การเลือกตั้งทั่วไปของออสเตรเลียเมื่อ 3 พฤษภาคม 2025 พรรค แรงงานภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายแอนโทนี อัลบาเนซี ชนะอย่างถล่มทลาย นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียสามารถชนะการเลือกตั้งติดต่อกันสองสมัยจนถึงขณะที่ผมกำลังเขียนเปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่นี้ พรรคแรงงานของนายอัลบาเนซีได้รับเลือกตั้งในสภาผู้แทน ราษฎรอย่างน้อย 85 ที่นั่ง จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง ซึ่งเกินกว่าจำนวน ที่นั่งขั้นต่ำ 76 ที่นั่ง ที่จำเป็นสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากส่วนแนวร่วมพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านพ่ายแพ้อย่างหนัก ได้รับการเลือกตั้งรวมกันอย่างน้อย 39 ที่นั่ง ลดลงกว่าร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2022 โดยผู้นำฝ่ายค้าน นายปีเตอร์ ดัตตัน สูญเสียที่นั่งของตนเองในเขตดิกสัน ของรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 125 ปี ที่ผู้นำฝ่ายค้านสอบตกในเขตเลือกตั้งของตัวเองก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไป 3 พฤษภาคม 2025 ออสเตรเลียเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง ออสเตรเลียประสบกับอัตราเงินเฟ้อ ที่สูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แถมอัตราดอกเบี้ย ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ประชาชนจำนวนมากเจอปัญหาในการ เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมปัญหาสำคัญของออสเตรเลียมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการเลือกตั้งของออสเตรเลีย เพราะพรรคแรงงานภายใต้การนำของนายกฯอัลบาเนซีเน้นนโยบายที่มุ่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ การลงทุน ในพลังงานหมุนเวียน และการเสริมสร้างความสามัคคีในสังคมพรรคแรงงานเน้นนโยบายการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานหมุนเวียน โดยเสนอเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 82 ภายใน ค.ศ.2030 ส่วนพรรคฝ่ายค้านสนับสนุนการใช้ พลังงานนิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานทางเลือก ซึ่งนโยบายนี้ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิ่งแวดล้อมและประชาชนจำนวนมากนายปีเตอร์ ดัตตัน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน มีภาพลักษณ์ที่แข็งกร้าว ไม่เป็นมิตร และไม่เปิดกว้างในการฟังเสียงประชาชน ดัตตันเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยและกลาโหม แกใช้นโยบายที่เข้มงวดในเรื่องผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย และกฎหมายความมั่นคง สนับสนุนการกักตัวผู้อพยพในเกาะที่ห่างไกล และมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกลุ่มสิทธิชนพื้นเมือง จนถูกมองว่าไม่เห็นคุณค่าของสิทธิมนุษยชนก่อนการเลือกตั้ง พรรคของนายดัตตันเสนอนโยบายที่คล้ายนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ว่าจะจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐ จำกัดสิทธิในการทำงานแบบ Work from home รวมทั้งใช้นโยบาย ภาษีและเศรษฐกิจที่เน้นประโยชน์ของกลุ่มทุนใหญ่ แถมยังสนับสนุนพลังงานถ่านหินและนิวเคลียร์ ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามานี้ทำให้คนออสเตรเลียจำนวนมากมองว่านโยบายของนายดัตตันไม่เหมาะและไม่ตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้น คะแนนจึงเทไปที่พรรคแรงงานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีการที่นายดัตตันดันสอบตกในเขตเลือกตั้งของตัวเอง ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์แบบที่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน สะท้อนว่า คนทั้งประเทศ และแม้แต่พื้นที่ฐานเสียงของเขาเองก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ คนไม่สนับสนุนแนวทางของแกอีกต่อไปการกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้งของทรัมป์ สร้างความขัดแย้งปั่นป่วนไปทั่วทั้งโลก ไม่เว้นแม้แต่ออสเตรเลีย ประเทศที่เคยเป็นพันธมิตรที่สนิทชิดเชื้อกับสหรัฐฯ ชาวออสเตรเลียจำนวนมาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และเขตที่มีผู้มีการศึกษาสูงมองทรัมป์ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแตกแยก ความหัวรุนแรง และการเมืองแบบต่อต้านสถาบันต่างๆอย่างเต็มสูบ พรรคที่ถูกมองว่ามีนโยบายคล้ายทรัมป์จะถูกต่อต้านจากประชาชนคนออสเตรเลียส่วนใหญ่โดยอัตโนมัติการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เห็นว่าประชาชนออสเตรเลียแสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เปิดกว้าง สงบ เยือกเย็น และมั่นคง ไม่ใช้ความขัดแย้งเป็นเครื่องมือ และไม่คล้อยตามแนวคิด ขวาจัดแบบอเมริกันประชาชนคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ออสเตรเลียมีผู้นำแบบทรัมป์ นโยบายเงาแบบทรัมป์ที่ดัตตันนำเสนอต่อประชาชนกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนมากระแทกหน้าแหกจนหมอไม่รับเย็บ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม