ดีเอสไอนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวน 25 คน พร้อมเครื่องมือไฮเทคสำรวจจุดเกิดเหตุคดีดัง “แตงโม” นักแสดงสาวชื่อดังตกเรือสปีดโบ๊ตดับ สแกนพื้นที่โดยรอบตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งทางอากาศ บนบก และใต้น้ำ 8 จุด สร้างแผนที่สามมิตินำข้อมูลไปวิเคราะห์กับพยานหลักฐานในคดี ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญกว่า 10 สถาบัน ระบุพบจุดที่น่าสงสัยอีกหลายแห่งเตรียมตรวจสอบเพิ่มอีกรอบ ด้าน พ.ต.ต.ณฐพลเผยอีกประมาณ 2 สัปดาห์ผลการวิเคราะห์จะออกมา พร้อมนำข้อมูลคดีไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศดีเอสไอหิ้วเครื่องมือไฮเทคสำรวจจุดเกิดเหตุ “แตงโม” ตกเรือสปีดโบ๊ต เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ก.พ. คณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีสืบสวนที่ 20/2568 โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ นำคณะพนักงานสืบสวนจำนวน 25 คน ที่เชี่ยวชาญในด้านการสืบสวนสอบสวน ด้านนิติวิทยาศาตร์ ด้านแผนที่ภูมิศาสตร์และหน่วยปฏิบัติ การพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ กรณีคดีดัง น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดในพื้นที่ จ.นนทบุรี หลังมีผู้ร้องให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี มีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษพ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า คณะพนักงานสืบสวนสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้องหลายปาก และมีข้อมูลจากกลุ่มภาคประชาชน รวมทั้งภาคประชาชนร้องขอให้ดีเอสไอตรวจที่เกิดเหตุจำนวน 8 จุด วันนี้คณะพนักงานใช้เครื่องมือพิเศษกล้องสแกน 3 มิติและหน่วยปฏิบัติการพิเศษลงตรวจพื้นที่ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาโดย ใช้เรือสักชนะปฏิบัติการ 5 ลำ เริ่มตรวจตั้งแต่เรือเกิดเหตุแล่นไปตามเส้นทางตามค่าพิกัด GPS โดยใช้เครื่องมือโซนาร์ตรวจใต้น้ำดูกายภาพของแม่น้ำ เช่น ทราย ดิน กรวด ความลึก กระแสน้ำ เป็นต้น ใช้เครื่องสแกนเนอร์ตรวจพื้นที่สภาพทางกายภาพบนฝั่งริมแม่น้ำตลอดเส้นทาง ดีเอสไอได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยในปฏิบัติการครั้งนี้ นอกจาก 8 จุดนี้ จากการสอบปากคำพยานในคดีพบว่ามีอีกหลายจุดที่น่าสงสัย เมื่อได้เป้าหมายทั้งหมดแล้ว คณะพนักงานสืบสวนที่ลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จะลงพื้นที่เก็บรายละเอียดจุดที่น่าสงสัยที่สุดอีกครั้ง เพื่อใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ค้นหาความจริงพ.ต.ต.ณฐพลกล่าวต่อว่า ผลของการลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ คณะพนักงานสืบสวนเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์กับ 1.รายงานการตรวจศพ และภาพถ่ายศพ คณะพนักงานสืบสวนได้เชิญแพทย์ทางนิติเวชไม่ต่ำกว่า 10 สถาบัน มาร่วมในการวิเคราะห์ 2.คลิปวิดีโอที่ได้จากหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ส่งให้ภาควิชาภาพและเสียงของมหาวิทยาลัยตรวจสอบและวิเคราะห์ผล 3.การใช้โทรศัพท์ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการขอตรวจสอบจากผู้ให้บริการอยู่ และ 4.โทรศัพท์ที่ได้มาจากบังแจ๊ค ที่อ้างว่าเป็นของแตงโม อยู่ระหว่างที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการตรวจสอบ จากนี้ใช้ระยะเวลาในการประมวลผลในการสำรวจเส้นทางเรือจากระบบโซนาร์ประมาณ 2 สัปดาห์“ช่วงเช้าตรวจสอบพื้นที่สำคัญ เช่น ท่าทราย และวัดค้างคาว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงบางอย่าง ส่วนช่วงบ่ายจะตรวจสอบอีก 4 จุด รวมถึงบริเวณโรงแรมที่พนักงานสอบสวนสงสัย หากพบข้อสงสัยให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ เก็บตัวอย่างน้ำจากจุดต้องสงสัย เพื่อตรวจสอบว่าตรงกับน้ำที่พบในปอดของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ทำให้ช่วยระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมกับรายงานการตรวจศพ เพื่อหาข้อสรุปว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ หากดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ดีเอสไอจะพิจารณาขั้นตอนต่อไปในการสืบสวนคดีนี้” พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวด้านนายไกศรี สว่างศรี ผอ.ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ กล่าวว่า การตรวจสอบใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสร้างแบบจำลองพื้นที่เกิดเหตุ ใช้อุปกรณ์สำคัญ ได้แก่ โดรนติดเซ็นเซอร์สำหรับสแกนพื้นที่และบันทึกภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงเลเซอร์สแกนที่ติดกับเรือเพื่อตรวจสอบภูมิประเทศใต้น้ำ ข้อมูลที่ได้นำมาสร้างแผนที่ 3 มิติ สามารถใช้วิเคราะห์เส้นทางเดินเรือ กระแสน้ำ และปัจจัยทางฟิสิกส์ต่างๆ นอกจากนี้ มีเรือสำรวจที่ใช้โซนาร์ในการเก็บข้อมูลใต้น้ำตรวจสอบว่าพื้นที่จุดเกิดเหตุ การลงพื้นที่ในวันนี้แบ่งออกเป็น กลุ่มกรมชลประทานสแกนพื้นที่ใต้น้ำตั้งแต่จุดเกิดเหตุใน จ.ปทุมธานีจนถึงสะพานพระราม 8 ส่วนอีกกลุ่มสแกนภูมิประเทศทั้งหมด รวมถึงใช้โดรนบันทึกภาพเสมือนจริงที่สามารถสร้างข้อมูลพิกัดเป็นจุด x, y, z ได้เป็นร้อยล้านจุดต่อรอบ นับเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในการสืบสวนคดีอาชญากรรมต่อมา เวลา 09.30 น. พ.ต.ต.ณฐพลพาสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ตออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรก เจ้าหน้าที่เริ่มสแกนพื้นที่บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับบริษัทพูนพิพัฒน์จำกัด นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS ของเรือ จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพานพระราม 7 จอดเรือบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา คณะพนักงานสอบสวนใช้เครื่องมือสแกนบริเวณพื้นที่โดยรอบ และสแกนหาวัตถุใต้แม่น้ำ บริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกนทั้งทางอากาศและทางน้ำ เป็นจุดที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโมทางด้านคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือสำรวจทั้ง 8 จุด เวลา 13.00 น. คณะพนักงานสืบสวนสอบออกเรืออีกรอบ มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือลอดใต้สะพานพระนั่งเกล้า สะพานพระราม 4 สะพานปทุมธานี 2 และสะพานปทุมธานี 1 มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารครัวบ้านตานิด เส้นทางเดินเรือยึดตามข้อมูล GPS เรือเกิดเหตุ จากจุดบ้านเรือเล็กไปถึงร้านอาหารครัวบ้านตานิด ระยะทางประมาณ 30 กม. บริเวณร้านอาหารที่กลุ่มคนบนเรือแวะกินอาหาร มีการใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่งสแกนพื้นที่โดยรอบ และพื้นที่บริเวณท่าเรือริเวอร์เดลใน จ.ปทุมธานี อุปกรณ์ที่ใช้มี 3 ส่วน คือ เครื่องโซนาร์สำรวจใต้น้ำ โดรนเก็บภาพและโดรนเลเซอร์สแกนต่อมา พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวหลังตรวจพื้นที่เสร็จว่า ข้อมูลที่ได้จากการใช้โซนาร์ เช่น จุดที่ตกน้ำ บาดแผลที่ขาโดนใบพัดจริงหรือไม่ บริเวณที่ตกมีสิ่งก่อสร้างใดที่ทำให้ขาศพเป็นแผลหรือไม่ บริเวณร้านอาหารบ้านตานิดเป็นจุดน่าสงสัยที่เรือมีการชะลอ ได้เก็บน้ำในบริเวณนี้ไปตรวจพิสูจน์ ส่วนเรื่องการรับเป็นคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการ หลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ต่างๆจะออกได้ภาพออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน จากนั้นนำข้อมูลไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ ในวันที่ 20 ก.พ. ตนจะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมคดีหนึ่ง พร้อมนำผลการสอบคดีแตงโมไปปรึกษาด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่