ฉีกบทบาทมาเสิร์ฟหนังรอมคอมต้อนรับเดือนแห่งความรัก นักแสดงหนุ่มฝีมือดี โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ทุ่มเต็มร้อยใน “สวัสดีวันจันทร์(ส)” ภาพยนตร์ติดลูปโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องแรกจากค่าย “เนรมิตรหนัง ฟิล์ม” ผลงานของผู้กำกับ ก่อ–ชาคร ไชยปรีชา ประกบคู่นางเอกสาวขี้เล่น พีพี–ปุญญ์ปรีดี ร่วมด้วย ปูน มิตรภักดี, วิคเตอร์–ชัชชวิศ และ เบล–วริศรา สร้างสีสัน เข้าฉาย 20 ก.พ.นี้ ในโรงภาพยนตร์ เลยชวน โอบ มานั่งคุย เริ่มจาก...เล่าบทบาท “เอิร์ธ” ในเรื่อง “สวัสดีวันจันทร์(ส)” หน่อย?“บทพี่เอิร์ธปี 8 ไม่ค่อยเอาไหนไม่เอาถ่านอะไรสักอย่างแต่มีความน่ารักอย่างเดียว ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรก็แค่ใช้ชีวิตไปวันๆไม่ต้องดิ้นรน ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไร จนมาเจอน้องคนนึงชื่อสายไหม รับบทโดย พีพี เราก็รู้สึกว่าเฮ้ย! ชอบน้องคนนี้จัง แต่ว่าน้องเค้าก็ดูมีความป๊อป แต่ด้วยความที่เรามันเป็นไอ้ห่วย เราจะพยายามจีบเค้า จะทำยังไงให้ได้ใจเค้าสักที วันนึงได้มีโอกาสได้คุยกับน้องเค้า ก็รู้สึกว่าน้องเค้ามีความฝัน เราอยากจะช่วยเค้าให้ไปถึงฝันนั้นจัง เค้าอยากสอบได้คะแนนดีๆ เราก็ช่วยโกงข้อสอบให้เค้า หาวิธีใหม่ๆในการไปจีบเค้า ในเรื่องจะได้เห็นวิธีการที่เอิร์ธเข้าไปจีบคนนี้เป็นยังไง และมีเหตุการณ์ที่ทำให้วันวนลูป ถึงแม้วันนี้เราทำอะไรผิดพลาดไปเราแค่หลับตื่นเช้าขึ้นมามันก็เป็นวันจันทร์เหมือนเดิม เป็นลูปเดิม” คือเป็นลูปวันจันทร์ไปเรื่อยๆ?“ใช่ครับ วันจันทร์ไปเรื่อยๆ 88 รอบ จนมาถึงวันที่หลุดออกจากลูปไปแล้ว ที่นี้ล่ะเรื่องราวที่เราไปสร้างไว้อะไรต่างๆก็พังหมดเลย เช่น ไปทำให้ตัวเองมีฐานะ ไปยืมเงินเพราะเรารู้ว่าหมดวันแล้วมันก็จะกลับมาใหม่ เต็มที่เละเทะและเป็นยังไงต่อต้องไปติดตาม”อะไรที่น่าสนใจทำให้อยากเล่นเรื่องนี้?“ผมรู้สึกว่าการติดลูปแล้วเราต้องเล่นอะไรแบบเดิมๆ หรือว่าการที่ต้องเล่นอะไรแบบเรารู้อยู่แล้ว แล้วเราก็ต้องทำเป็นเหมือนไม่รู้ มันค่อนข้างยากในการที่เราจะคอนทินิวอารมณ์ตัวละคร เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นแต่เรารู้หมดมันก็ยากนิดนึง มันต้องทำการบ้านว่าเอ๊ะนี่ลูปที่ 40 แล้วนะ มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างแล้ว เราทำอะไรไปแล้วตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 10 กว่าบ้าง เวลาถ่ายก็ไม่เรียงกัน ก็ยาก แต่สนุกดี และเรื่องนี้ถือว่าเป็นรอมคอมเรื่องแรกที่เป็นหนัง ผมไม่ค่อยได้เล่นหนังคอมเมดี้”แต่นักแสดงบางคนบอกว่ายิ่งเล่นตลกยิ่งยาก?“ยากนะ ผมว่ามันเป็นเรื่องของเซ้นส์ด้วยแล้วมันเป็นเรื่องของการที่เราต้องสังเกตการณ์อยู่ตลอดว่าอะไรที่เราเล่นได้อะไรที่เล่นไม่ได้ แต่หนังเรื่องนี้คือพี่ก่อ ผู้กำกับเค้าให้อิสระในการเล่นมากเลย บางทีโอบเติมอะไรไปหรือนักแสดงเติมอะไรไป ซื้อหมด” จะได้เห็นโอบนิธิในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน?“คิดว่านะ คือโอบรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้คนจะคิดว่ามันเป็นรอมคอม มีความเป็นแบบโรแมนติกคอมเมดี้ แต่จริงๆตัวละครทุกตัวมันซีเรียสหมด เพราะความซีเรียสของมันนี่ล่ะเลยทำให้หนังเรื่องนี้มันดูตลก มันดูเฮฮา”แล้วตัวเราในการถ่ายทำหนักอย่างไร?“หนักในที่นี้คือเราถ่ายไม่เรียงกันอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของนักแสดงที่จะต้องเรียงลำดับว่าเออเนี่ยลูปนี้มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว สมมติว่าอย่างเช่นวันนี้ถ่ายทำลูปที่ 30 เราก็ต้องมานั่งดูว่าลูปที่ 1-ลูปที่ 29 เราติ๊กเหตุการณ์อะไรไว้บ้างแล้ว แต่อย่าลืมนะมันมีไฮไลต์สำคัญ ความตลกของหนังเรื่องนี้คือถ่าย 20 คิว มีโอบ 20 คิวเลยตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงประมาณ 4 ทุ่ม มีโอบทุกวัน แล้วความตลกของมันคือสิ่งที่ทำให้ผมเกลียด 3 อย่าง ก็คือการอินเสิร์ตมือถือ พอมันเป็นวนลูปมันก็จะวนลูปซ้ำมาก มันก็จะใช้เวลาในการถ่าย อีกอันนึงก็คือกินน้ำ มีซีนปาร์ตี้เราต้องกินน้ำแล้วพอมันอยู่ในลูปมันก็กินตลอด กินเยอะมาก อันที่ 3 คือวิ่ง ลูปนี้ก็ต้องวิ่งลูปหน้าก็ต้องวิ่ง วิ่งวนไปเรื่อยๆ เข็ดเลยกับ 3 สิ่งนี้”ความสนุกของหนังเรื่องนี้?“มันน่าสนุกตรงความจริงจังของตัวละคร หนังมันจะสนุกตรงที่เอ๊ะถ้าไอ้เด็กคนนี้มันทำเรื่องไม่ดีไว้ แล้วมันถูกหลุดออกจากลูปมันจะแก้ปัญหานี้ยังไง ผมตื่นเต้นนะอยากนำเสนออะไรใหม่ๆให้กับคนดู อยากให้หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่จะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่ปลอบประโลมใจในช่วงเวลาที่เครียดๆให้มีความสุข”พอเราได้เป็นเอิร์ธ เอิร์ธได้ให้อะไรกับเราในแง่คิดการใช้ชีวิต?“เยอะเลย คำว่า สวัสดีวันจันทร์ เหมือนเวลาผู้ใหญ่เค้าชอบส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีวันจันทร์ แม่จะชอบส่งมาแล้วเราจะไม่ค่อยสนใจ บางครั้งมันเป็นความสุขของคนบางคนเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แต่เรากลับมองข้ามมัน บางอย่างอาจจะทำมันได้แค่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ ถ้ามีโอกาสแล้วทำไมเราถึงจะไม่ทำมัน วันหนึ่งที่เรามามองย้อนกลับไปเราอาจจะรู้สึกว่าเสียดาย”ชีวิตช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?“โอเคนะ เป้าหมายปีนี้อยากจะมีเวลาได้พาครอบครัวไปเที่ยวมากขึ้น พอเวลาเราทำงานเพลง งานแสดงด้วย เราอยากเอาเวลาไปทำนี่ทำนั่นแต่บางทีเราอาจจะลืมให้ความสำคัญกับตัวเองหรือให้ความสำคัญกับครอบครัวในการที่จะพาเค้าไปเที่ยว จริงๆเราเจอเค้าทุกวันนะ แต่ว่าเราแค่อาจจะไม่ได้มีเวลาไปพักผ่อนกันหรือว่าไม่ได้มีเวลาพาเค้าไปตามสถานที่ต่างๆ อยากให้เวลาครอบครัว ให้เวลาตัวเอง”ปีที่แล้วแปลว่าก็จัดหนักงานแน่น?“ใช่ คือหวงมาก ปีที่แล้วเหมือนเป็นบ้าในการหวงการทำงาน หวงเวลา เช่น มีเพื่อนชวนไปเที่ยว ปีนี้โอบจะบอกว่า พ.ค.โอบจะล็อกไปเที่ยวจะไม่ทำอะไรเลย แต่ว่าถ้าเป็นปีที่แล้วก็จะรู้สึกว่า พ.ค.จะมีปล่อยเพลง ทำเพลงหรือถ่าย MV หรือเปล่ายังไม่แน่ใจเลย รู้สึกหวงช่วงเวลาส่วนนั้นนิดนึง ปีนี้จะพยายามหาช่วงเวลาพักเบรกบ้าง ส่วนเรื่องงานปีนี้น่าจะมีเพลง คาดว่าน่าจะมี 3 เพลง โตขึ้นในเส้นทางการเป็นศิลปิน ปีที่แล้วปล่อย 4 เพลง เยอะมาก เกือบตาย ปีนี้เราอยากจะละเอียดกับมันแล้วก็ใจเย็นๆ แล้วค่อยปล่อยเพลง แต่การแสดงก็ยังไม่ทิ้ง ปีนี้น่าจะมี 2 เรื่อง อยากจะบาลานซ์ตัวเองให้ได้ ทำอะไรทุกอย่างออกมาโอเคพอเราอายุเยอะขึ้นเราไม่สามารถถ่ายละครหรือว่าทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน” ด้านความรักกับสาว เลดี้ปราง-กัญญ์ณรัณ ก็ดูเป็นรักที่ส่งเสริมกัน?“ส่งเสริมนะ ถือว่าไปในทางที่ดี จริงๆก็ผ่านมา 1 ปี ก็ถือว่ามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะ มันก็คือมีจุดที่ทำให้ต้องเรียนรู้ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยมีโอกาสทะเลาะกันเลย เค้ามีความโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วพอเราคุยกัน เราคุยกันด้วยเหตุผล อะไรที่ชอบหรือไม่ชอบก็บอกกัน มันเป็นการพูดกันตรงๆมากกว่า รู้สึกว่าก็ดีที่มีแต่คนยินดี มีแต่คนชอบ ถ้าไม่มีทุกๆคนก็คงอาจจะไม่มีวันนี้ เวลาที่ต่างคนต่างทำงานเราส่งเสริมกันเป็นปรึกษากันในเรื่องงานค่อนข้างเยอะ เค้าก็เป็นศิลปินที่เริ่มมาพร้อมๆ กับเราเหมือนกัน”ยอมรับว่าคลั่งรักมั้ย?“ถ้าถามว่าคลั่งมั้ย ผมว่าปกตินะ (ยิ้ม)”ยังไม่เคยทะเลาะกันเลยจริงๆ?“ไม่ค่อยมี ไม่งอนด้วย แต่จริงๆตอนนี้คือเราพยายามอยากจะแต่งเพลง ทำเพลงออกมา ไม่ว่าจะเป็นเพลงรักหรือว่าเป็นเพลงเศร้าก็อยากจะให้คนเข้าใจแล้วก็เข้าถึงได้ หลายๆคนอาจจะมองว่าทำไมถึงมาแต่งเพลงเศร้าทั้งๆที่ชีวิตรักก็ดูดี แต่บางทีคนเราอาจจะเคยมีประสบการณ์ อาจจะเล่าด้วยเรื่องของเค้าเองหรือว่าเค้าอาจจะเล่าเรื่องของคนอื่นก็ได้ แค่อยากจะให้คนหลายๆคนหรือว่าบทเพลงนี้มันเป็นเพลงที่อยู่เคียงข้างเค้าในวันที่เค้าอยากได้กำลังใจ ถึงแม้ว่าเราแต่งเพลงรักออกมาไม่ได้แปลว่าเราแต่งเพลงให้เค้าคนเดียว”จากหลายๆสัมภาษณ์ เราเป็นคนตั้งใจที่จะให้ความสำคัญซึ่งกันและกัน?“ผมก็ให้ความสำคัญกับคนรอบๆตัวผม จริงๆแล้วชีวิตผมไม่ได้มีเพื่อนเยอะ คนที่อยู่กับเราอยู่ข้างๆตัวเรา เราก็เลยจะให้ความสำคัญกับเค้า อย่างที่เคยพูดไปตั้งแต่แรกๆว่าโอบเป็นคนที่ไม่ได้สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเองขนาดนั้น เรารู้สึกว่าถ้าเราทำให้เค้าเกิดความสุข เราถึงจะมีความสุข ไม่ใช่แค่เค้าคนเดียวคนรอบตัวโอบก็เหมือนกัน” การมี “เลดี้ปราง”อยู่ในชีวิตมันดีกับเรายังไง?“จริงๆมันก็มีความสุข หมายถึงว่าการที่มีเค้ามาอยู่ในชีวิตมันฟูลฟีลอะไรบางอย่างกับจิตใจเรา รู้สึกแค่ว่าวันนึงที่เราไม่ได้อยากจะสื่อสารอะไรกับใคร แค่อยากมีคนรับฟัง มีคนที่ไม่ต้องพูดอะไรเค้าก็เข้าใจเราแค่นี้ก็พอแล้ว”คุยกันได้ทุกเรื่อง?“ใช่ จริงๆมันมีหลายโหมด หมายถึงว่าเป็นที่ปรึกษาของกันและกันมากกว่า เรียกว่าเป็นความสบายใจ รู้สึกว่ามันมีน้อยนะที่เราจะสามารถคุยกับใครสักคนนึงได้เกือบทุกเรื่องจริงๆ”อยากให้ความรักครั้งนี้มันเดินไปแบบไหน?“ไม่คาดหวังเลย ผมจริงจังกับทุกๆความสัมพันธ์เสมอแหละ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานหรือเรื่องต่างๆในชีวิต คือเคยคาดหวังแล้วผิดหวังก็เลยรู้สึกว่าให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า.”เรื่อง: สุภลััคน์ วุฒิกรีธาชัยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม