กรณีอื้อฉาวฮั้วเลือกตั้ง สว.เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง มีผู้สมัคร สว.นำหลักฐานการบล็อกโหวตเลือกกันเองไปร้อง กกต.ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แต่ กกต.ยังเป็นไก่ตาฟาง ยังสอบไม่พบหลักฐานการฮั้วเลือกตั้งเสียทีด้วยเหตุนี้ กลุ่ม สว.สำรอง ซึ่งมี พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวขบวน จึงนำเรื่องไปร้อง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมดีเอสไอพร้อมนำหลักฐานการฮั้วเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่ม และโพยลับที่สั่งให้ผู้สมัคร สว.ต้องกาเบอร์เลือกผู้สมัครเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งทำให้การเลือกตั้ง สว.ชุดปัจจุบันไม่สุจริตเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ“แม่ลูกจันทร์” สรุปแบบง่ายๆ คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.จะถูกผ่าแยกออกเป็น 2 คดีคดีที่กลุ่มผู้สมัคร สว.ไปยื่นคำร้อง กกต.ให้สอบสวนคดีบล็อกโหวตลงคะแนนเลือกกันเอง (ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของ กกต.) ก็ปล่อยให้ กกต.ดำเนินการสอบสวนต่อไปกกต.จะสอบสวนอีกนานแค่ไหนก็แล้วแต่พระเดชพระคุณส่วนคดีที่กรมดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ (ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจดีเอสไอ)จะเน้นความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ข้อหาร่วมกันวางแผนให้การลงคะแนนเลือก สว.ไม่สุจริตเที่ยงธรรม “ซึ่งเป็นคดีอาญา”และการจ้างให้ผู้สมัคร สว.ในเครือข่ายลงคะแนนฮั้วกันเองก็เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งสอบสวนดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการฮั้วเลือกตั้ง สว.ชุดปัจจุบันให้ได้ข้อยุติภายใน 6 เดือน!!“แม่ลูกจันทร์” มองว่าหลักฐานการฮั้วเลือกตั้ง สว.ที่อยู่ในมือดีเอสไอ มีทั้งหลักฐานเอกสาร และพยานบุคคลเช่นการนัดหมายไปประชุมวางแผนการบล็อกโหวตเลือกผู้สมัครในเครือข่ายเดียวกัน ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับชาติหลักฐาน “โพยลับ” ที่สั่งการให้ผู้สมัคร สว.แต่ละคนต้องลงคะแนนอย่างไรและหลักฐานการนัดหมายให้ผู้สมัครในเครือข่ายไปพักค้างคืนในโรงแรมแห่งเดียวกันเพื่อซ้อมคิวล่วงหน้าก่อนวันลงคะแนนจริงคดีนี้ดีเอสไอดำเนินการแบบเงียบๆลึกๆ แต่มันจึ๊กๆถึงกระดองใจโดยดีเอสไอได้รวบรวมหลักฐานไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์มีทั้งกลุ่มผู้วางแผน ผู้สั่งการ ผู้ประสานงาน และผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในโพยฮั้วเลือกตั้งทุกรายเป้าใหญ่คือ กลุ่ม สว.สีนํ้าเงินที่ยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในวุฒิสภาเป็นผู้มีอำนาจสำคัญในการให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นกรรมการองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช.และ กกต.มีอำนาจขัดขวางไม่ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อประกาศใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการมีอำนาจควํ่าร่างกฎหมายประชามติ ทำให้การลงประชามติรัฐธรรมนูญต้องลากยาวไปอีก 180 วัน“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.ในมือดีเอสไอจะจบอย่างไร??สาธุชนโปรดติดตามต่อไปไม่เกิน 6 เดือนต้องร้องอื้อฮือกันล่ะโยม.แม่ลูกจันทร์คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม