พท.ดิ้นหนีภาพผู้ร้ายเบี้ยวแก้รัฐธรรมนูญ “สุทิน” อ้างจำใจยื่นตีความผ่าทางตันปมทำประชามติ รอคำตอบให้ชัดถามประชาชน 2 หรือ 3 ครั้ง ก่อนถกพรรคร่วมฯจะได้เดินถูกทางไม่เสี่ยงขัดกฎหมาย ตอกเหตุผลอ่อนไปไล่ยุบสภา “อนุสรณ์” ยันแค่เห็นต่าง ไม่ใช่ขัดแย้ง รัฐบาลไปต่อครบ 4 ปีแน่ “วรชัย” วอน ภท.ปรับท่าทีเพื่อให้งานรัฐบาลราบรื่น “ไหม” เผยฝ่ายค้านจ่อยื่นซักฟอกเชือด รมต.รายบุคคล จัดหนักจัดเต็มระดมกว่า 20 ขุนพลดาหน้าถล่มแบบไม่ซ้ำ ชิลๆ ป.ป.ช.เรียกรับทราบข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมเสนอแก้มาตรา 112 “หมออ๋อง” ลั่นไม่ผิด ไม่ขอความเมตตา “นายกฯอิ๊งค์” ปลื้มไม่เลิกผลงานเยือนแดนมังกร โอ่จีนสนใจขอข้อมูลเชื่อมต่อ “แลนด์บริดจ์”พรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามชี้แจงต่อสังคม ถึงการเสนอญัตติให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความประเด็นการทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องทำ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง โดยนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าเป็นการผ่าทางตันคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ยังคลุมเครือให้ชัดเจน เพื่อปฏิบัติได้ถูกต้อง“สุทิน” แจงผ่าทางตันตีความประชามติเมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พท.หลังองค์ประชุมล่มเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ.ว่า เมื่อค้างอยู่ในสภาเป็นเรื่องที่ดีที่เราทำสำเร็จ ต่อไปจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ได้ เพราะเป้าหมายต้องการผ่าทางตันคำวินิจฉัยที่ยังคลุมเครือ จึงต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ฝ่ายกฎหมายร่างญัตติไว้แล้ว จะยื่นได้ต้องรอให้ประธานนัดประชุมอีกครั้งก่อน เพราะต้องเป็นมติที่ประชุมร่วมรัฐสภา ญัตติของพรรค พท. คงไม่แตกต่างจากญัตติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.มาก แต่ยื่นได้ถ้ามีน้ำหนัก คงต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง แต่คุยแล้วเขาจะเป็นอย่างไรเป็นสิทธิของเขา หรือแม้กระทั่ง สว.ต้องทำความเข้าใจกับเขาด้วย เพื่อให้เข้าใจเจตนาของเรา เชื่อว่าจะเป็นผลดี เมื่อถามว่าขณะนี้เสียงพรรครัฐบาลดูไม่เป็นเอกภาพกังวลหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่เป็นเอกภาพจริง เพราะมองและตีความคำวินิจฉัยไปคนละทาง แต่เมื่อเราจะใช้วิธียื่นตีความต่อไปได้เดินหน้าแบบไม่พะวักพะวง ใช้วิธีนี้เชื่อว่าทุกพรรคไม่มีอะไรเสีย มีแต่ประโยชน์ ผู้คนจะเข้าประชุมได้โดยไม่พะวงมั่นใจข้อมูลชัดพรรคอื่นร่วมด้วยเมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว จะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นให้เห็นด้วยได้ใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ใช่ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่ารัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องทำประชามติก่อน สิ่งที่ไม่ชัดเจนคือต้องทำประชามติกี่ครั้ง บางพรรคจึงมองว่าสิ่งที่เรากำลังพิจารณาอาจผิดหรือขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราเห็นว่าทำประชามติ 2 ครั้ง จึงจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจน เพื่อทำให้พรรคอื่นเห็นว่าทำประชามติ 2 ครั้งเพียงพอแล้วมาร่วมกับเรา แต่หากศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง จะได้ถอยกลับมาเริ่มต้นใหม่ ไปทำประชามติก่อน พรรคร่วมรัฐบาลจะได้เห็นว่าทำประชามติก่อนแล้วหากเป็นเช่นนี้เขาร่วมด้วย นี่เป็นสิ่งที่เราคาดหวัง เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านได้ นายสุทินกล่าวว่า ใช่ เพราะเมื่อมีความชัดเจนเราจะได้ปฏิบัติถูก คือการปฏิบัติที่ไม่เสี่ยงต่อข้อกฎหมาย พรรคอื่นเขาจะร่วมด้วยเหตุผลอ่อนไปจะให้ รบ.ยุบสภาเมื่อถามถึงกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงเรียกร้องให้นายกฯยุบสภา เนื่องจากไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ นายสุทินกล่าวว่า เหตุผลยังไม่ถึงระดับนั้น การยุบสภาเขาจะยุบต่อเมื่อรัฐบาลกับสภามีความขัดแย้งจนไม่สามารถเดินหน้าได้ แต่ตอนนี้เรื่องอื่นเขาร่วมมือกันเต็มที่ จะนำเหตุผลนี้เรียกร้องให้ยุบสภาเป็นเหตุผลที่อ่อนไป ยังเชื่อมโยงได้ไม่เนียนพอ เรื่องนี้คงไม่มีอะไรกระทบเป็นวงกว้างถึงเสถียรภาพของรัฐบาล จนทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมันไม่ใช่ ยุบสภาไม่มีเหตุผลเพียงพอ เรื่องอื่นๆ รัฐบาลร่วมกันทำงานได้ปกติ เพียงเรื่องรัฐธรรมนูญที่เขาไม่ร่วมมือ นั่นเป็นเพราะความคลุมเครือของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแค่นั้นเอง แต่หากตีความชัดแล้วคิดว่าเขาให้ความร่วมมือยันเห็นต่างในสภาฯไม่ใช่ขัดแย้งนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์ วิจารณ์ความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในรัฐสภาว่า ความเห็นต่างในสภาฯเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ขอยืนยันว่ารัฐบาลยังคงทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ แม้มีความเห็นต่างระหว่างพรรคเพื่อไทยแกนนำกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งสำคัญจนถึงวันนี้รัฐบาลยังบริหารและขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรรค พท.ยังคงเป็นพรรคแกนนำหลัก ขับเคลื่อนนโยบายการทำงาน ขอย้ำว่าการอภิปรายหรือการโหวตในสภาฯที่เห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นความขัดแย้งรุนแรงภายในรัฐบาล จนไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ฉะ “ธนดล” คลุมเครือ “อนุทิน” เสียหายนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนัก นายกฯ สมาชิกพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กำลังตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ไปออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ครอบคลุมสนามกอล์ฟของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ว่า นายอนุทินอธิบายว่า เป็นธุรกิจครอบครัวได้มาถูกต้อง นายธนดลยอมรับว่า ที่ดินที่ออกให้ประชาชนในนิคมสร้างตนเอง ประชาชนที่ถือครองมาแล้ว 5 ปี ออกโฉนดที่ดินได้ จะตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ทำไป แต่ไม่มีเหตุผลไปพูดให้คนสงสัยว่า ที่ดินที่ตรวจสอบอยู่เป็นสนามกอล์ฟของนายอนุทิน กรมที่ดินระบุที่ดินที่ออกตาม น.ค. 3 ของนิคมสร้างตนเอง นำมาออกโฉนดที่ดินได้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน คือโฉนดที่ดินที่ออกตามกระบวนการนี้ออกมา โดยชอบ นายธนดลพูดทั้งเรื่องถูกต้องและไม่ถูกต้องปะปนคราวเดียวกัน แถลงข่าวให้สังคมสับสนและมอง นายอนุทินในทางเสียหาย ว่าที่ดินสนามกอล์ฟได้มา โดยชอบหรือไม่ มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นายธนดลย่อมเล็งเห็น ส่อทำให้นายอนุทินเสียหายทั้งทางส่วนตัวและการเมือง“ไหม” เผยจ่อยื่นซักฟอกรายบุคคลน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรค ปชน.ว่า ตอนนี้ประเด็นและตัวบุคคล หรือขุนพลที่ทำหน้าที่ซักฟอกนิ่งแล้ว มีการซักซ้อม รีวิว ตรวจสอบข้อมูลกันอยู่ ขุนพลที่พรรค ปชน.เตรียมเอาไว้ประมาณกว่า 20 คน จะไม่มีการพูดเรื่องเก่าๆ เดิมๆซ้ำซาก ตามที่ฟากรัฐบาลออกมาพูดก่อนหน้านี้แน่นอน เราจะอภิปรายเฉพาะรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน ขุนพลพรรค 20 กว่าคน จะพูดแต่ละคนไม่ซ้ำกันแน่ ปล่อยทางรัฐบาลปลอบใจตัวเองไปว่าอภิปรายเรื่องเก่าหรือน้ำท่วมทุ่ง เราจะรักษามาตรฐานเรา เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ น่าจะสามารถคาดหวังได้ว่าพูดเรื่องเหล่านี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจขุนพลกว่า 20 ชีวิตจัดหนักจัดเต็มน.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า รอบนี้เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งในวันนี้ (16 ก.พ.) เป็นวันนัดส่งญัตติซักฟอกของแต่ละพรรคให้วิปฝ่ายค้าน นอกจากนี้ โดยจะใช้เวลาในการเรียบเรียงญัตติใหม่ของทุกพรรคให้สอดคล้องกับผู้อภิปรายของทุกพรรค และรวบรวมรายชื่อ จากนั้น น่าจะได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาฯ ไม่เกินวันที่ 27 ก.พ.แน่นอนเฉยๆ ป.ป.ช.เรียกรับทราบข้อหาน.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงกรณีอดีต สส.พรรคก้าวไกลได้รับหนังสือจาก ป.ป.ช.เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงฯ กรณีลงชื่อเสนอแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ก็ความรู้สึกหรือฟีลตนแบบเดียวกันกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต สส.พรรค ก.ก. ชิลๆ เฉยๆมาก สู้ตามกระบวนการได้แน่นอน มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ ป.ป.ช.กล่าวหาว่าอะไรก็ตาม การยื่นแก้กฎหมายมันไม่มีทางเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรงได้อยู่แล้ว และกรณี ป.ป.ช.ยังคงเป็นชั้นเริ่มต้นมากๆที่จะเริ่มกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา เราต้องไปแก้ข้อกล่าวหา กว่าจะยื่นศาลต่างๆ กระบวนการยังจะต้องสู้กันอีกไกลไม่กังวลคนมีปมจริยธรรมมาสอบ สส.เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงประธาน ป.ป.ช.ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ และเริ่มกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า กระบวนการเริ่มต้น ก่อนประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ จะรับตำแหน่งด้วยซ้ำไป เราเห็นว่ามีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นประธาน ป.ป.ช.คนไหน เราไม่กังวลใจ “เราเข้าใจว่า ประธาน ป.ป.ช.เองก็น่าจะต้องเตรียมสู้คดีของตัวเองอยู่เหมือนกัน ใช่ไหม” เมื่อถามต่อว่ากังวลหรือไม่กับประธานป.ป.ช.คนใหม่ที่น่าจะกำลังมีประเด็นปัญหาจริยธรรมเหมือนกัน แต่จะมาเป็นประธาน ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 44 อดีต สส.พรรค ก.ก. น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ แต่คราวนี้ฝั่งประธาน ป.ป.ช.เองอาจจะยังไม่ได้มีการเริ่มต้นกระบวนการที่ชัดเจน ในการที่เขาต้องโดนสอบจริยธรรมเหมือนกัน แต่ว่าของพรรค ปชน.เราอาจเริ่มไปก่อน ให้เป็นไปตามกระบวนการดีกว่า ไม่มีความกังวลอะไรใดๆเลย“หมออ๋อง” ลั่นไม่ผิดไม่ขอให้เมตตาวันเดียวกัน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ (X) ระบุว่า ถูก ป.ป.ช.เชิญไปรับทราบข้อกล่าวหา กระทำการจงใจฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่า ผมได้รับเอกสารให้ไปรับข้อกล่าวหาแล้วครับ ราวกับเป็นคนชั่วมาก ผิดร้ายแรงทีเดียว ถามว่ารู้สึกยังไง จะสู้ยังไง ชี้แจงไปตามเรื่องครับ ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่กลัว ไม่ขอความเมตตา ไม่ต้องอ้อมค้อม กฎหมายมีปัญหา ก็ต้องแก้ได้ ด้วยกระบวนการนิติบัญญัติปกติ ก็เท่านั้นเองครับ“โรม” โวยมีคนถอนตัวศึกอภิปรายที่ อ.แม่สอด จ.ตาก นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.ให้สัมภาษณ์ว่า ภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช. คือเคลียร์ตัวเอง วันนี้ยัง เคลียร์ไม่ได้ และอาจมีความผิดต่างๆนานาเกี่ยวกับเรื่อง ทุจริต มีความชอบธรรมอะไรมาทำหน้าที่ตรงนี้ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นถึงประธาน ป.ป.ช. ตัวท่านเองจะอยู่แบบนี้เงียบๆ ต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเรื่อง เงียบไปเองหรือ ทั้งนี้ ไม่เข้าใจทำไม ป.ป.ช.ต้องรีบ ขนาดนี้ เราพร้อมไปชี้แจงอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าเสียสมาธิในการเตรียมอภิปราย ต้องมานั่งคิดเรื่องคดีความ บางคนต้องถอนตัวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พวกเรา ต้องโฟกัสเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ และคดีความอีกมันกินพลังไปมากแล้ว แต่ถ้าตัวเลขฝ่ายค้านลดลงมีผลต่อการตรวจสอบแน่นอน ส่วนจะ กระทบถึงเลือกตั้งปี 2570 หรือไม่ ยังไม่อยากประเมิน ยังไม่รู้ผลจะจบอย่างไร แต่ตอนนี้ยังทำหน้าที่อยู่ปชป.ฝาก 6 โครงการ ครม.สัญจรนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ. ที่ จ.สงขลา ว่า ยินดีและพร้อมต้อนรับ ครม. สัญจรทั้งคณะ เป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาภาคใต้ให้เป็นรูปธรรมได้ จ.สงขลา มีหลายโครงการที่ต้องการเร่งรัด อาทิ 1.โครงการพุทธมณฑลสงขลา ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 ยังไม่เสร็จ 2.โครงการเติมทรายชายหาดสมิหลา-หาดชลาทัศน์ จัดสรรงบฯไว้ 269 ล้านบาท แต่คืบหน้าเพียง 10% 3.โครงการขยายโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงสงขลากับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหลักของประเทศ ช่วง อ.หาดใหญ่-อ.สะเดา จ.สงขลา 46 กิโลเมตร ที่ศึกษาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับจัดสรรงบฯ 4.โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสงขลา รองรับระบบเศรษฐกิจทางน้ำเชื่อมต่อเศรษฐกิจโลก ไร้ความชัดเจนทิศทางและงบฯ 5.โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ (ถนนวงแหวนรอบเมืองหาดใหญ่ ด้านตะวันตกและตะวันออก) 4 ช่องจราจร คืบหน้าน้อยมาก 6.การยกระดับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่รองรับนักท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถทางวิ่ง ปรับปรุงและก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ การขยายลานจอดอากาศยานและอาคารคลังสินค้าใหม่ อาคารสนับสนุน พร้อมลานจอดรถยนต์โดยสาร อาคารศูนย์รักษาความปลอดภัย ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบสื่อสารและระบบเก็บขยะนายกฯตอกย้ำผลงานเยือนจีนเมื่อเวลา 08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ โดยมีเนื้อหาสรุปว่า การไปเยือนครั้งนี้ได้พบผู้นำจีนทั้ง 3 ระดับ คือ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี นายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาฯ และนายหลี่ เฉียง นายกฯน่าภูมิใจที่ได้พบผู้นำทั้ง 3 ระดับในครั้งเดียว ได้หารือถึงการส่งมอบหมีแพนด้ายักษ์ 2 ตัวมาไทย กำลังดำเนินการอยู่ สิ่งที่จีนตื่นเต้นกับเราคือครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน มีการสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษาในหลวง ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยและย้ำว่ามีความปลอดภัย สำหรับความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ทั้ง 2 ประเทศพูดคุยอย่างจริงจัง ประธานาธิบดีจีนชื่นชมไทยที่จัดการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด และจะตั้งทีมทํางาน 2 ทีมเพื่อช่วยกันเรื่องนี้ จีนประสงค์จะช่วยมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ขอแค่การตั้ง 2 ทีมที่จะสั่งการได้รวดเร็ว มี รมว.ต่างประเทศช่วยกํากับดูแลพูดคุยของทั้ง 2 ทีม ให้พูดคุยแล้วหาข้อสรุปได้ทันที เป็นประโยชน์ และปัญหานี้ต้องลดลงและเห็นผลอย่างรวดเร็ว ฟุ้งจีนสนใจเชื่อมต่อแลนด์บริดจ์น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังร่วมมือด้าน “ซอฟต์พาวเวอร์” ระหว่างกัน เช่น มวยไทย ร้านอาหารไทย ว่าจะทำอะไรกับจีนได้บ้าง สินค้าเกษตรของไทยจะให้จีนกับไทยร่วมกันกำหนดมาตรฐาน กระทรวงเกษตรฯจะรับไปดำเนินการต่อ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอกว่าชอบทุเรียนหมอนทองและมะม่วงพอได้ยินอย่างนั้นดีใจ และยังมีรถไฟความเร็วสูง หากเสร็จทั้งจีน ลาว ไทย จะส่งสินค้าได้รวดเร็ว และยังส่งทุเรียนหมอนทองไปมอบให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ ขณะที่โครงการแลนด์บริดจ์ จีนได้สนใจเช่นกันต้องการให้เกิดขึ้น จะมีการเชื่อมกันและจีนได้ขอข้อมูลผลการศึกษาโครงการ เนื่องจากจีนเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการดังกล่าว จะเกิดผลดีทั้งจีนและประเทศเพื่อนบ้าน เราตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นฮับโลจิสติกส์ สร้างโอกาสการจ้างงานและการซื้อขายสินค้า อีกทั้งยังได้เชิญชวน บริษัท Xiaomi ให้มาสร้างโรงงานผลิตรถ EV ที่ประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานในประเทศ อีกทั้งยังได้เซ็น MOU 14 ฉบับ สื่อจีนให้ความสนใจและได้ประโยชน์ อาทิ ข้อมูลออนไลน์ต่างๆที่จะแชร์ ร่วมกันระหว่างไทยกับจีน สแกมเมอร์ ข้อมูลการ พัฒนาต่างๆ เช่น เครื่องมือทางการเกษตรจัดเสื้อบาติกสมิหลาให้ ครม.ใส่น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ (ครม.สัญจร) วันที่ 18 ก.พ. จ.สงขลาเตรียมมอบเสื้อผ้าบาติกลายสมิหลา กลุ่มมีนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลาให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ ครม.สวมใส่ในวันประชุม ครม. ผ้าบาติกลาย สมิหลาได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ที่ชายหาดสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเช็กอินไม่ขาดสาย กลุ่มมีนาทับที่ออกแบบผ้าผืนนี้ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการประกวดผ้าบาติกระดับประเทศ 3 ปีซ้อน“ไทยก้าวหน้า” นัด 22 ก.พ.ขับ “ปูอัด”วันเดียวกัน นายวัชรพล บุญมงคล หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึง การพิจารณากรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ที่ถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับฐานข่มขืนกระทำชำเราสาวชาวต่างชาติว่า กรรมการบริหารพรรคนัดประชุมวันที่ 22 ก.พ. เพื่อพิจารณากรณีสภาฯจะมีมติส่งตัวนายไชยามพวานไปดำเนินคดีตามหมายจับหรือไม่ และพิจารณาจะขับนายไชยามพวานออกจากพรรคหรือไม่ หากชัดเจนต้องขับ แต่ต้องรวบรวมข้อมูลและให้ชัดเจนก่อน ต้องฟังกรรมการบริหารพรรค จากนั้นจึงมาแสดงจุดยืนหรือแถลงอีกครั้ง ตั้งแต่เกิดเรื่องนายไชยามพวานไม่เคยมาชี้แจง ไม่ได้ขอโทษต่อพรรค เขาเก็บตัวจนถึงขณะนี้ยังโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ยอมรับมีกรรมการบริหารพรรคบางส่วนไม่พอใจลาออกไปบ้างอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่