ถึงกลัว “ผี” ขั้นสุด แต่อยากวัดใจลองทำสิ่งใหม่ๆ สำหรับ เบคกี้-รีเบคก้า แพทรีเชีย อาร์มสตรอง นักแสดงสาวสุดฮอต ในภาพยนตร์สยองขวัญ “4 ป่าช้า” ตอน ที่ชอบ ค่ายไฟว์สตาร์ กำกับโดย ทรงศักดิ์ มงคลทอง งานนี้สาวเบคกี้ เล่าการทำงาน กลัวแต่สนุก เริ่มจาก...ทำไมถึงตัดสินใจรับหนังผีเป็นเรื่องแรก ทั้งๆ ที่เป็นคนกลัวผี“ก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดเล่นหนังผี และไม่คิดจะมีหนังผีจะติดต่อเข้ามาด้วยเพราะแต่ละบทที่เราได้เล่นก่อนหน้านี้จะเป็นฟีลสดใส น่ารัก มี ลอง ลิฟ เลิฟว์ จะมีความดาร์กๆ ดราม่า พอมีหนังผี 4 ป่าช้าเข้ามา ก็แอบคิดมันจะน่ากลัวมั้ย ถ่ายไปเราจะเก็บไปคิด ไปเป็นภาพจำมั้ย แต่เป็นสิ่งที่เราอยากทำอะไรใหม่ เป็นความท้าทาย อยากเล่นหลายๆบทบาท อยากเก็บประสบการณ์เยอะๆ”เป็นคนกลัวผีขนาดไหน“กลัวค่ะ สมมติได้ยินเสียงแต่จะหาข้ออ้าง หาเหตุผล จะจริงหรือเปล่าไม่รู้ และเป็นคนชอบดูหนังผี ดูได้เฉพาะกลางวัน ถ้าดูกลางคืนจะเป็นภาพติดตานอนไม่หลับ เวลาไปแฟนมีตต่างประเทศ จะเปิดไฟทั้งห้องให้สว่าง และเช็กทุกอย่าง เปิดตู้เสื้อผ้า เพื่อความสบายใจว่าไม่มีอะไรจริงๆ”คนรอบข้างเข้าใจความขี้ระแวงของเรามั้ย“เข้าใจค่ะ เพราะทุกคนก็เป็นเหมือนกัน พี่ผู้จัดฯ ก่อนเข้าห้องเขาจะต้องเคาะห้องก่อน ซึ่งเรามองแล้ว อืม น่ากลัวกว่าเดิมนะเนี่ย (หัวเราะ)”กับบทบาทที่ได้รับ“รับบทเป็นพี่ปัน จะเป็นพี่สาวของน้องป้อน (นินนา นีรนารา) จะมีความปกป้องน้องสาวที่สุดเลย เป็นเรื่องที่อ่านบทรู้สึกความสัมพันธ์น่ารักมาก กับน้องนินนาเพิ่งมาเจอเรื่องนี้ ตอนฟิตติ้งแต่ยังไม่ค่อยได้คุยกันเพราะหนูค่อนข้างเป็นคนอินโทรเวิร์ต น้องก็เงียบเหมือนกัน เราก็หาเรื่องคุยจนเจอแล้วเราคุยเป็นภาษาอังกฤษกัน ตอนที่ถ่ายทำรู้สึกได้น้องสาวเพิ่มมาเลยคนนึง” ความหลอนในเรื่องนี้ล่ะ“มันจะต้องวิ่งตลอดเวลา ต้องเหนื่อยตลอดเวลา เราไม่ได้ไปสภาพคลีน สะอาดๆ จะมีทั้งเลือด ฝุ่น ทุกอย่าง การวิ่งในป่ามันไม่ได้ง่าย ในการถ่ายทำแต่ก็สนุก อย่างมีช็อตที่จะต้องนอนลงไปกับพื้นในป่าช็อตนี้ถ่ายตอน 4-5 ทุ่ม มืดมากๆ ไฟมีแค่ไฟกองเราแค่นั้นแล้วหนูใส่กันกระแทกหน้าอกเผื่อเวลาผีมาเหยียบ ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ และพี่เขาแต่งเอฟเฟกต์ผีได้สุดยอดมาก จนเราไม่กล้ามองตาผีเลย เหมือนจริงจนถามพี่เล่นเป็นผี หนูจะรู้ได้ยังไงผีจริงหรือคนแต่งผี พี่เค้าเลยบอกว่าลองเล่นตลกให้พี่ดู ถ้าเล่นกันเป็นพี่แต่ถ้าไม่เล่นตอบวิ่งหนีได้เลย (หัวเราะ) แต่รู้สึกเป็นซีนที่อิมแพกต์นะ”ถ่ายฉากนี้เสร็จกลับบ้านไปนอนหลับมั้ย“หลับค่ะ เหนื่อยด้วยและคุณแม่เตรียมน้ำมนต์ให้อาบเลย แม่เตรียมพระไว้ให้พกไปด้วย”ทั้งเรื่องไม่ได้แต่งสวยเลย“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าเป็นเสน่ห์คาแรกเตอร์ และเป็นคนไม่ห่วงสวย คาแรกเตอร์เป็นยังไงก็เป็นแบบนั้นไม่สวยไม่เป็นไร ในเรื่องทากันแดดและลิปปาล์มแบบไม่มีสี เป็นการแต่งหน้าที่ชอบมากและเร็วมาก หน้าสดมากกว่าที่แต่งเอฟเฟกต์ ปากแตก เลือดอีก” เวลาเล่นหนัง เล่นละครแต่ไม่ได้แต่งหน้าสวยๆ ทำให้เราขาดความมั่นใจไปบ้างมั้ย“ไม่ค่ะ เรารู้สึกเราเข้าไปเป็นคาแรกเตอร์วางมาแบบนี้เข้าใจว่าต้องเป็นแบบนี้ มีครั้งนึงต้องตัดผมสั้นแล้วหนูรักผมยาวมาก แต่พอไปดูคาแรกเตอร์มันต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่างปันก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้คลีน แต่มีเสน่ห์มาก เป็นชาวบ้านท่านนึงจะต้องวิ่งหนีผีจะสวยมันไม่ได้”เท่าที่ได้ดู 4 ป่าช้า ตอนไหนหลอนสุด“ที่ต้องหลบตาเลย ตอน มิราเคิล เพราะดูไปจะต้องเอามือมาปิดตา มันมีความเลือด มีน้ำหนืดๆ ส่วนต้องตา ความสนุก เรียกเสียงขำได้ทั้งโรง แต่ตอนที่ชอบ จะมีความอึดอัด มีความอยากช่วย มีทุกพาร์ต ครบทุกรสชาติจริงๆ”แพลนงานปีนี้“มีหนัง 4 ป่าช้า เรื่องนี้ มีโปรเจกต์ใหญ่ SAPPHIC SERIES MEGA PROJECT “4 Elements บ้านวาทินวณิช” มี อิงฟ้า-ชาล็อต, เบคกี้-ฟรีน, แอปเปิ้ล ลาภิสรา-มิ้ม ปัณฑิตา, น้ำหนึ่ง มิลิญ และ เนย กานต์ธีรา ในเรื่องหนูเป็นเจ้าหญิง พี่ฟรีนเป็นบอดี้การ์ด ความท้าทายเรื่องนี้ต้องเล่น 2 คาแรกเตอร์ เล่นเป็นตัวดีและตัวร้าย ยากอยู่แล้ว มีอีกเรื่องเล่นกับพี่ฟรีนและมีอีกโปรเจกต์ขออุบไว้ก่อน”ทำงานหนัก ทำตลอดๆ เหมือนร้อนเงินเลย“ทำงานหนักจริงค่ะ (หัวเราะ) แต่เราชอบด้วยแหละ เราทำเพราะแพชชันล้วนๆเลย ที่บ้านบอกว่าวันไหนหมดแพชชันก็ไม่เป็นไรนะ ไปเป็นทนายก็ได้ตามที่เราเรียนมา แต่เราพูดเสมอตรงนี้แพชชันสูงมากเราอยากทำตรงนี้ให้มันประสบความสำเร็จจริงๆ ภูมิใจกับมันมากๆ” อัปเดตสถานะหัวใจหน่อยสิ“(หัวเราะ) ไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ หลักๆ เราอยู่กับงานแต่ไม่ได้ปิดโอกาสให้ใคร เราโอเพ่นมากๆ ถ้าเจอคนที่ใช่ก็ยินดีมากๆ แต่ตอนนี้อยากโฟกัสงานไม่รู้แบ่งเวลายังไง เวลานอนยังไม่ค่อยมี ตอนนี้เวลาเรียนก็สำคัญเพราะแต่ก่อนเรียนเวลาจะเป็นกลางคืน แต่ตอนนี้กลับบ้านไม่มีแรง ต้องนอนแล้ว แต่ก็ใกล้เรียนจบแต่ยังไม่ถึงตรงนั้นสักที”มีเดดไลน์จบภายในกี่ปี“จริงๆ ก็ต้องปีหน้าแต่คุยกันได้เพราะว่าแค่รู้สึกว่าไม่สามารถกลับไปเรียนตอนนี้ได้ เพราะงานกำลังไปได้ดีทุกอย่าง เราชอบการแสดง ร้องเพลง แฟชั่น ทุกอย่างเลยมีความสนุกแต่เรียนกฎหมาย ก็ทำให้เราความหนักๆ อะไรบางอย่างได้ เราจัดการอารมณ์เป็นไม่ดิ่งไปกับสิ่งนั้น เข้าใจโลกขึ้น เข้าใจคนรอบตัวขึ้น”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม