ผมอยู่ในอารมณ์หาเรื่อง เจอเรื่องยอมหักไม่ยอมงอ หนังสือคารมคมปัญญา (สำนักพิมพ์สุขภาพใจ) เนื้อหาที่คุณประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เขียนไว้ นี่คือเรื่องที่หา ยังไงๆก็ต้องเอามาเล่าต่อเมื่อครั้งที่ต่งเซวียน เป็นนายอำเภอลั่วหยาง มีคดีคนรับใช้องค์หญิงหูหยาง พี่สาวฮ่องเต้หลิวซิ่ว ฆ่าคนตาย คดีฆ่าคนในเมืองหลวงมีเป็นธรรมดา แต่คดีนี้เกิดขึ้นกลางวันแสกๆมีคนรู้เห็นมากมายแต่ที่ไม่ธรรมดา คนฆ่าหนีเข้าอยู่ในวังองค์หญิง เกินวิสัยเจ้าหน้าที่จะตามเข้าไปจับอยู่มาวันหนึ่ง องค์หญิงเสด็จออกนอกวังรับสั่งให้คนใช้คนนั้น นั่งรถม้าติดตามมาด้วย ต่งเซวียนรู้เข้าก็นำทหารไปดักทางประตูเมืองทิศตะวันตก เมื่อรถม้ามาถึงต่งเซวียนก็ตะโกนสั่งให้หยุดรถ ชักดาบออกกวาดลงบนพื้นปากก็สาธยายความผิดองค์หญิงทีละข้อๆ บังคับให้คนรับใช้ลงจากรถแล้วเอาตัวไปประหารชีวิตองค์หญิงหูหยางรีบเสด็จกลับเข้าวังกราบทูลฮ่องเต้หลิวซิ่วเรื่องอย่างนี้ ฮ่องเต้ยังไม่เคยเจอ เจอเข้าแล้วก็ทรงกริ้ว รับสั่งให้นำตัวต่งเซวียนมาเข้าเฝ้า ไม่มีการสอบสวนทวนความ ทรงสั่งลงโทษสถานหนักให้โบยตีต่งเซวียนจนกว่าจะขาดใจตายก่อนการโบยเริ่มต้น นายอำเภอลั่วหยางคุกเข่าลงคำนับศีรษะจด กับพื้น “ผู้น้อยขออนุญาตกล่าวด้วยคำบางประการก่อนตาย” “เจ้าจะกล่าวสิ่งใด” คำตรัสนี้เท่ากับอนุญาตต่งเซวียนเอ่ยวาจาชัดถ้อยชัดคำ “ผู้มีอำนาจหากพยายามปกป้องลูกน้องที่กระทำผิด ใช้ความเป็นอภิสิทธ์ิชนกระทำตนเหนือกฎหมาย ก็เหมือนการเติมเชื้อให้แผ่นดินลุกเป็นไฟฝ่าบาทลองนึกดูกี่ครั้งกี่หนในประวัติศาสตร์ แต่ละชาติต้องล่มสลายเพราะสังคมไร้ความเป็นธรรมก่อนถึงยุคของพระองค์ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตกพังทลาย เพราะความเหลวแหลกในราชสำนักถูกนักบุญจอมปลอมอย่างหวางมั่ง ยึดอำนาจสถาปนาราชวงศ์ “ซิน” ที่มีความหมายว่า “ใหม่” เพื่อแสดงว่าเข้าสู่ยุคคิดใหม่ทำใหม่ แต่หวางมั่งลวงโลกได้ไม่นาน หางก็โผล่ออกมา ไม่มีการยอมรับนับถือจากประชาชนพ่ายแพ้แก่ผู้นำคนใหม่ พระนามหลิวซิ่ว คือพระองค์เองต่งเซวียนกราบทูลจี้ตรงใจฮ่องเต้หลิวซิ่ว พระองค์เพิ่งสถาปนาราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ทรงเปลี่ยนพระทัยจะลงโทษต่งเซวียน แต่ขอให้กราบขอขมาองค์หญิงหูหยางแต่ต่งเซวียนไม่ยอมขอ ฆ่าตัวตายเอง พุ่งศีรษะเข้าชนเสาท้องพระโรงโลหิตสดๆไหลเป็นสายอาบหน้า ฮ่องเต้สั่งคนเข้าประคอง แต่ก็ยังสั่งทหารกดศีรษะลงพื้น เพื่อให้ขอขมาองค์หญิงต่งเซวียนใช้สองมือค้ำยันตัวเอง ไม่ยอมค้อมศีรษะถึงยามนี้องค์หญิงหูหยางก็ทนไม่ไหวตัดพ้อพี่ชาย“เมื่อทรงเป็นสามัญชน เคยช่วยนักโทษซ่อนตัวในบ้าน เจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็ไม่กล้าตามเข้ามาจับ บัดนี้ทรงเป็นโอรสสวรรค์กลับไม่มีอำนาจจัดการนายอำเภอคนเดียว”อารมณ์นี้ฮ่องเต้หลิวซิ่วทรงตั้งสติได้แย้มสรวลเล็กน้อย “เป็นฮ่องเต้กับสามัญชนย่อมแตกต่างกัน”จากนั้น ก็ทรงประกาศด้วยพระสุรเสียงก้องท้องพระโรง“เจ้านายอำเภอหัวแข็ง เจ้ากลับไปได้แล้ว”ทั้งทรงสั่งพระราชทานเงินรางวัลให้ต่งเซวียนสามแสนตำลึง ต่งเซวียนได้เงินรางวัลมหาศาลแต่ไม่ยอมเก็บไว้ นำเงินแจกจ่ายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนถ้วนหน้าประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เรียบเรียงเรื่องนี้ จากประวัติศาสตร์จือจื้อทงเจี้ยน ยุคราชวงศ์ซ่งเหนือครับ ผมดู พ.ศ.แล้วนับนิ้วในใจ เฉียดพันปีเรื่องโบราณเมื่อพันปี ฆ่าคนคนเดียว ก็ต้องรับโทษฉับพลันขั้นประหาร...อย่าเผลอนึกไปถึงบ้านเมืองสมัยใหม่ ความผิดโกงกินกันถึงขั้นตึกสองพันล้านถล่ม ฆ่าคนตายในพริบตา 94 คน จนป่านนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้สักคนเดียว.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม