ผบช.ภ.7 แถลงผลงานตำรวจสมุทรสาครร่วมกับชุดสืบสวนภาค 7 สกัดยาบ้าลอตใหญ่กว่า 2 ล้านเม็ดบรรทุกมาในรถกระบะตู้ทึบเตรียมส่งลงพื้นที่ภาคใต้ รวบตัวผู้ต้องหา 2 คนสารภาพได้รับค่าจ้างคนละ 7 หมื่นบาท ขับรถไปขนยานรกจาก จ.สระบุรี มา จ.สมุทรสาคร พลาดท่าถูกจับกุมขณะจอดรถอยู่ริมถนนรอขนถ่ายของส่งต่อไปอีกทอด สั่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดพร้อมใช้มาตรการยึดทรัพย์จัดการให้สิ้นซากที่ บช.ภ.7 จ.นครปฐม เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 มี.ค. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภ.7 พร้อมพวกร่วมแถลงข่าวจับกุมยาเสพติด รายสำคัญ ผู้ต้องหา 2 คน คือนายเทพพิทักษ์ หรืออาร์ท ทองปาล อายุ 34 ปี และนายธนัท หรือคอย ตะพาบน้ำ อายุ 32 ปี ทั้งคู่บ้านอยู่ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 10 กระสอบ รวม 2,050,000 เม็ด รถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 3 ฒษ 1989 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังตู้ทึบติดป้ายบริษัทขนส่งเอกชน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาครพล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เผยว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จ.สมุทรสาคร และ สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกันสืบสวนหาข่าวจากสายจนทราบว่า จะมีการลักลอบขนถ่ายยาเสพติดจำนวนมากลงสู่พื้นที่ภาคใต้ บริเวณริมถนนเอกชัย หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบสั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 7 ลงพื้นที่ร่วมกันเฝ้าดูสถานที่นัดพบ จนกระทั่งเวลา 22.00 น. พบรถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าวขับมาจอดริมถนน มีลักษณะรถและสถานที่ตรงกับที่สายแจ้งมา กำลังตำรวจที่ดักซุ่มอยู่แสดงตัวขอตรวจสอบพบนายเทพพิทักษ์ เป็นคนขับ และนายธนัทนั่งมาด้วยกันในรถ ตรวจค้นในตู้ทึบกระบะท้ายพบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบป่านสีขาว 10 กระสอบ รวมทั้งสิ้น 2,050,000 เม็ด จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ได้รับว่าจ้างให้ขับรถไปรับยาบ้าทั้งหมดในพื้นที่ จ.สระบุรี นำมาส่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้รับค่าจ้างเป็นเงินสดคนละ 70,000 บาท เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันถือเป็นการจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำเพื่อการค้า และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปผบช.ภ.7 เผยด้วยว่า ยาบ้าลอตนี้มีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท หากปล่อยหลุดไปจะทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก สั่งการให้สอบสวนขยายผลถึงผู้ส่งและผู้รับนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เท่าที่สอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นเพียงแค่ผู้รับจ้างส่งและนำยามาพักก่อนจะส่งไปขายยังพื้นที่ภาคใต้ ขณะนี้พอทราบแล้วว่ายาบ้าลอตนี้จะส่งไปที่ใดและแหล่งของยามาจากที่ใด สั่งให้ชุดสืบสวนภาค 7 ประสานไปยังพื้นที่เพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการและให้ใช้มาตรการยึดทรัพย์ ถือเป็นแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่จะต้องจับกุมให้สิ้นซากและยึดทรัพย์ให้หมดด้วย ขณะนี้ตำรวจลงพื้นที่หมดแล้วขอเวลาทำงานก่อนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่