สยองเขาศาลปู่โทนอีก รถทัวร์มรณะพลิกคว่ำดับสลด 18 ศพ บาดเจ็บ 23 คน หลังรับ จนท.เทศบาลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ไปดูงานธนาคารขยะหมู่บ้าน จ.ระยอง ถึงที่เกิดเหตุคนขับอ้างเข้าเกียร์ต่ำไม่ได้ แถมเบรกค้าง ตัดสินใจหักชนแบริเออร์กระแทกเนินเขา หลังคาฉีกขาด ผู้โดยสารกระเด็นออกมานอกรถ บางส่วนโดนทับใต้ซากส่งเสียงร้องระงม ชาวบ้านร้องหน่วยงานรัฐเร่งแก้ปัญหาจริงจัง หลังเกิดเหตุถี่ยิบ สร้างความสูญเสียซ้ำซากโศกนาฏกรรมรถทัวร์พาคณะเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ไปดูงานธนาคารขยะหมู่บ้านที่ จ.ระยอง เกิดพลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จุดที่เคยเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก ผู้โดยสารตายหมู่ 18 ศพ บาดเจ็บกว่า 20 คนทัวร์ลงเขาโทนพลิกคว่ำอีกเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำซ้ำซากเซ่นเขาศาลปู่โทน 18 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 25 ก.พ. พ.ต.ท.ศิวภัสส์ ภูริพัศชัยบุญชู สว. (สอบสวน) สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนบนถนนสาย 304 บริเวณช่วงทางลงเขาศาลปู่โทน หลัก กม.ที่ 210+500 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ไปตรวจสอบพร้อมนายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี ตำรวจทางหลวงนาดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนาดี แพทย์เวร รพ.นาดี กู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี และกู้ภัยจุดบ้านโคกผู้โดยสารดับสลดถึง 18 ศพที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาเข้า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ลักษณะเป็นทางลงเขาคดเคี้ยวลาดชัน พบรถทัวร์แบบ 2 ชั้น ทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ เสียหลักชนแบริเออร์เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร พลิกตะแคงข้างอยู่กับไหล่เขา สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน หลังคาฉีกขาด กระจกรถแตกละเอียด ในที่เกิดเหตุพบผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บส่งเสียงร้องระงมหลายสิบคน บริเวณนอกตัวรถพบผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมาตายกว่า 10 ศพ บางศพถูกรถทับอยู่ใต้ซากรถอีกไม่ต่ำกว่า 5-6 ศพ เจ้าหน้าที่ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.นาดี และ รพ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด 16 ศพ ต่อมาผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ รวมเป็น 18 ศพ บาดเจ็บ 23 คนเป็นคณะ จนท.ทต.พรเจริญสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถทัวร์คันดังกล่าวรับการว่าจ้างจากเทศบาลตำบลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ พาผู้โดยสารรวม 47 คน คนขับรถอีก 2 คน เดินทางไปทัศนศึกษาดูงานโครงการพัฒนาศักยภาพและการศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคาร ขยะหมู่บ้านที่ จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. มีผู้ร่วมในโครงการทั้งหมด 129 คน ใช้รถทัวร์ 3 คัน ออกเดินทางจากเทศบาลตำบลพรเจริญตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 25 ก.พ. ขณะวิ่งมาถึงบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน เป็นช่วงทางโค้งคดเคี้ยว รถทัวร์คันประสบเหตุวิ่งต่อท้ายคันที่ 3 เกิดเสียหลักชนแบริเออร์พลิกคว่ำที่เหลือหันหัวรถกลับทันทีหลังเกิดเหตุตำรวจประสานรถยกเคลื่อนย้ายรถทัวร์คันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ สภ.วังขอนแดง ส่วนรถทัวร์อีก 2 คันที่รับคณะเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพรเจริญและชาวบ้านที่ร่วมโครงการธนาคารขยะหมู่บ้านไปดูงานที่ จ.ระยอง ต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าและได้ยกเลิกการเดินทางและพาผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ทันทีเข้าเกียร์ต่ำไม่ได้-เบรกแตกนายบุญทัน ชาตรี อายุ 64 ปี เจ้าของรถทัวร์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนนั่งอยู่เก้าอี้หลังคนขับ ขณะรถวิ่งลงเขาตามกันไป คนขับเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ 3 มาเป็นเกียร์ 2 และเกียร์ 1 จังหวะเปลี่ยนเกียร์ จู่ๆเกียร์เข้าไม่ได้ เกิดเกียร์ว่าง เบรกก็เหยียบไม่อยู่ เพราะลมเบรกหมด โชเฟอร์พยายามประคองรถลงเขา แต่ด้วยทางค่อนข้างลาดชันและคดเคี้ยว รถพุ่งจะไปชนท้ายรถทัวร์คันหน้า คนขับตัดสินใจหักออกพุ่งชนแท่งแบริเออร์ รถพลิกข้ามแบริเออร์ชนกระแทกเนินหินข้างทางอย่างแรง ทำให้หลังคาเปิดออก ผู้โดยสารกระเด็นออกมาจากรถ บางคนโดนรถทับอยู่ด้านล่างโชเฟอร์หักพุ่งชนแบริเออร์ด้านนายนาวิน ชูปัญญา คนขับรถทัวร์ กล่าวว่า ตนเป็นคนขับรถมือ 1 หลังจากให้คนขับมือ 2 ขับมาตั้งแต่ต้นทาง จ.บึงกาฬ และมาเปลี่ยนมือในช่วง จ.นครราชสีมา กระทั่งรถวิ่งมาถึงทางลงเขาศาลปู่โทนพยายามจะเปลี่ยนเกียร์ แต่เข้าเกียร์ไม่ได้และเบรกค้าง นับเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เลยตัดสินใจหักรถออกซ้ายชนกำแพงแบริเออร์จนรถพลิกคว่ำ อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทางได้ตรวจเช็กสภาพรถก่อนทุกครั้ง ตนไม่ทราบเรื่องอาถรรพณ์ของสถานที่แห่งนี้รายชื่อผู้เสียชีวิตทัวร์มรณะสำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 18 ศพ ประกอบด้วย 1.น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร 2.น.ส.ปภัสสร ทองปาน 3.น.ส.พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร 4.น.ส.ทองอินทร์ จันทร์อ่อน 5.น.ส.อภิญญา บุตรวัง 6.นางเลียว ไชยเสนา 7.น.ส.สุจิตตรา วิเศษทรัพย์ 8.น.ส.บัวเงิน สุดาบุตร 9.น.ส.มะโยลี วงค์สุภา 10.นางสมบุญ ธิฟัน 11.นางสมหวัง พรหมพิทักษ์ 12.นางประหยัด เสียงล้ำ 13.นางทองใบ สอนเชียงคำ 14.น.ส.ภานรินทร์ จ่าพบ 15.นางราตรี ลบพันธ์ทอง 16.น.ส.พิมพกานต์ พินทเนาว์ 17.นายบุญโฮม จันทร์อ่อน และ 18.นายทองใส พรมเลิศ ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้วให้รถกู้ภัยของมูลนิธิสัจจพุทธธรรมนำไปไว้บริเวณสุสานเม่งยิ้งซัวจึง ต.หัวทะเล อ.เมืองนคร ราชสีมา เพื่อรอหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลธรรมสถาน จ.บึงกาฬ นำรถกู้ภัยมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.บึงกาฬเจ็บหนักรักษา รพ.อีก 23 คนส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวโรงพยาบาล 23 คน มี 1.น.ส.จริญา เสนา 2.นายนาวิน ชูปัญญา 3.นายอดุลย์ มณทางาม 4.นายประสงค์ ปัตภัย 5.นายอมร เพญจันทร์ 6.นายไอ่คำ แก้วกันหา 7.นางดรุณี ศรีษะ 8.นางทองคำ สมคำภิ 9.นางบุญปั่น สมคำภิ 10.นางทองยุ่น พลขำ 11.นางเขมจิรา อยู่คำพันธ์ 12.นางอนงค์เยาว์ ศรีสุพรรณ 13.นายพงษ์กร คำภูแสน 14.นางบุญทัน ชาตรี 15.น.ส.เครือวรรณ ฤทธิ์ดู 16.นางดอกรักษ์ พรมนาค 17.นางเด่น ปะโพทิง 18.นายอนุพงศ์ พรมอินทร์ 19.นายสมควร พาพิจิตร 20.นางปราณี แสนอุบล 21.นางลำภู ศรีบุญเรือง 22.นางประเทียน พรมโคตร และ 23.นายนาถวัฒน์ บริหารผวจ.เยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยต่อมานายวีระพันธุ์ ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรี และนายชนาธิป โคกมณี รอง ผวจ.ปราจีนบุรี ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.นาดี รวมถึงคอยอำนวยความสะดวกญาติที่มารับศพผู้เสียชีวิต นายวีระพันธุ์เปิดเผยว่า ช่วงเขาศาลปู่โทนมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาจังหวัดปราจีนบุรีร่วมกับกรมทางหลวงหาแนวทางแก้ปัญหาและมีข้อเสนอที่จะจัดสรรงบประมาณมาสร้างเป็นจุดพักรถ เพื่อให้รถและผู้ควบคุมรถได้ผ่อนคลาย ช่วงนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องจากเป็นพื้นที่กรมอุทยานฯ คาดว่าปีนี้น่าจะได้ข้อยุติและสามารถจัดสรรงบประมาณก่อสร้างจุดพักรถได้ อย่างไรก็ตาม เมื่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้วสิ่งที่จะต้องช่วยกันก็คือเรื่องของผู้บาดเจ็บและการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รวมถึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยญาติโวยทองหาย 10 บาทส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ส่วนหนึ่งตรวจสอบทรัพย์สินส่วนตัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หลังจากพบว่ามีทรัพย์สินของบางคนสูญหายไป ทั้งนี้ 1 ในญาติผู้เสียชีวิตที่ทรัพย์สินสูญหายเผยว่า ในกระเป๋าผู้ตายมีของมีค่า ทั้งโทรศัพท์มือถือ ทองรูปพรรณ หนักประมาณ 8-10 บาท แหวนเพชรและเอกสารสำคัญ ทั้งหมดเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายใบเล็กและพกติดตัวตลอด ตอนนี้ยังหาไม่เจอ ที่บ้านก็ไม่พบ พบเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า ใบใหญ่เท่านั้นคปภ.ชี้แจงค่าชดเชย พ.ร.บ.ขณะที่นายรชฏ เกตุบรรจง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดนครนายก ที่ดูแลรับผิดชอบครอบคลุมไปถึงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เดินทางไปตรวจสอบรถทัวร์คันเกิดเหตุ จากนั้นเปิดเผยว่า รถทัวร์คันดังกล่าวมี พ.ร.บ.ภาคบังคับ กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยจำนวน 500,000 บาทต่อราย และมีประกันภัยประเภท 3 ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตรายละ 500,000 บาท นอกจากนี้ มีประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีผู้โดยสารและผู้ขับขี่เสียชีวิตให้ความคุ้มครอง 50,000 บาทต่อรายเผยสถิติรถชนเขาโทนเพียบผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริเวณจุดเกิดเหตุเขาศาลปู่โทนมักเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีิวิตและบาดเจ็บเกือบทุกวัน โดยเฉพาะช่วงที่มาจาก จ.นครราชสีมา เมื่อถึงบริเวณจุดสกัดผางามเป็นทางลงเขาตลอดและเป็นทางคดโค้งลาดชัน ทำให้รถที่มีสภาพไม่สมบูรณ์หรือคนขับไม่ชินทางมักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ทั้งนี้ หากย้อนหลังไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่มาแล้วหลายครั้ง เช่นเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2567 เกิดเหตุรถบัสคณะครูโรงเรียนเทพอุดมวิทยา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พุ่งชนรถพ่วง 22 ล้อ หน้าศาลปู่โทน มีผู้บาดเจ็บ 13 คน วันที่ 7 ก.พ.2567 รถบรรทุกยางก้อนเสียหลักข้ามเกาะกลางชนรถกระบะที่วิ่งสวนทางมาหน้าศาลปู่โทน ทำให้คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และผู้โดยสารในรถกระบะบาดเจ็บ 2 คน วันที่ 25 ก.พ.2566 รถพ่วง 22 ล้อ ชนรถกระบะจนไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 1 คน สาหัส 3 คนวันที่ 9 มี.ค.2560 รถบัสพานักเรียนจาก จ.ขอนแก่น ไปทัศนศึกษาตกลงเหวข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 44 คน วันที่ 20 พ.ค.2560 รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส ชนต้นไม้และเกิดเพลิงลุกไหม้เสียชีวิต 5 คน วันที่ 2 ต.ค.2560 รถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ เสียชีวิต 3 คน วันที่ 6 พ.ย.2558 รถพ่วง 18 ล้อเบรกแตกข้ามเลนชนรถเก๋งและกระบะหลายคันมีผู้เสียชีวิต 8 คน วันที่ 28 ก.พ.2557 รถทัวร์ 2 ชั้นนำนักเรียนและครูโรงเรียนบ้านดงหลบใหม่สามัคคีวิทยา อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ไปทัศนศึกษาที่หาดจอมเทียนพัทยา จ.ชลบุรี เบรกแตกชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บ 37 คน และวันที่ 2 ส.ค.2557 รถพ่วง 8 ล้อ เบรกแตกช่วงลงเขาโทนชนรถที่วิ่งสวนมา 5 คัน มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 15 คนชาวบ้านร้องรัฐเร่งแก้ปัญหาผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจุดที่รถประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นช่วงขึ้นลงเขาศาลปู่โทน สภาพเส้นทางลาดชันคดเคี้ยวและอยู่ใกล้กับจุดรถทัวร์ที่นำคณะเทศบาลตำบลพรเจริญไปดูงานพลิกคว่ำเสียชีวิตถึง 18 ศพ บาดเจ็บอีก 23 คน หลังเกิดเหตุชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซากและลดความสูญเสียของผู้ใช้รถใช้ถนนครอบครัวสุดเศร้ารอรับศพที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ต.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ สถานที่ตั้งศพผู้เสียชีวิตจากรถทัวร์พลิกคว่ำที่เขาศาลปู่โทน นายมนตรี จารุธำรง นายอำเภอพรเจริญ นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านจัดเตรียมสถานบริเวณศาลาหน้าเมรุ นำเต็นท์ โต๊ะเก้าอี้ และจัดหาโรงเย็นบรรจุศพทั้ง 18 ศพ มาตั้งที่วัดแห่งนี้ จากนั้นจะมอบศพ ให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี หรือญาติผู้เสียชีวิตคนใดประสงค์จะจัดพิธีศพที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณแห่งนี้ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้ นายภานุพงศ์ กระต่ายทอง อายุ 45 ปี สามี น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร 1 ในผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านโคกอุดม ต.พรเจริญ เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า หลังทราบข่าวรถทัวร์พลิกคว่ำ และภรรยาเสียชีวิตรู้สึกตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุใดๆ“อิ๊งค์” ทวีตแสดงความเสียใจเวลา 09.38 น. วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน X ถึงกรณี อุบัติเหตุรถทัวร์ทัศนศึกษาดูงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากว่า “ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการดูแลผู้บาดเจ็บเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว สำหรับผู้บาดเจ็บไม่มากให้ดูแลอำนวยความสะดวกเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย ดิฉันกำชับให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือเข้าข่ายใช้รถด้วยความประมาท และกำชับเรื่องการตรวจรถที่ต้องปลอดภัย-ผ่านมาตรฐานที่กำหนดก่อนนำมาใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียเช่นนี้อีก”อัยการพร้อมช่วยญาติผู้ตายนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กล่าวว่า ฝากถึงครอบครัวผู้ประสบภัยคณะดูงานของเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ที่ประสบอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และ ผู้บาดเจ็บว่า เรื่องนี้สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและ ช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนด้านกฎหมาย หากมีปัญหาต้องร้องขอจัดการมรดก เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน ของผู้ตาย ค่าสินไหมทดแทนจากประกัน หรือทางคดี ขอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บติดต่ออัยการ จังหวัดคุ้มครองสิทธิ (อจคช.) จ.บึงกาฬ เพื่อขอรับ ความช่วยเหลือได้ฟรี สามารถติดต่อกับอัยการคุ้มครอง สิทธิจังหวัดบึงกาฬได้ที่โทรศัพท์ 0-4249-1736สธ.ส่งทีม Mcatt เข้าเยียวยาด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้ประสานทีม Mcatt สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี ทีม Mcatt สสจ.บึงกาฬ พร้อมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) 6-7 คน เข้าพื้นที่พูดคุยกับญาติผู้ประสบเหตุ โดยเร็ว เพื่อคัดกรองด้านสุขภาพจิต และเยียวยาผู้ที่ ได้รับผลกระทบทางจิตใจ โดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิต ทุกครอบครัว และผู้อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับ รพ.จิตเวชสระแก้ว อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการช่วยเหลือเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินคือ 1.ส่งทีมเข้าช่วยเหลือรักษาพยาบาลเบื้องต้น 2.เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อยังโรงพยาบาล และ 3.ดูแลจิตใจผู้บาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตสลดอีก–รถตู้เสยพ่วง 4 ศพเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ต.พิศลย์ ผาสุขเหตุ สว. (สอบสวน) สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ไปสอบสวนอุบัติเหตุบนถนน ทล.11 สายอินทร์บุรี-วังทอง ช่วงแยก บ้านคอกควาย หมู่ 16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พบรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ฮย 1033 กรุงเทพมหานคร สภาพฝั่งซ้ายตั้งแต่หน้ารถ จนถึงท้ายรถหายไปทั้งแถบ ในซากรถมีคราบเลือดและเศษชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์กระจายเกลื่อน พบผู้เสียชีวิตชาย 2 ราย หญิง 2 ราย รวม 4 ศพ 1 ในนั้นเป็นพระภิกษุ ผู้บาดเจ็บ 5 คน นำส่ง รพ.ท่าตะโก เบื้องต้นทราบว่า รถตู้โดยสารเป็นกลุ่มญาติโยมจาก วัดพระธรรมกาย มาด้วยกัน 9 คน รวมทั้งคนขับ เดินทางไปที่ จ.เพชรบูรณ์ ถึงจุดเกิดเหตุได้พุ่งชนท้ายรถพ่วง 22 ล้อ ทะเบียน 80-8552 นครสวรรค์ ตัวพ่วง 80-8553 นครสวรรค์ ที่จอดอยู่ริมถนน คาดคนขับรถตู้อาจหลับใน เนื่องจากเป็นทางตรงระยะยาวและไม่พบรอยเบรกบนถนน สาเหตุที่แท้จริง อยู่ระหว่างการสอบสวนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่