้วน ทุกพื้นที่ทดสอบได้รับข้อความแจ้งเตือน ขอให้ติดตามการทดสอบระบบดังกล่าวอีก 2 ครั้ง ภายในเดือน พ.ค.68ต่อมา เวลา 18.00 น. ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดการค้นหาผู้สูญหายจากอาคารก่อสร้าง สตง.พังถล่ม วันที่ 7 พ.ค.68 ว่ามีจำนวนผู้ประสบเหตุ 109 คน แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 89 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 11 คน ผู้เสียชีวิต 89 ราย สถาบันนิติเวชวิทยาตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 80 ราย และเป็นชิ้นส่วนศพที่ตรวจพิสูจน์แล้วตรงกัน 9 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด สามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นใคร 70 ราย ส่งมอบร่างให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว 60 รายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่