คนละหมัดซัดกันนัว “มงคล” ขน สว.สีน้ำเงิน ตั้งโต๊ะแถลงโต้ดีเอสไอ จ่อยกคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ “บิ๊กเกรียง” ขู่ฟ่อ ใช้กลไกวุฒิสภาเอาคืน “ฉัตรวรรษ” ฉะ รมว.ยุติธรรมทำให้เสื่อมเสีย “กอบ” ซัดเกมการเมืองยุยงปลุกปั่นบั่นทอน สว. ขึงขังงัดอำนาจสภาสูงเอาคืนทุกวิถีทาง “ทวี” ลั่นทำตามหน้าที่ มีหลักฐานล็อกฮั้ว 138 สว. สำรองอีก 2 ยินดีให้ซักฟอกถ้ายังข้องใจ ดีเอสไอแทงหนังสือลับด่วนที่สุด ถึง กกต. ตรวจสอบยิบกระบวนการฮั้ว แฉละเอียดค่าหัวระดับอำเภอ 4 พันบาท จังหวัด 1 หมื่นบาท เข้ารอบระดับประเทศรับไป 4 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ไปทำโพยกันที่อยุธยา-ปทุมธานี-นครนายก ผลออกมาตรงเป๊ะ เข้าข่ายอั้งยี่-ฟอกเงิน ชี้วางแผนสลับซับซ้อนขอรับเป็นคดีพิเศษ สำนักงาน กกต.ทำไขสือไม่ชง เรื่องเข้า กกต.ชุดใหญ่ นายกฯรับ “ทูตจีน” นำนักธุรกิจจีนเข้าคารวะ รมว.ดีอีจ่อดันร่างฯพนันออนไลน์เข้า ครม. เม.ย.นี้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นำทีม สว.สายสีน้ำเงิน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จ่อนำคดีโพยฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยืนยันทำตามหน้าที่ หลักฐานมัดส่อล็อกฮั้ว 138 สว. ให้ว่ากันตามหลักฐาน ยินดีชี้แจงสภาสูงสว.สีน้ำเงินดิ้นตั้งโต๊ะสวนดีเอสไอเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ส่วนใหญ่เป็นสายสีน้ำเงิน นำโดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ร่วมกันแถลงตอบโต้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมรับเรื่องที่กลุ่มอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 ได้มาโดยมิชอบ ไว้เป็นคดีพิเศษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 นายมงคลกล่าวว่า ทราบว่าดีเอสไอเตรียมบรรจุเรื่องนี้ตามคำร้องของ สว.กลุ่มสำรอง มองว่าประเด็นนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ และ กกต.รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้ว ดังนั้นหากพบว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายที่มีความผิดปกติ ทำให้เกิดความเสียหาย ไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด หรือบุคคลใด เราจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดยืนยันเข้ามาถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และทำหน้าที่ตรงไปตรงมาไม่ฝักใฝ่ผู้ใดขู่ใช้กลไกวุฒิสภาซักฟอกเอาคืนพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวโยงอยู่กับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ความพยายามบางอย่างมองว่าไม่ค่อยปกติ จากนี้ไป สว.จำนวนหนึ่งจะใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการกล่าวโทษ ดำเนินคดีในประเด็นต่างๆ และจะลงชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายรัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปฉะ รมว.ยุติธรรม ทำ สว.เสื่อมเสียพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของ สว. ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ กระบวนการของดีเอสไอไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนใด แต่มีกระแสข่าวว่าดีเอสไอจะรับเรื่องนี้ไว้ การทำงานของภาครัฐต้องอยู่ในขอบเขตหน้าที่ และอำนาจ หากกฎหมายไม่ได้มอบอำนาจ การให้ข่าวจากหน่วยงานและ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทำให้ สว.เสื่อมเสีย ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ สว.ทุกคนมาโดยสุจริต โปร่งใส แข่งขันตามรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อกล่าวหาอั้งยี่ซ่องโจร เป็นการให้ข่าวที่ผิดไป เตรียมรวบรวมข้อมูลข้อกฎหมาย เพื่อแก้ข้อกล่าวหาให้กับ สว.ทั้งหมดแล้วปูดมีขบวนการนำไปสู่การแก้ รธน.พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. กล่าวว่า สว.ชุดนี้มาตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่โดยสมาคมหรืออั้งยี่ตามที่กล่าวหาเกินเลยจากข้อเท็จจริง ทั้งวุฒิสภา คณะรัฐมนตรี องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ การกล่าวหาว่าองค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน เป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี่คือการใส่ความ “มันผู้ใดก็ตามที่ใส่ความ สว.ทำให้เกิดความเสียหาย บั่นทอนความเชื่อมั่นในกระบวนการนิติบัญญัติ คนที่ทำต้องรับผิดชอบ ส่วนผู้ร้องที่เคยเข้ากระบวนการคัดเลือกเป็น สว. แต่เข้ามาไม่ได้แล้วกลับมากล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบ ขณะนี้มีกระบวนการจัดตั้งเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวิธีการฉ้อฉล เพื่อทำให้เกิดวิกฤติรัฐธรรมนูญ ดังนั้น สว.ต้องอยู่เพื่อให้การดำรงอยู่ของกฎหมายเป็นไปอย่างผาสุก สงบเรียบร้อย ใครที่บังอาจบิดเบือนฉ้อฉลต้องรับผิดชอบ”ชี้เป็นเกมการเมืองบั่นทอนวุฒิสภาผู้สื่อข่าวถามว่ามองเป็นเกมการเมืองหรือไม่ พ.ต.อ.กอบตอบว่า การใช้ข้อกฎหมายอ้างอิงเพื่อดำเนินคดีกับ สว. ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง คือกลุ่มคนที่ทำมี รมว.ยุติธรรมด้วย มองได้ว่าเป็นเรื่องของเกมการเมือง โดยเฉพาะการกล่าวอ้างข้อกฎหมายว่ามาโดยไม่ชอบ คือการใช้กฎหมายเพื่อสร้างปัญหาต่อการปกครองบ้านเมืองมีกลุ่มคนไม่สำนึก ไม่เคารพกติกากฎเกณฑ์ สร้างให้เกิดวิกฤติรัฐธรรมนูญ การใช้กฎหมายอาญามาตรา 116 อ้างว่ากลุ่ม สว.ที่ได้การรับรองจาก กกต.แล้ว ไปยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบละเมิดกฎหมายบ้านเมือง คนที่ทำเรื่องนี้ไม่ใช่เรา แต่คือคนที่กล่าวหานำเรื่องไปสู่ดีเอสไอขัดขวางความมั่นคง บั่นทอนระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีปัญหาที่รัฐมนตรีต้องไปแก้ไขจำนวนมาก แต่กลับมาบั่นทอนฝ่ายนิติบัญญัติ ยุแยง ยั่วยุ ปลุกปั่นประชาชนให้ปั่นป่วน แสดงว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีการปกครองโดยใช้กฎหมาย แล้วจะใช้หลักอะไรบริหารประเทศยุยงปลุกปั่นทำประชาชนสับสนพ.ต.อ.กอบกล่าวอีกว่า กระบวนการนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้คนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่สามารถเข้ามาปกครองบ้านเมือง และให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ตอนนี้ประชาชนสับสนเพราะมีการยุยงปลุกปั่น โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือบิดเบือนอำนาจ กระบวนการนี้กำเริบเสิบสานขึ้นมาอีก ดังนั้น คนที่จะถูกตรวจสอบคือคนที่ไม่มีหน้าที่ แต่กลับก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ต้องถูกดำเนินคดีและตรวจสอบว่ามาอย่างไร มีองค์กรใดอยู่เบื้องหลังงัดอำนาจวุฒิฯ เอาคืนทุกวิถีทางขณะเดียวกันวุฒิสภาได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ยืนยันที่มา สว.มาโดยสุจริต ข้อกล่าวหาเป็นการกล่าวเท็จ เจตนาให้ร้ายทำลายวุฒิสภา มีอธิบดีดีเอสไอ และ รมว.ยุติธรรมเป็นตัวการ สว.จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ไม่ให้ถูกทำลายโดยการใช้อำนาจมิชอบจะดำเนินการกับบุคคลที่ทำให้วุฒิสภาเสียหายให้ถึงที่สุด สว.ทั้ง 200 คน ไม่มีพฤติกรรมเข้าข่ายองค์กรอาชญากรรม ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง และจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น เชิญมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องการตั้งกระทู้ถาม การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในวุฒิสภา การยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีอาญา ในกรณีที่พบมีเจตนาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง“ทวี” ลั่นมีหลักฐานล็อกฮั้ว 138 สว.ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวชี้แจงหลัง สว.ตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ดีเอสไอว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ ถ้าพบเป็นความผิดที่ทำเป็นกระบวนการ กระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ เป็นผู้ทรงอิทธิพล ดีเอสไอก็เข้าไปดำเนินการได้ ที่ผ่านมาดีเอสไอทำหนังสือถึง กกต.หลายครั้งว่ามีผู้มาร้องทุกข์การเลือก สว. มีการทำโพยทุจริต แต่ กกต.เพิ่งตอบกลับว่าต้องสอบสวนก่อนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. แต่ดีเอสไอจะไม่รับเรื่องไว้ไม่ได้เพราะมีผู้มาร้องทุกข์การเลือก สว. มีการทำโพยฮั้วกัน ผู้ร้องนำโพยตัวเลขมาให้ดูว่าหมายเลขต่างๆมีการฮั้วกัน พบว่าเป็น สว.อยู่ 138 คน ตัวสำรอง 2 คน การรับเป็นคดีพิเศษเป็นการพิสูจน์ว่า สว.ไม่ได้ทำผิด ดีเอสไอพร้อมให้ความยุติธรรม การสอบสวนต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทยมาให้การ ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนมาให้การแล้วว่า ถ้าไม่มีการฮั้วกันจะทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะลำดับไม่สลับกันเลย ตรงกับโพยเป็นเรื่องที่สงสัย ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมือง คณะกรรมการคดีพิเศษ มี 21 คน มาจากหลายองค์กร ทั้งอัยการ กฤษฎีกา นายกสภาทนายความ ไม่มีใครล็อบบี้ได้ ขณะนี้ยังไม่รู้จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่จะทำอย่างตรงไปตรงมายินดีให้ซักฟอกถ้า สว.ยังข้องใจพ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า หากประธานวุฒิสภา หรือ สว.ไม่สบายใจจะเชิญไปชี้แจงก็ได้ เพราะมีหลายคนที่ปรากฏชื่อเป็น สว.ใน 138 คน ให้พยานหลักฐานเป็นผู้กำหนด คนอยู่ต่างถิ่นต่างที่ของประเทศมารวม มานอนโรงแรมเดียวกันได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องมาตอบ ถ้า สว.จะยื่นอภิปรายดีเอสไอก็ยินดี ยืนยันการรับเป็นคดีพิเศษเป็นอำนาจดีเอสไอ ไม่ต้องรอ กกต. เพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับ ส่วนจะเรียก 138 คนที่ปรากฏชื่อเป็น สว.มาให้ข้อมูลหรือไม่ เป็นเรื่องพนักงานสอบสวนให้พยานหลักฐานกำหนด ไม่มีการกลั่นแกล้งดีเอสไอแทงลับด่วนที่สุดถึง กกต.วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่เอกสารลงเป็นเอกสารลับ ด่วนที่สุด ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งไปยัง กกต. กรณีมีการร้องเรียนการได้มาซึ่ง สว.ชุดปัจจุบันมีการฮั้ว โดย ร.ต.อ.วิษณุ ยิ้มตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ กองกิจการอำนวยความยุติธรรม เป็นผู้ลงนามถึงประธาน กกต. ลงวันที่ 3 ก.พ.2568 เอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้ อ้างถึงหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลับด่วนที่สุด ที่ ลต... ลงวันที่ 22 ม.ค.2568 ตามหนังสือที่อ้างถึงสำนักงาน กกต.ขอทราบรายละเอียด เกี่ยวกับคำร้องแต่ละคำร้องที่ดีเอสไอรับไว้ดำเนินการ รวมทั้งขอทราบว่าดีเอสไอดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว โดยขอให้ส่งข้อมูลภายในวันที่ 24 ม.ค. 2568 ดีเอสไอขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ 1.กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำร้องขอความเป็นธรรม จำนวน 3 คำร้อง พบว่ามีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ชอบธรรม พบข้อพิรุธในกระบวนการเลือก อาจมีกรณีความผิดต่อกฎหมาย ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครและคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ตรวจสอบยิบกระบวนการฮั้ว สว.เอกสารยังระบุอีกว่า อธิบดีดีเอสไอจึงมีข้อสั่งการลงวันที่ 14 ส.ค.2567 อนุมัติให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรมดำเนินการสืบสวน ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษมาตรา 23/3 วรรคสอง และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีการคัดเลือก สว.ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และประมวลกฎหมายอาญา อธิบดีดีเอสไอยังลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสืบสวน และทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน การบันทึกถ้อยคำพยานบุคคลการตรวจพิสูจน์ พยานหลักฐานทางดิจิทัล การตรวจสถานที่เกิดเหตุ สถานที่จัดฮั้ว สว. ตรวจสอบพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโพย สว. ตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการฮั้ว และผลการสืบสวนที่พิจารณาจากพยานหลักฐานในชั้นนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่ามีขบวนการในรูปแบบคณะบุคคล มีการจัดตั้งเครือข่ายขบวนการซึ่งปกปิดวิธีการ มีวัตถุประสงค์เพื่อฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ให้ได้มาซึ่ง สว.แฉละเอียดตั้งค่าหัว 4 พัน–1 แสนเอกสารระบุว่า โดยมีการวางแผนสลับซับซ้อน ทราบเฉพาะในกลุ่มขบวนการ กล่าวคือขบวนการจัดการให้มีผู้สมัคร สว.ในระดับอำเภอ สมัครกลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน ในระดับอำเภอ 928 อำเภอ (หลักเกณฑ์รอบเข้าเลือกได้ 5 คน) ทำให้บางจังหวัดมีผู้สมัครจำนวนมาก สำหรับค่าตอบแทนนั้น ระดับอำเภอ จำนวน 5,000 บาท ระดับจังหวัด จำนวน 10,000 บาท และระดับประเทศ จำนวน 40,000-100,000 บาท และถ้าได้ สว.มากกว่า 120 คน จะได้เพิ่ม จำนวน 100,000 บาท หลังจากวันที่ 16 มิ.ย.2567 ภายหลังผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด ขบวนการได้นัดหมายผู้สมัคร สว.ระดับประเทศ ไปจัดทำโพยฮั้ว สว.ใน จ.พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี และนครนายก ในวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 16.00 น. มีการจ่ายเงินสดเป็นมัดจำ จำนวน 20,000 บาท ส่วนที่เหลือได้รับภายหลังจาก กกต.รับรองผลเลือกแล้วผลตรงโพยฮั้วเป๊ะเข้าข่ายอั้งยี่จากการสืบสวนพบว่า โพยฮั้ว สว.มีหมายเลข จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน และในการเลือก สว.ระดับประเทศ พบว่าขบวนการจัดตั้งมีจำนวนผู้สมัครที่อยู่ในขบวนการประมาณ 1,200 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2567 เวลา 05.00 น. ขบวนการได้แจกเสื้อสีเหลืองให้กับผู้สมัคร สว.ระดับประเทศ และขบวนการได้อำนวยความสะดวกโดยจัดหารถตู้โดยสาร ส่งผู้สมัครเดินทางไปเมืองทองธานีเพื่อเลือก สว.ระดับประเทศ และผลการเลือก สว.ในรอบเช้า และรอบไขว้ เป็นไปตามโพยฮั้วทุกประการ พบว่าเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.จำนวน 138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน ดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 977 (3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) และความผิดฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินวางแผนซับซ้อนขอรับเป็นคดีพิเศษเอกสารระบุด้วยว่า เนื่องจากการกระทำความผิดของกลุ่มขบวนการในครั้งนี้ มุ่งหวังเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ กระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ กระทำผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ โดยทราบว่ามีการวางแผนมาตั้งแต่ก่อนเริ่มกระบวนการเลือก สว. ต่อเนื่องมาจนถึงภายหลังจากการเลือก สว.เสร็จสิ้นแล้ว มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งแยกหน้าที่ มีฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณการลงคะแนน ออกเป็นโพยฮั้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จำนวน สว.ตามที่ต้องการ เตรียมบุคคลที่มาลงคะแนนที่เรียกว่ากลุ่ม “พลีชีพ” ดังนั้นในการดำเนินการกับขบวนการดังกล่าวจึงต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษ อยู่ในเงื่อนไขตามกฎหมายที่ดีเอสไอจะรับดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษได้ ดีเอสไอจึงประสงค์รับดำเนินการสอบสวนในส่วนที่พบการกระทำผิดทางอาญาไว้ดำเนินการ เนื่องจากกลุ่มขบวนการมีการวางแผนที่สลับซับซ้อน กระทำการอุกอาจมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทราบอีกจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้วิธีการรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบร่องรอยการติดต่อสื่อสาร เส้นทางการเงิน สถานที่จัดประชุม วางแผน สถานที่พบปะติดต่อ พิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีที่เข้ามาร่วมสนับสนุนการกระทำความผิดบุคลากร–เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมดีเอสไอมีความพร้อมด้านบุคลากรและเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยี ที่จะใช้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบเครือข่าย และองคาพยพของกลุ่มขบวนการทั้งหมด นอกจากนี้พยานสำคัญอาจจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการให้ความคุ้มครองพยาน เพราะเหตุที่พยานอาจเกรงกลัวต่ออันตรายแก่ชีวิตร่างกาย ประกอบกับการกระทำผิดทางอาญาดังกล่าว กระทำต่อบทกฎหมายอื่น นอกจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต. จึงควรให้ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนดำเนินคดีอาญา ตามความผิดที่พบดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ทั้งนี้หาก กกต.พิจารณาแล้วมีความเห็นประการใด ดีเอสไอขอความอนุเคราะห์ กรุณาแจ้งยืนยันมาภายในวันที่ 10 ก.พ.2568 ว่ามีความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต.ประสงค์จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนเอง และความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต.ประสงค์จะให้ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน หรือ กกต.จะรับดำเนินการสอบสวนเองในการกระทำความผิดทางอาญาทุกข้อกล่าวหาทุกฉบับกฎหมาย หรือประสงค์จะให้ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการทุกข้อกล่าวหาและทุกฉบับกฎหมายสำนักงาน กกต.ทำไขสือไม่ชงเรื่องขณะที่สำนักงาน กกต. โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. มีหนังสือลงวันที่ 18 ก.พ. ถึงอธิบดีดีเอสไอ เรื่องแจ้งการรับเรื่องการกระทำความผิดตาม กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง อ้างถึงหนังสือดีเอสไอ ที่ ยธ 0824/4754 ลงวันที่ 25 ก.ย.2567 หนังสือสำนักงาน กกต. ลับ ด่วนที่สุด ที่ ลต 000004//464 ลงวันที่ 22 ม.ค.2568 และหนังสือดีเอสไอ ลับ ด่วนที่สุด ที่ ยธ 1824/0050 ลงวันที่ 3 ก.พ.2568 ที่ดีเอสไอแจ้งว่า มีผู้ยื่นขอความ เป็นธรรมต่อ รมว.ยุติธรรม และดีเอสไอ ให้ตรวจสอบการคัดเลือก สว. ที่มีกระบวนการ หรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จำนวน 3 คำร้อง ต่อมา มีหนังสือตามอ้างแจ้งข้อมูลว่าได้ดำเนินการสืบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 23/1 วรรคสอง และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำนักงาน กกต.ขอเรียน ว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าดีเอสไอ ได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้วหรือไม่ จึงยังไม่ได้เสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการ การเลือกตั้ง มาตรา 49นายกฯรับนักธุรกิจจีนเข้าคารวะเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ที่นำ คณะผู้แทนบริษัทจีนในประเทศไทย จากสมาคมการค้า วิสาหกิจไทย-จีน จำนวน 12 บริษัท ใน 6 สาขาหลัก ได้แก่ กลุ่มธนาคารและการเงิน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร กลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมพาณิชย์และการลงทุน เข้าเยี่ยม คารวะ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นโอกาสสำคัญในช่วงวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน ต้นเดือนที่ผ่านมาได้ไปเยือนจีน มีโอกาสพบผู้นำทั้ง 3 ระดับ ได้หารือสานความสัมพันธ์ในอนาคต ยืนยันรัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอแนะข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และรัฐบาลจะเร่งพัฒนาระบบนิเวศ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุน เช่น การพัฒนา บุคลากรให้มีทักษะรองรับเทคโนโลยีใหม่ ปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน“หาน จื้อเฉียง” ยาหอมขยายลงทุนนายหาน จื้อเฉียง กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯ พร้อมสะท้อนถึงความสำคัญต่อมิตรภาพไทย-จีน ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างความสำเร็จ ความผาสุก ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ ภาคธุรกิจจีนยินดี ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ขยายการค้าและ การลงทุนระหว่างไทย-จีน ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของความ สัมพันธ์ทางการทูต พร้อมยืนยันว่าบริษัทจีนในไทยพร้อมลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพที่จะขยายการลงทุนได้ในอีกหลายสาขารทสช.เห็นตรง พท.ส่งศาล รธน.วันเดียวกัน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติด่วนขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจรัฐสภาในการ ทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า พรรครทสช.ไม่ติด คิดว่าเป็นการดีให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสิ้นข้อสงสัยทุกฝ่าย ทำให้ การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง ดีกว่าดำเนินการ ไปแล้วมีความเสียหายเกิดขึ้น ทั้งเวลา งบประมาณ ทำให้การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมีทิศทางที่ชัดเจน และราบรื่น เป็นไปด้วยความรอบคอบ พรรค รทสช.พร้อมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ“ไพบูลย์” เย้ย พท.แค่เกมซื้อเวลานายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลัง ประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการซื้อเวลาของพรรค พท. เพื่อตอบคำถามกับประชาชน ที่เขาไปหาเสียงว่า ยังพยายามทำอยู่ ทั้งที่เรื่องนี้เคยยื่นไปแล้ว 2 ครั้ง อำนาจที่รัฐสภามีคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเท่านั้น ไม่ได้ให้อำนาจให้ยกเลิกทั้งฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกลับมาว่ารัฐสภามีอำนาจดำเนินการ แต่ต้องทำประชามติก่อน มันชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2564 มาในสมัยรัฐสภาชุดนี้ ก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกัน ศาลก็ตอบมา ว่า เป็นเรื่องที่เคยตอบไปแล้ว คือซ้ำกับเรื่องเดิม ครั้งนี้เช่นกันเชื่อว่าจะมีคำสั่งยกคำร้อง เพราะวินิจฉัยไปแล้ว สุดท้ายพรรค พท. หน้าแตกเหมือนเดิม คำถาม คือ ทำไมพรรค พท. ถึงพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่แก้รายมาตรา ทั้งที่ทำได้เลย นั่นเพราะ จะสามารถมั่วได้ โดยเฉพาะการสอดไส้เรื่องทำลายระบบองค์กรอิสระทิ้งทั้งหมด โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ร่างขึ้นมาใหม่ดีอีดันพนันออนไลน์เข้า ครม.เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้กฎหมายระดับรอง เพื่อรองรับให้มีพนันออนไลน์ถูกกฎหมายว่า คณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดีอี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ กำลังพิจารณา ว่าจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) หรือประกาศกฎกระทรวง ต้องทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มีเรื่องพนันบอล มวย ส่วนจะมีประเภทอะไรเพิ่มเติมยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากทั้ง 3 หน่วยงาน คุยกันเรียบร้อย ต้องยกร่างกฎกระทรวง หรือพระราชกฤษฎีกาขึ้นมา ยังมีอีกหลายกระบวนการ อาทิ การรับฟังความคิดเห็น ก่อนนำเข้า ครม. คาดว่าจะอยู่ช่วงเดือน เม.ย.นี้ เมื่อถามว่าสำนักงานกฤษฎีกามีข้อท้วงติงอะไรหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า อยู่ระหว่างการตีความคำนิยามบางคำ กฎหมายระดับรองนี้จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยไม่ต้องรอขั้นตอนการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การพนัน ที่กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอแก้ไข และต้องผ่านขั้นตอนของสภาจบดราม่าปราสาทตาเมือนธมที่กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 (พัน.ร.21 ฉก.2) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อม พล.ท.ปัญชลิทธิ์ ปิยมาตย์ รองหัวหน้าส่วนประสานงานศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกและคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ของกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ พร้อมเน้นย้ำให้เตรียมความพร้อมการ ใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุ จากนั้นตรวจภูมิประเทศและแนววางกำลัง ร่วมกับคณะหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ ระดับผู้บริหารกองทัพภาคที่ 2 (พสบ.ทภ.2) มอบของ บำรุงขวัญกำลังพล และมอบพระประธานทรงเครื่องจักรพรรดิให้กับหน่วยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และ พบปะพูดคุยกับ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พล.น้อย ร.42 เพื่อทำความเข้าใจต่อการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม อันทำให้ เกิดความไม่สบายใจต่อกัน มี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.กกล.สุรนารี นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รอง ผวจ. สุรินทร์ พ.ต.อ.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม รอง ผบก.จ.สุรินทร์ ผบ.ฉก.2 ให้การต้อนรับอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่