“สาลิกาลิ้นทอง-นะหน้าทอง-กุมารทอง เมตตามหานิยม” จัดให้หนัก ของดีหลวงพ่อวัดดัง ของขลังอาจารย์สำนักเด็ด พกติดตัวไปอย่าได้ขาดโอกาสลุ้นเดิมพัน “2 พระยาพิชัย” ออกศึก เผชิญสงครามการค้ารับบัตรคิว 23 เม.ย.นี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง กับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะนำทีมบินไปประจันหน้ากับทีมรัฐมนตรีของ “คาวบอย” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากับโจทย์ร้อนที่เจอแน่ คำถามที่รู้ล่วงหน้า “ยู จะให้อะไรกับสหรัฐฯ”เดาทาง “คาวบอย” ต้องรุกไล่หนัก ไม่มีทางเปิดช่องให้ต่อรองวัดใจ คนละมุมกันเลยกับที่กองเชียร์ชาตินิยมยุให้ทีมไทยแลนด์ต่อรองอย่างมีเชิง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี “ยื่นหมู ยื่นแมว” อย่าให้เสียเปรียบในสภาพไพ่ที่ถืออยู่ในมือ “แต้มอ่อน” ไทยแทบไม่มีแต้มต่อรองวัดดวงตรงกันข้ามยังต้องแบกแต้มติดลบเต็มๆจากการถูกสหรัฐฯกับชาติตะวันตกผลักไปแนบแน่นกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดนล็อกเป้าในศึกความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์เสี่ยงต้องเฉ่งภาษีแทนกลุ่มทุนจีนแดงที่แฝงอยู่ในกองเรือส่งออกไทยสถานะไทยล่อแหลมในสมรภูมิสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนแดง ไอ้ที่หวังจะพึ่งการแท็กทีมอาเซียน ผนึกทีมเพื่อนบ้านสู้เกมบุก เผชิญสงครามภาษี ก็อย่างที่เห็นอาการประเทศเวียดนามชิงเป็นสิงห์ปืนไว ต่อสายหมอบกับ “คาวบอยทรัมป์” ก่อนใครเพื่อนนาทีคับขัน ไม่มีเพื่อนแท้ ต่างชิ่ง ตัวใคร ตัวมัน ไม่มีทางเป็นหนึ่งเดียวอย่าว่าแต่เวียดนามที่ลอยตัวอยู่ในจุดเอาตัวรอดเดี่ยวๆ แม้แต่มาเลเซียผู้นำอาเซียนที่ต้องถือนำธง ล่าสุดนายกฯอันวาร์ อิบราฮิม เดินทางมา โชว์คอนเนกชันแน่นปึ้กกับ “นายกฯ 2 พ่อลูก” ของไทยได้คิวพบ “นายกฯคนลูก” การหารืออย่างเป็นทางการกับ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในทำเนียบรัฐบาล พ่วงด้วยโปรแกรมไม่เป็นทางการ การพบปะส่วนตัวกับ “นายกฯคนพ่อ” อย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ในฐานะกุนซือส่วนตัวประธานอาเซียน ที่เปิดห้องอาหารในโรงแรมของตระกูลชินวัตร เลี้ยงดูปูเสื่อผู้นำมาเลย์ภาพออกมาทางสื่อกระแสหลัก ไทย–มาเลย์ ความหวังในการผนึกอาเซียนถ้าไม่มาสะดุดกับช็อต “เพลงผิด ชีวิตเปลี่ยน”กับอารมณ์ของผู้นำมาเลเซีย โพสต์ภาพการเยือนเมืองไทยหารือ “นายกฯ 2 พ่อลูก” โดยเลือกใช้เพลง “อมพระมาพูด” ของศิลปิน “เสก โลโซ” มาประกอบกับภาพการนั่งหารือกับนายทักษิณ สะท้อนนัยแรงๆตามเนื้อเพลงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าเนื้อใจเสืออย่างเธอและยังไม่เท่านั้น นายกฯอันวาร์ยังเลือกใช้เพลง “คู่กัด” ของศิลปิน “เบิร์ด ธงชัย” ประกอบภาพการนั่งเจรจากับ “อิ๊งค์ แพทองธาร” สื่อความนัยตามเนื้อเพลง ไม่มีใครยอมใคร ถ้าจะดี ให้เธอเป็นฝ่ายยอมก่อนจะว่าผิดคิว ไม่รู้ความหมายภาษาไทยก็ใช่ที่ เพราะระดับ “protocal” พิธีการทางการทูตขนาดนี้ เรื่องมารยาททางการทูตต้องละเอียดยิบ การแสดงท่าทีต่างๆต้องระมัดระวังเต็มที่แม้ต่อมาจะลบโพสต์ออก แต่มันก็นำมาซึ่งเครื่องหมายคำถาม ผู้นำมาเลย์คิดอะไรในใจสภาพการณ์มันตอกย้ำ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาติอาเซียนเป็นเรื่องยาก โดยธรรมชาติกินแหนงแคลงใจ ปมขัดแย้งทางเชื้อชาติมาตั้งแต่อดีต แทบไม่ต้องคิด เลิกหวังการรวมตัวสู้สงครามภาษีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมของเหลี่ยมเกมอำนาจการเมืองระหว่างประเทศต้องแกะรหัส แต่อีกมุมที่แฝงอยู่ในภาพข่าวประกอบการเยือนไทยของผู้นำมาเลเซียยังมีช็อตการพบปะหารือกับซีอีโอของกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทย เป็นการประชุมวงเล็กระหว่างนายอันวาร์ และรัฐมนตรีพาณิชย์ของมาเลเซีย ที่ส่งเทียบเชิญ “เดอะเอ้” นายคงกระพัน อินทรแจ้ง บอสใหญ่กลุ่ม ปตท.เข้าร่วมวงดีลธุรกิจพลังงาน เชื่อมโปรเจกต์เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามเทรนด์โลกเช่นเดียวกับซีอีโอกลุ่มไทยเบฟฯ และเครือไมเนอร์ ที่ถูกเชิญเข้าพูดจากับทีมอันวาร์โดยภาพข่าวมันก็ชัดเจน รัฐบาลมาเลย์และน่าจะรวมถึงรัฐบาลนานาชาติ มองทะลุอำนาจการเมือง ให้น้ำหนักกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยจริงๆอยู่ในกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ ภายใต้การบริหารของซีอีโอมืออาชีพนี่ต่างหาก จุดแกร่ง ความหวังประคองตัวสู้สงครามการค้าของไทย.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม