เสียงถอนหายใจของชาวโลกดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน กับข่าวล่ามาไว “คาวบอยเฒ่า” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยืนยันกับปากเองว่า ไม่มีแผนจะต่อโปรโมชันยาวๆ เป็นผู้นำมะกันสมัยที่ 3ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญไม่เอื้อ ประกอบกับสังขารไม่อำนวยและนั่นก็เชื่อได้เลยว่าเทอม 4 ปีที่เหลือจากนี้ “คาวบอยเฒ่า” จะลุยจัดหนักกับ “ลูกบ้ารอบสุดท้าย” เดินหน้านโยบายสุดโต่งตามสไตล์ ฝากไว้ให้โลกจดจำ ผู้นำที่ทำให้ America Great Againเน้นแน่ๆมาตรการกำแพงภาษีแน่นๆ เกมสงครามการค้า โยงกับแนวรบพุ่งชิงอำนาจภูมิรัฐศาสตร์โลก ล็อกเป้าพวกออกจากโซนประชาธิปไตยไปแนบแน่นกับจีน รัสเซียเลยเขตแดนเผด็จการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ท้าทายพี่เบิ้มโลกเสรีนิยมไม่พ้นโดน “คาวบอยเฒ่า” ขย่มหนัก ยากจะได้คิวเคลียร์กับทำเนียบขาว ตามเงื่อนไขสถานการณ์นานาประเทศหนีภาวะสงครามความขัดแย้งในเกม “การจัดระเบียบโลกใหม่” ไม่ออก เบาสุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันภายในต้องเสริมแกร่งภูมิคุ้มกันตัวเอง รอรับแรงกระแทกล่วงหน้าแบบที่เบอร์หนึ่งอาเซียนออกตัวนำไปแล้ว ล่าสุด “ลอว์เรนซ์ หว่อง” นายกฯสิงคโปร์ นำพรรคพีเอพีชนะเลือกตั้งทั่วไปแบบถล่มทลาย กวาดที่นั่งในรัฐสภาไปได้ 87 ที่นั่ง จาก 97 เก้าอี้ประกาศพร้อมแล้วสำหรับการนำเมืองลอดช่องสู้โลกปั่นป่วนแน่นอน ตามศักยภาพของสิงคโปร์ที่พร้อมสรรพทั้งความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจ และเมื่อประกอบกับความมั่นคงทางการเมือง การเอาตัวรอดจากสงครามภาษีจึงไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงในสภาพย้อนแย้งกันเลย เปรียบเทียบกับประเทศไทยที่เวลานี้หล่นไปอยู่เบอร์ท้ายๆของภูมิภาคอาเซียน ด้วยสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจตกท้องช้าง จีดีพีต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ลากยังไงก็ไม่ขึ้นแถมยังถ่วงตุ้มหนักๆรั้งไว้ด้วยการเมืองที่ปั่นป่วนไร้เสถียรภาพภาพสะท้อนชัดๆดัชนีชี้วัดจากฉากไฟใต้ที่ลุกโชนขึ้นมา ปล่อยให้ “พวกหมาลอบกัด” ก่อเหตุสังหารผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นเด็ก คนชรา ผู้พิการตอกย้ำ “อำนาจรัฐล้มเหลว” จงใจประจานรัฐบาลไร้น้ำยา สถานการณ์ที่บ่งบอกถึงศักยภาพของผู้นำอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หย่อนสมรรถนะในการคุมเกมด้านความมั่นคง การคุมธงกองทัพรับมือกับขบวนการป่วนแบ่งแยกดินแดนมีปัญหาในภาวะนายกฯคนลูก กับนายกฯคนพ่อ ต้องหัวหมุน ทั้งรับมือเศรษฐกิจ สงครามภาษี ไหนจะหมกมุ่นกับความขัดแย้งการเมืองในขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม อารมณ์ต้องประคองเกมอำนาจ มาก่อนปากท้องชาวบ้านจังหวะมาถึงจุดเสียวๆ นักการเมืองเริ่มเหยียบตาปลาทหาร “ทะลุท็อปบูต”ไฟร้อนจากชนวน “ไอโอ” ของกองทัพ ที่ค่ายส้ม พรรคประชาชน ไล่บี้ไล่ต้อนขุนทหาร เค้นคอโทรโข่งกองทัพบก กอ.รมน.ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ สภา จนหลุดยอมรับโพยเป้าหมายบัญชี “นักการเมือง ตัวจี๊ด” ที่โดนจับตา “อันตราย” ต่อสถาบันทั้งฝ่ายค้าน ไม่เว้นขาใหญ่ปีกรัฐบาล ไฟช็อต ลามถึง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย ด่าลั่น กอ.รมน.บ้องตื้นฉุนข้อหา “โหนสถาบัน” แอบอ้างเบื้องสูงเพื่อผลทางการเมืองต้องเทกแอ็กชันแรงๆ ออกตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ โอดครวญเป็นนัย การแท็กทีมเซราะกราวใส่เสื้อเหลือง แสดงความจงรักภักดี กลับโดนเหมารวมเป็นพวกทำร้ายสถาบันนั่นหมายถึงทหารไม่เคยไว้วางใจนักการเมืองในเรื่องความมั่นคงอีกช็อตที่กำลังโหมฟืนเร้าชนวนไฟชายแดนเขมร โฟกัสที่ “สหายใหญ่-เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กำลังตกอยู่ในตำบลกระสุนตก จากประเด็นล่อแหลมในการออกคำสั่งให้ทหารกองทัพภาคที่ 2 ถอนกำลัง ถอยออกจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์โดนนักวิชาการแนวร่วมทหารเฒ่ารุมแฉ ค่ายเพื่อไทยยอมเสียดินแดนให้กัมพูชาแลกผลประโยชน์ตามอาการมวยเก๋า “เสี่ยอ้วน” รีบโวยดักทาง ดูเหมือนมีอะไรที่พยายามจะขย่มรัฐบาลผวาอาถรรพณ์ “เดจาวู” กระบวนการเขี่ยลูกเข้าทางปืนรถถัง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม