อุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ของคณะดูงานจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงเช้ามืด วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 30 กว่าราย เป็นอีกโศกนาฏกรรมทางถนน ครั้งใหญ่ที่สร้างความหดหู่ เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำอีกกระทรวงคมนาคมกำลังตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างเร่งด่วน เบื้องต้น น่าจะมาจากสภาพรถไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากคนขับรถให้การว่าเบรกมีปัญหา เพราะลมเบรกหมด ขณะที่กำลังขับรถลงจาก เขาที่เป็นทางโค้งคดเคี้ยว ทำให้เหยียบเบรกไม่ได้จึงเสียหลักชนแบริเออร์ พลิกข้ามไปชนเนินหินจนเกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้วันเดียวมีคลิปเด็กนักเรียน ป.1 กระเด็นตกจากประตูหลังรถตู้รับส่งนักเรียนหล่นลงมาบนถนนตรงสี่แยกไฟแดง ถ.กะโรม จ.นครศรีธรรมราช ดีที่รถขับตามหลังเบรกทันจึงไม่เกิดอุบัติเหตุ รุนแรง ตรวจสอบสภาพรถตู้พบมีการ ดัดแปลงสภาพ เอาเบาะหลังออกให้บรรจุผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นและตัวล็อกประตูหลังชำรุดสภาพตัวรถโดยสารไม่สมบูรณ์ คือปัญหาหลักในการเกิดอุบัติเหตุเกือบทุกครั้ง แต่กลับไม่เคยมีมาตรการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ยังคงปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุสลดบ่อยๆ กรมการขนส่งทางบกยังเปิดช่องให้รถเก่าเสื่อมสภาพหรือการให้ใช้รถดัดแปลงเอามาใช้รับส่งผู้โดยสาร แต่ไม่กำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวดรถบัส 2 ชั้นที่มีการดัดแปลง ไม่ได้มาตรฐาน รถเก่าเสื่อมสภาพยังถูกนำมา ใช้ขนส่งผู้โดยสารอยู่ทั่วไป อุตส่าห์มีการศึกษาถอดบทเรียนกันมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด แต่ก็ตั้งท่าขึงขังอยู่แค่ช่วงสั้นๆ ขาดความเข้มงวดในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริงจัง ทำให้ยังคงเกิดอุบัติเหตุวนเวียนไม่สิ้นสุดพอเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆจากรถสาธารณะที่สร้างผลกระทบในวงกว้างก็ทำได้แค่การใช้มาตรการเยียวยาผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นครั้งๆไป แต่ไม่เคยคิดที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ควบคุมเข้มงวดไม่ให้รถสาธารณะที่ไม่ได้มาตรฐานนำมาใช้งาน ซึ่งจะเป็นการตัดวงจรปัญหาได้ทั้งหมดต้องหยุดแก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอก ที่ไม่อาจทดแทนความสูญเสียได้เพราะเป็นแค่การแก้ปัญหาปลายเหตุ ทางที่ถูก ควรต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มีบทลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง รวดเร็ว เพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ไม่ต้องมาขายผ้าเอาหน้ารอดกันอยู่เรื่อยไป.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม