เสิร์ฟสู้สุดพลังใส่เต็มทุกอินเนอร์ในทุกงาน พิสูจน์ออกมาด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมเป็นที่ยอมรับของแฟนๆเสมอ ล่าสุดถือเป็นการท้าทายครั้งใหม่ของศิลปินมากความสามารถ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ที่กลับมามีผลงานแสดงอีกครั้งในรอบ 4 ปี ในภาพยนตร์คอมเมดี้แห่งปี “ซองแดงแต่งผี” จาก GDH ร่วมมือกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ซึ่ง พีพี ต้องมารับบทเป็นผีจอมเหวี่ยงติดแบ๊ว ประกบคู่ซี้ชีวิตจริง “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ควงคู่รับประกันความฮาวายป่วง เลยชวน “พีพี” มาเล่าถึงความตั้งใจในเรื่องนี้และการพัฒนาตัวเองที่ไม่เคยหยุดยั้งเริ่มจากการได้มาแสดงในเรื่อง “ซองแดงแต่งผี”?“พอได้ดูหนังเรื่องนี้ในเวอร์ชันต้นฉบับ พีก็ตอบตกลงรับเล่นทันที คือรู้สึกสนุกและท้าทายเพราะพีห่างจากการแสดงไปนานตั้งแต่จบซีรีส์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 2” ก็ไม่ได้เล่นซีรีส์หรือหนังอีกเลย”เหตุผลที่ตัดสินใจรับ?“เหตุผลหลักที่พีตัดสินใจรับเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นแนวคอมเมดี้ที่เราชอบอยู่แล้ว แถมยังมีความแฟนตาซีอยู่ด้วย ซึ่งในเรื่องพีต้องเล่นเป็น “ผีตี่ตี๋” ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนตาย โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตรกรเลยไม่ยอมไปผุดไปเกิด แล้วพอเขารู้ว่า “เม่น” ซึ่งรับบทโดยบิวกิ้น จะช่วยคลี่คลายปริศนาคดีให้เรา เพื่อส่งให้เราไปเกิดใหม่ได้ เราเลยต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชให้เขาทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ”เตรียมตัวกับบทนี้ยังไงบ้าง?“พีเตรียมตัวกับบทผีตี่ตี๋เยอะมาก มีการไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติม เพราะการเล่นเป็นผีมันจะมีความแฟนตาซีอยู่เยอะมาก ต้องใช้จินตนาการในการเล่นขั้นสุดแต่โชคดีเรื่องนี้ได้ผู้กำกับ พี่หมู–ชยนพ คอยให้คำแนะนำเยอะมาก อย่างบางซีนที่เราต้องแอบดุแอบเหวี่ยงใส่บิวกิ้น พี่หมูก็จะบอกว่าเอาเหวี่ยงๆแบบติดแบ๊วจะได้ดูน่ารักไม่ดุจนเกินไป ทำให้พีเข้าใจว่าต้องสื่อสารอารมณ์ออกมายังไงให้พอดี” กับ “บิวกิ้น” ทํางานด้วยกันมาเยอะ พอมาอยู่ในโหมดหนังเป็นยังไงบ้าง?“ต่อให้เราไม่มีงานแสดงด้วยกันแต่เราก็เจอกันบ่อยครั้ง ปีนึงเราก็เจอกันเยอะมากๆไม่ว่าจะเป็นงานพรีเซนเตอร์งานอีเวนต์ต่างๆทุกๆครั้งที่ทํางานกับบิวกิ้นก็ประทับใจเหมือนเดิม ความตั้งใจแพชชันของเค้าที่มีให้กับตัวงานตั้งแต่วันแรกก็ยังอยู่เสมอ ทุกๆครั้งที่ได้ทํางานกับเค้า เราก็ได้เรียนรู้อะไรต่างๆไปพร้อมๆกับเค้า บางอย่างเราไม่เคยทําแต่เค้าผ่านสิ่งนั้นมาแล้วเค้าก็แนะนําเรา หรือบางอย่างเราแนะนําเค้าได้ เราก็ช่วยส่งเสริมซัพพอร์ตเค้าเต็มที่ เค้าก็เป็นเหมือนอีกหนึ่งเซฟโซนของเรา มันเลยง่ายเวลาที่ต้องรับส่งอารมณ์กัน” แล้ว “บิวกิ้น”พระเอก 2 พันล้าน แนะนําอะไรบ้าง?“เค้าเป็นกําลังใจ ให้กันมากกว่า เรื่องทริกพีว่าแต่ละคนก็จะมีมุมจับต้องในการแสดงแตกต่างกัน พีว่าสิ่งที่มันดีที่สุดคือกําลังใจที่เค้ามีให้พีเวลาอยู่ในกอง ซีนไหนที่ยากหรือกดดันมาก ก็จะมีเค้ามาช่วยเสมอ”ได้ยินมาว่าถึงเค้าไม่มีถ่ายทำเค้าก็อยู่ใกล้ๆแค่แตะบ่าก็ส่งอารมณ์ให้ได้แล้ว?“ใช่ คือเป็น 2 คนที่ค่อนข้างอีโมชันนอล ความสัมพันธ์ที่มีให้กันมันยาวนานมากๆ เกือบจะ 10 ปีแล้วที่รู้จักกัน เวลาที่เรามองตากัน เราก็จะรู้สึกถึงความหวังดีที่เรามีให้กันเสมอ มันเลยใช้เวลาน้อยลงในการถ่ายทํา”รีวิวบิวกิ้นในการเป็นเม่นหน่อย?“บทของเค้าก็มีอะไรที่ท้าทายมาก ไม่ว่าจะซีนแอ็กชัน คอมเมดี้ พีว่าสิ่งที่มันยากที่สุดสําหรับพีเองกับกิ้น มันคือการเล่นคอมเมดี้ที่มันฟังดูตลกหรือน่าจะง่าย แต่พีว่ามันยากกว่าการเล่นดราม่าอีก มันคือความตลกธรรมชาติ เราจะเล่นยังไงให้มุกนี้มันยังขําอยู่ ให้ความสนุก เสียงหัวเราะ มันมาด้วยความไม่ตั้งใจ บางซีนก็ต้องซ้อมกัน บางอันก็ไม่ต้องซ้อมต้องเรียลก็จะไม่เล่นกัน”คาแรกเตอร์ของ “ผีตี่ตี๋” ใกล้และไกลตัว “พีพี” ยังไง?“ความใกล้ก็อาจจะเป็นคนขี้เล่น ขี้แกล้งซึ่งก็จะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในตัวตี่ตี๋เยอะมาก เค้าจะเป็นผีที่คอยจะแกล้งเม่นตลอดเวลา ส่วนความไกลตัว มันจะมีปมบางอย่างในใจตัวละครที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับพี เช่นวิธีการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นคําพูด ร่างกาย ความคิดทัศนคติบางอย่างที่ตัวพีเองก็ต้องลงไปเรียนรู้กับตัวตี่ตี๋เหมือนกัน บางสิ่งบางอย่างถ้าเป็นตัวพีเอง พีจะไม่พูดแบบนี้นะ จะไม่ทําแบบนี้นะ แต่ตี่ตี๋ตัดสินใจที่จะคิดและพูดแบบนี้ สิ่งที่ได้มาจากในตัวตี่ตี๋คือเค้ามีความ Positive บางอย่างในสิ่งที่มัน Negative มากๆ มันแปลกมาก คนเราจะคิดแบบนี้ได้จริงๆเหรอ แต่พอมองในมุมมองของเค้าก็รู้สึกว่าจริงๆมันไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่ว่าคนจะคิดแบบไหน เพราะว่าสุดท้ายเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร”ความรู้สึกที่วันนี้หนังฉายสู่สายตาคนดูแล้ว“ดีใจนะครับ รู้สึกว่าเราได้ทํามันแล้วจริงๆอย่างดีที่สุดเท่าที่พีทําได้แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าฟีดแบ็กจะเป็นยังไงแต่พีมีความสุขกับผลงานที่พีจะทําชิ้นนี้มากๆแล้วก็เต็มที่กับมันมากๆ มากที่สุดเท่าที่พีจะทําได้ พีอยากฝากให้ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้กัน เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวสนุกครบทุกรสมากและพวกเรา ทีมงานนักแสดงทุกคนก็ตั้งใจกับหนังเรื่องนี้มากจริงๆ ทุกคนใส่เต็มที่เกินร้อยมาก เป็นหนังที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยเลย” นอกจากความฮาตลกฟินดูเรื่องนี้แล้วจะได้พบกับอะไรอีก?“พีว่ามันเล่าในส่วนของมิตรภาพว่ามิตรภาพมันมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัยต่างๆ พีว่ามิตรภาพมันคือสิ่งที่สำคัญ เป็นอะไรที่มันยืนยาวมากๆต่อให้คนเราเป็นแฟนกัน เลิกกัน แต่ถ้าเรายังมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เรายังเป็นคนที่รักกันหวังดีอยู่ด้วยกันเสมอ แม้กระทั่งคนกับผี สิ่งเหล่านี้มันคือมิตรภาพที่ดีมากๆ ไม่ว่าผีจะอยู่หรือผีจะตายไปแล้ว หรือคนจะยังอยู่หรือตายไปแล้วมันก็ยังเป็นความรู้สึกที่เรายังรู้สึกถึงมันได้”คาดหวังรายได้กี่ร้อยล้านดี มีไปบนอะไรไว้มั้ย?“ทีมงานอาจจะได้แก้บน (หัวเราะ) แต่ถ้าได้รายได้เยอะก็ดีใจเพราะนั่นคือสิ่งที่ทําให้เห็นว่าคนชื่นชอบในผลงานเรากับสิ่งที่เราและทีมงานตั้งใจทํามันประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถามว่าตั้งเป้าไว้ว่าอยากได้กี่ร้อยล้านกี่พันล้าน ไม่ได้ตั้งเป้าไว้เลย รู้สึกว่าแค่เค้าเดินเข้าไปในโรง เสพอะไรก็ได้ในนั้นสักอย่างนึง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ตัวละครใดตัวละครนึงแล้วเค้ามีความสุขเค้าได้โมเมนต์ที่ดี สนุกมีความสุขกลับมา พีว่าแค่นั้นเราก็ทําหน้าที่ในฐานะนักแสดงเรื่องซองแดงแต่งผีสำเร็จแล้ว”เรื่องนี้ได้ยินว่า “พีพี” ต้องผ่านความรู้สึกต่างๆรวมทั้งเสียน้ำตามาแล้ว?“ทุกโปรเจกต์พอช่วงใกล้ๆที่ต้องไปถ่ายทําหรือแม้แต่คอนเสิร์ตที่ผ่านมาพีจะมีความเครียด กดดันตัวเอง ทุกๆงานที่ทําก็อยากจะทํามันออกมาให้มันได้ดีที่สุด ไม่มีใครกดดันพีหรอก ทุกคนเป็นกำลังใจให้แต่เราจะกดดันตัวเองซะส่วนใหญ่ ในเนื้องานทุกๆงานมันก็จะมีบางอย่างที่มันยาก สิ่งที่มันยากก็อยากจะทําให้มันดีแล้วถ้าสมมติผู้กำกับบอกว่าดี พีก็อยากทําให้มันดีกว่าที่เค้าคิดไว้ คงเป็นตรงนี้ที่ทําให้เรากดดันเสมอ พีไม่รู้ว่าสิ่งไหนคือคำว่าดีแต่เรารู้สึกว่าเราทําแล้วมันดีที่สุดแล้วกัน แต่พอมีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว พีรู้สึกว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องกดดันมากขนาดนั้นก็ได้ ทุกงานก็มีแนวทางของมัน อย่างคอมเมดี้มันก็มีสิ่งที่ดีสําหรับมัน ดราม่า หรือเพลงไหนๆก็มีสิ่งที่ดีสําหรับเพลงเพลงนั้น ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกอย่าง อย่างหนังเรื่องนี้ พี่หมู-ชยนพ ผู้กำกับ ช่วยพีเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการ workshop มีครูบิว-อรพรรณ แอ็กติ้งโค้ชด้วยที่มาช่วยระหว่างทางตลอด ซีนไหนไม่มั่นใจยังมีความสงสัย พี่หมูก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย พี่รู้สึกว่ามันดีแล้วจริงๆ เค้าจะเอาไปตัดมาให้ดูเลยว่ามันดีแล้วนะจริงๆ”คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกก็ได้รับกระแสชื่นชมล้นหลามว่าเราข้ามขีดจำกัดตัวเองขึ้นไปอีก?“พีรู้สึกว่าอยากจะทํามันในเวลาที่พร้อมที่สุด อยากจะพัฒนาตัวเองให้ไปถึงจุดที่พีจะเสนอสิ่งเหล่านี้ได้แล้วเค้ารู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่สุด เลยตั้งใจทําเป็นคอนเสิร์ตนี้ขึ้นมา ทุกๆครั้ง ทุกๆงานตัวเราเอง เราก็รู้สึกว่าก็อยากเป็นคนที่เก่งขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ว่าเราจะไปเวทีไหนเราก็อยากให้มี Performance ที่มันดีขึ้นทุกเวทีๆ ไม่ว่าจะเป็นแค่ 1% 2% ก็รู้สึกว่ามันก็ดีขึ้นก็คือเราได้พัฒนาตัวเองไปข้างหน้าแล้ว”ถือว่ามันสมกับที่ได้ทุ่มเทได้ตั้งใจมั้ย หายเหนื่อยเลยมั้ย?“ก็หายเหนื่อยนะ กับสิ่งที่เราพยายามตั้งใจ มีคนเห็นคุณค่า ให้คุณค่าในผลงานของเราหรือในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารไป มันคือความสุขมากกว่าที่ทุกครั้งที่พีได้เจอแฟนๆ แล้วเค้าได้รับอะไรกลับไป”บิวกิ้นมีของขวัญสําหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวของพีพีด้วย?“ก็เป็นของขวัญที่ให้กันและกันในทุกๆวันพิเศษ เครื่องประดับชนิดหนึ่ง เป็นโมเมนต์ดีๆ ที่เรามีให้กัน (ยิ้ม)”นอกจากหนังเรื่องนี้ หลังจากนี้จะมีโอกาสได้เห็นการทํางานคู่กันกับ “บิวกิ้น” อีกมั้ย?“ในเรื่องนี้ก็จะมีผลงานเพลง 5 เพลงที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วหลังจากนี้ก็จะมีโปรเจกต์พิเศษเกี่ยวกับซองแดงแต่งผี เดี๋ยวรอการประกาศก่อน ก็จะได้เห็นกันไปยาวๆทั้งปี”ณ วันนี้ที่เดินเคียงข้างกันมา บิวกิ้นยังคงเป็นแพชชันในการทํางานของเราอยู่มั้ย?“พอยิ่งโตขึ้น พีว่าในแนวทางของการเป็นศิลปินหรือการเป็นนักแสดงต่างคนมันก็จะต่างมุมมองกันมากขึ้น บิวกิ้นก็จะมีเวย์ของเค้าที่อยากจะไป พีก็จะชัดเจนว่าพีก็จะมีเวย์อย่างนี้ แต่ถ้าถามว่าเค้ายังเป็นแพชชันให้พีมั้ย ก็ยังเป็นเสมอนะ อย่างคอนเสิร์ตที่ผ่านมาการได้มีเค้าอยู่บนเวทีเป็นแรงซัพพอร์ตเป็นแพชชันให้พีรู้สึกว่าก็อยากจะทําให้ได้เหมือนที่เค้าเคยทําได้บ้าง หรือในบางจุดเค้าก็จะรู้สึกว่าเค้าก็อยากจะมีบางสิ่งบางอย่างเหมือนที่พีมีบ้าง”.เรื่อง : สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่