“สุวัจน์” ทำบุญเบิร์ธเดย์ 70 ปี แกนนำพรรค ร่วมรัฐบาลแห่อวยพรคึกคัก โอ่เสถียรภาพรัฐบาลยังแน่นปึ้ก มีบ้างลิ้นขบฟันเล็กๆน้อยๆ เคลียร์กันได้ ไม่สะเทือนงานสภาฯ-ศึกซักฟอก แนะปิดจุดอ่อนเร่งเครื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ “ทักษิณ” ควบเบนท์ลีย์หรูมอบของขวัญ ขอสามัคคีช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง บอก “นายกฯอิ๊งค์” ยันยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม. ไม่มีโยกสลับ “ธรรมนัส-นฤมล” ไม่ห่วงฝ่ายค้านลากปมชั้น 14 รพ.ตำรวจขึ้นเขียงเชือด แจง “ยิ่งลักษณ์” จ่อกลับไทยช่วงสงกรานต์ ต้องรอดูความเหมาะสม “พิชัย” การันตีไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก ลุยแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ให้ทันสิ้นเดือน ก.พ. “อนุทิน” ลั่นเขย่า ครม.ฟังนายกฯคนเดียว อวยผู้นำมุมมองดีมาก อยากให้งานต่อเนื่อง มั่นใจผ่านฉลุยด่านซักฟอกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมใจกันเข้าร่วมงานทำบุญเลี้ยงพระและอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่บ้านถนนราชวิถี กทม. รวมทั้งนายกทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยืนยันไม่กังวลที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงปลายเดือน ก.พ.“สุวัจน์” เบิร์ธเดย์ 70 ปีคึกคักเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 ก.พ.ที่บ้านเลขที่ 333 ถนนราชวิถี 20 กทม. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี มีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธาน โดยมีสมาชิกในครอบครัว นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ชทพ. นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค ชพน. พร้อมนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ บิดา น.ส.ปัทมรัตน์ พหิทธานุกร ภรรยา ของนายพสุ ลิปตพัลลภ ลูกชายนายสุวัจน์ พร้อมทั้งบรรดานักการเมืองทยอยเดินทางมาร่วมงานคึกคัก เจ้าภาพได้มอบพระหลวงพ่อคูณรุ่นสร้างบารมี 67 พร้อมจีวรเขียนยันต์ลายมือหลวงพ่อคูณเป็นที่ระลึก โดยสมเด็จธงชัยให้พรว่า “อายุ 70 ปีแล้ว ขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยทุกอย่างที่ปรารถนา และประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ นายสุวัจน์อุ้ม “น้องอธิ” ด.ช.อิทธิพุธ ลิปตพัลลภ บุตรชายของ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ บุตรสาวคนเล็ก มาโชว์สื่อด้วยโอ่ รบ.แน่นปึ้กแนะเร่งเครื่องแก้ ศก.ต่อมาเวลา 10.30 น. นายสุวัจน์ให้สัมภาษณ์ว่า ปีนี้ครบ 70 ปี มีประสบการณ์การเมืองมา 38 ปี บทบาทการเมืองเป็นมาเยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่ง ขอให้ได้ใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือประเทศ ไทยได้ ยินดีให้คำแนะนำปรึกษา ต้องรวมพลังระหว่างประสบการณ์กับความทันสมัยของนักการเมืองรุ่นใหม่ หากรวมพลังกันได้เชื่อว่าประเทศฝ่าฟันวิกฤติไปได้ จุดแข็งรัฐบาลชุดนี้คือเสถียรภาพ 322 เสียง กับ 171 เสียงมากกว่าฝ่ายค้านเกินกึ่งหนึ่ง มีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คะแนนค่อนข้างปลอดภัย การออกกฎหมายต่างๆไม่น่ามีปัญหา เสถียรภาพรัฐบาลในสภาฯแน่นปึ้กไม่มีปัญหา แต่ต้องคอยดูแลเสถียรภาพนอกสภาฯ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ต้องแก้ไขให้เรียบร้อย จุดที่ยังไม่แข็งต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา คือเศรษฐกิจต้องเร่งเครื่อง นายกฯได้กำชับการทำงานและเศรษฐกิจต่างๆ นายกฯเป็นคนรุ่นใหม่ทันสมัย มีประสบการณ์การเมืองจะนำพาแก้ไขปัญหาได้ลุล่วง ขอเป็นกำลังใจให้ในฐานะนักการเมือง และพร้อมช่วยสนับสนุนภารกิจของนายกฯลิ้นกับฟันมีเล็กน้อยเคลียร์กันได้นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนนี้ยังไม่ทราบจะยื่นอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง แต่มั่นใจว่าเสถียรภาพและการทำงานพรรคร่วมรัฐบาลยังเรียบร้อยดี ที่มองว่าพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันลักษณะตบจูบ การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคถือว่าเป็นลิ้นกับฟันและเท่าที่ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆไม่มีอะไรเป็นความรุนแรงและไม่เข้าใจกัน มีแค่เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เคลียร์กันได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะไปกระทบกับเสถียรภาพและการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ“ทักษิณ” มอบของขวัญร่วมอวยพรต่อมาเวลา 11.25 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั่งรถเบนท์ลีย์ สีน้ำตาลเลือดหมู ทะเบียน ภภ 2492 กรุงเทพมหานคร คันใหม่ เลขทะเบียนตรง ปี พ.ศ.เกิดของนายทักษิณมาร่วมงาน มีนายสุวัจน์ สมาชิกพรรค ชทพ.พร้อมครอบครัว ให้การต้อนรับ ทันทีที่ลงจากรถนายทักษิณมอบของขวัญวันเกิดให้นายสุวัจน์ ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มอบอะไรให้ นายทักษิณตอบว่า “มอบของขวัญเล็กๆน้อยๆ เพราะท่านมีทุกอย่างแล้ว” และเดินทักทายคนในครอบครัวนายสุวัจน์ ลูบหัว ด.ช.อธิ หลานนายสุวัจน์ ด้วยความเอ็นดู แล้วนั่งพูดคุยกับนายสุวัจน์ช่วงหนึ่งว่า ยินดีกับนายสุวัจน์ที่มีหลานเป็นคุณตาแล้ว ช่วยเพิ่มประชากร ขณะที่นายสุวัจน์พูดติดตลกว่า “ท่านมาอวยพรวันเกิดผมทีไร มีปรับ ครม.ทุกที” นายทักษิณถึงกับหัวเราะบอกว่า “อย่าเป็นประเด็น”ขอทุกฝ่ายสามัคคีช่วยกันเพื่อบ้านเมือง“ขออวยพรนายสุวัจน์ให้สุขภาพแข็งแรง ตอนนี้เป็นคุณตาแล้ว และอีกไม่กี่วันจะเป็นคุณปู่ ความสุขที่สุดยอดคือการมีหลาน ขอให้มีความสุข ช่วยกันเพื่อบ้านเมืองต่อไป” ก่อนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ขอให้ ช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองจริงๆแล้วบ้านเราต้องการความสามัคคี ความเข้มแข็ง เป้าหมายเพื่อบ้านเมืองและประชาชนไม่ว่าใครทั้งสิ้น ถึงเวลาทำงานร่วมกันต้องทุ่มเท ปัญหาบ้านเราวันนี้คือต้องการความทุ่มเทและเสียสละและความสามัคคี” นายทักษิณกล่าวบอก “อิ๊งค์” ยันยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม.จากนั้นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คุย กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ประจำ ทราบว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะเนื่องจากว่าทุกคนยังทำงานกันได้ด้วยดี มีติดขัดเล็กๆน้อยๆ แต่ยังเตือนกัน ให้คำแนะนำกันได้ ยังไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้ปรับ ครม. นายกฯต้อง พิจารณาหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องภายในพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรคที่ต้องการปรับต้องดูจังหวะ ต้องปรับด้วยกัน ไม่ใช่แค่ปรับแค่คนหรือ 2 คน นอกจากจะมีตำแหน่งว่างหรือลาออกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากไม่ใช่เงื่อนไขนี้เชื่อว่านายกฯจะไม่มีการปรับไม่มีโยกสลับ “ธรรมนัส–นฤมล”เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคกล้าธรรม(กธ.) ต้องการเปลี่ยนให้ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคมาแทนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ นายทักษิณกล่าวว่า คงยังไม่มี เพราะนางนฤมลและ ร.อ.ธรรมนัสปรึกษากันอยู่ตลอด เมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัสเหมาะสมที่จะเข้ามาช่วยงานรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่มีการหารือกัน เมื่อถามว่า หากนายกฯต้องการจะปรับ ครม.ต้องมีปรึกษากับท่านก่อนหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เห็น มีอะไรก็พูดคุยกัน แต่อำนาจทั้งหมดเป็นของนายกฯ เมื่อถามว่า ของขวัญที่มอบนายสุวัจน์ในวันเกิดวันนี้ ใช่ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณหัวเราะก่อนกล่าวว่า เผอิญตนไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นพ่อนายกฯเมินฝ่ายค้านลากปมชั้น 14 พาดพิงผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจพาดพึงมาถึงว่า เข้าไปในสภาไม่ได้ แต่อาจไปอยู่หลังสภา คอยตอบให้ ใครสงสัยมาถามได้ท่าจะดีเหมือนกัน หากพาดพิงจริงก็ตอบได้ ให้มาถามแล้วกัน จะตอบรูปแบบใด ไม่มีอะไรต้องกังวล สบายๆ ไม่มีอะไรกังวล เมื่อถามว่าต้องติวให้นายกฯ ที่ยังไม่เคยผ่านเวทีอภิปรายหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า วันนี้นายกฯผ่านมาเยอะแล้ว โดนมาเยอะแล้ว สบายๆ เป็นหน้าที่คนเป็นนายกฯต้อง คอยตอบคำถาม ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตั้งคำถาม เรามีหน้าที่ตอบ ไม่มีอะไร ในฐานะพ่อ ไม่กังวล มั่นใจ เมื่อถามว่าจะนำเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ มาอภิปราย อาจนำไปสู่การเมืองนอกสภา นายทักษิณตอบว่า ไม่มีอะไรให้กังวลเหน็บไม่รู้จัก “พล.ต.อ.หญิง”เมื่อถามกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเอกสารลับชั้น 14 ให้ผู้นำฝ่ายค้าน นายทักษิณตอบว่า “ผมเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่ พล.ต.อ.ที่เป็นผู้ชาย พล.ต.อ.ผู้หญิงผมไม่รู้จัก” เมื่อถาม พล.ต.อ.หญิงหมายความว่าอย่างไร นายทักษิณตอบว่า “พล.ต.อ.หญิงไม่มี เลยไม่รู้จัก รู้จัก แต่ พล.ต.อ.ชาย” เมื่อถามย้ำว่าที่ระบุว่า พล.ต.อ.หญิง หมายถึงใคร นายทักษิณตอบว่า ไม่รู้ ในประเทศไทยมีแต่ พล.ต.อ.ชาย ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น เมื่อถามว่าหมายถึงคนที่ยื่นเอกสารให้ผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า “ไม่รู้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย” เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับผู้ที่ยื่นเอกสารให้ผู้นำฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้เคยร่วมรัฐบาล นายทักษิณตอบว่า เคยมีสัมพันธ์ที่ดี ขอตอบแค่นี้ เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายค้านย้ำข้อมูลอภิปราย ทั้งฝุ่น กาสิโน ตัดไฟเมียนมาจะทำให้รัฐบาลสะเทือนได้ นายทักษิณตอบว่า รัฐบาลมีหน้าที่ตอบ ฝุ่นมีมานาน ไม่ใช่จะหายชั่วข้ามคืน เรามีมาตรการออกมาเรื่อยๆ“ปู” กลับไทยรอดูความเหมาะสมผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ นายทักษิณกล่าวว่า ยังต้องดูเรื่องความ เหมาะสม เมื่อถามถึงปัจจัยที่ยังทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเดินทางกลับไม่ได้ นายทักษิณตอบว่า มีหลายปัจจัย เมื่อถามว่าเดินทางกลับมาทันภายในปีนี้หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า กำลังดูอยู่ ความจริงเขาอยากกลับ ตั้งแต่เมื่อวานหารือ “นาโอมิ” เทรนนางแบบไทยเมื่อถามถึงการเชิญนาโอมิ แคมป์เบลล์ นางแบบ ระดับโลกมาหารือ นายทักษิณตอบว่า เมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ. ได้พูดคุยเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ มี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแลการพัฒนาชุมชนและกองทุนหมู่บ้าน จะให้เด็กรุ่นใหม่ในชนบท หรือครอบครัวคนไม่ค่อยมีฐานะเปลี่ยนแปลง หรือไป ศัลยกรรมได้มีโอกาสเข้ามา เท่าที่คุยนาโอมิเห็นด้วย เพราะเขามาจากครอบครัวจาไมกา และได้พูดคุยแนวทางคัดคน ให้นางแบบประเทศไทยเทรนก่อน แล้วส่งไปเรียนต่างประเทศ เพื่อให้โอกาสมากขึ้น ได้เชิญนาโอมิมาเป็นที่ปรึกษาในฐานะที่รู้จักและมีประสบการณ์อยู่ในวงการนี้มานาน มีสายสัมพันธ์มาก เลยขอคำปรึกษาแนะนำอีก 2 วันลงตัวตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาตินายทักษิณกล่าวต่อว่า กรณีจดหมายเปิดผนึก กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมที่คัดค้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่เห็นเนื้อหาที่ชัดเจน แต่รู้สึกว่าจะมีการตำหนิผู้นำ เท่าที่ได้สอบถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง การตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เห็นว่าอีก 2 วันจะลงตัว เป็นกลไกที่ต้องให้แบงก์ชาติและรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังเสนอ และให้คณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานในคณะกรรมการ ธปท.ไปเลือก เมื่อถามว่าคุณสมบัติประธานบอร์ดแบงก์ชาติที่เหมาะสม นายทักษิณกล่าวว่า ต้องมีความสัมพันธ์และมีความรู้ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า รมว.คลังจะเสนอใคร เมื่อถามว่าในใจมองว่าใครเหมาะสม นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้พูดตรงๆ คนที่จะมาทำงาน ให้ประเทศโดยส่วนรวมหายาก เพราะว่า 1.ต้องมีความพร้อม 2.ต้องมีความเสียสละ บางคนอาจพร้อมแต่ไม่เสียสละ บางคนอยากเสียสละแต่ไม่พร้อม วันนี้พยายามหาผู้คนมาช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองค่อนข้างยาก อาจเป็นเพราะตนแก่ไปแล้ว ไม่รู้จักคน เพราะหายไป 17 ปี ขาดการต่อเนื่องในการรู้จักคน อาจมองไม่ค่อยออกแต่ว่าต้องช่วยๆกันมอง“ประเสริฐ” ระบุนายกฯ แปลกใจข่าวนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม. ว่า ไม่ทำให้เสียขวัญ นายกฯให้สัมภาษณ์แล้วว่าไม่มีการปรับแน่นอน อยากให้ทุกคนทำงาน คิดว่าเป็นไป ตามนั้น นายกฯ เองแปลกใจ เพราะคนปรับ ครม. คือ ท่านเอง ถ้าคนอื่นไปพูดจะดูฟังแล้วแปลกๆ กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรไม่ทราบ“พิชัย” บอกไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม. ว่า ยังไม่มีการเปลี่ยน แปลง ตนมีหน้าที่ต้องทำงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ต้องการให้เศรษฐกิจกลับมา หนี้ครัวเรือนกรอบมานาน การลงทุน การจ้างงาน เพื่อไปสู่การแก้ไขเศรษฐกิจต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ เราอาจต้องทำอะไรบางอย่าง เศรษฐกิจต้องอาศัยกำลังคน เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจเคยรุ่งเรืองมาก่อน โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั่วโลกเขาไปดิจิทัลอีโคโนมี ทุกอย่างไป ทางดิจิทัลหมด ทุกอย่างรอบตัวเราเป็นดิจิทัลทั้งหมด แปลว่าต้องทำให้คนในประเทศคุ้นเคยกับการขับเคลื่อน เศรษฐกิจด้วยดิจิทัล เบื้องต้นความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 อยู่ระหว่างพัฒนาระบบคืบหน้า เยอะแล้ว ระบบเรียบร้อยดีแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ทันสิ้น ก.พ.เมื่อถามว่าการทดสอบทันสิ้นเดือนนี้หรือไม่ นายพิชัยตอบว่า เบื้องต้นทดสอบระบบย่อยไปบ้างแล้ว และยังมีอีกหลายระบบ เช่น ระบบการจ่าย ระบบ การตั้งค่าแอปพลิเคชัน จึงค่อยๆทดสอบเรื่อยๆ ย้ำว่า ระบบไม่ได้เสร็จวันเดียว เมื่อถามว่ากรณีปรับเปลี่ยนเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด หากระบบทำไม่ทัน นายพิชัยยืนยันว่า ต้องทำให้ทัน เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจแจกเป็นเงินดิจิทัลหรือไม่ นายพิชัยตอบว่า ควรเป็นอย่างนั้น พยายามแจกเงินให้ได้ในไตรมาส ที่ 2 เพราะระบบต้องทำให้เรียบร้อยและปลอดภัย เมื่อถามย้ำว่า การจ่ายเงินดิจิทัลในเฟส 3 เปลี่ยนเป็นการจ่ายเงินสด นายพิชัยกล่าวว่า ยังมองไม่เห็นว่าจะต้องใช้วิธีนี้“อนุทิน” ชี้ปรับ ครม.ฟัง “อิ๊งค์” คนเดียวขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ว่า นายกฯยืนยันว่ายังไม่มีเรื่องการปรับ ครม. เรื่องนี้ต้องถามนายกฯคนเดียว ถามคนอื่นไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์และอำนาจนายกฯเพียงคนเดียว เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรค กธ.ต้องการขอปรับให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา อดีต รมว.เกษตรฯกลับมาเป็นรัฐมนตรี นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล แต่การตัดสินใจและพิจารณาเป็นเรื่องของนายกฯ หากจะมีการปรับส่วนใหญ่จะแจ้งพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าจะปรับให้ส่งชื่อให้นายกฯพิจารณางดวิจารณ์ “ธรรมนัส” คัมแบ็กเมื่อถามย้ำว่า หากเป็นชื่อ ร.อ.ธรรมนัสเกรงจะมีปัญหาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ผมเอาตัวผมให้รอดก่อน” พรรค ภท.ยืนยันสนับสนุนรัฐบาลและนายกฯให้ทำภารกิจประสบความสำเร็จ เรื่องปรับ ครม.เอาไว้ให้ได้รับแจ้งมาก่อน ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งอะไรมา นายกฯพูดชัดเจนว่าเพิ่งทำงานมา 5 เดือนกว่า และอยากให้ทำงานต่อเนื่อง และไม่อยากให้พูดเรื่องปรับ ครม.บ่อย เพราะผู้ถูกกล่าวถึงและคนถูกวิเคราะห์หรือประเมินโดยสื่อหรือใคร อาจไม่สบายใจและทำงานลำบาก อาจทำให้การสั่งการราชการต่างๆ ไม่กล้าทำงานเต็มที่ นายกฯมีมุมมองที่ดีมากและแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของท่าน เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุยังมีรัฐมนตรีบางคนที่ยังรำวงอยู่ นายอนุทินกล่าวว่า พอดีอยู่เมืองจีนยังไม่ได้ยินพร้อมสู้ศึกซักฟอกมั่นใจผ่านชัวร์นายอนุทินกล่าวต่อว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หยิบยกเรื่องการตัดไฟ ที่ดินเขากระโดงและสนามกอล์ฟอัลไพน์มาเป็นประเด็น เป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 62 เป็นมา 6 ปี ไม่โดนอภิปรายแค่ปีเดียว เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่พยายามจะซักฟอก เราชี้แจงไปถ้าทำด้วยความสุจริตใจก็ชี้แจงได้ สมัยก่อนมีเรื่องวัคซีนและโควิด-19 ชี้แจงและได้รับความไว้วางใจมาตลอด เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมั่นใจว่ามีข้อมูลสะเทือนรัฐบาลแน่นอน นายอนุทินกล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าผมตอบได้แน่นอน และมั่นใจว่าจะได้ความไว้วางใจจากพรรครัฐบาลแน่นอน”“เอกนัฏ” ยันไร้สัญญาณเขย่า ครม.ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม.ที่มีชื่อพรรค รทสช.อยู่ด้วยว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณมา ทุกวันนี้นายกฯกำชับให้ทำงานเต็มที่ ความสัมพันธ์ในพรรค รทสช.แน่นมาก ไม่รู้สึกกวนใจใดๆ ตนและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน เมื่ออยู่ในตำแหน่งพร้อมทำงานเต็มที่ ไม่บริหารงานบริหารชีวิตด้วยความกังวลใดๆ อำนาจปรับ ครม.ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรี ที่ฟังดูนายกฯชัดเจนว่า ครม.ทำงานด้วยกันอย่างดี งานในหน้าที่ตนและนายพีระพันธุ์ได้รับการสนับสนุนจากนายกฯทุกเรื่อง พรรค รทสช.ยังไม่คิดถึงเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง มีแต่กำชับในพรรคให้ทำงานเต็มที่ ต้องตั้งสติให้ดี อยู่กับปัจจุบัน ทำงานให้เต็มที่ ทำให้ดีทุกวัน แค่นี้เอง คิดมากไปกว่านี้เครียดไปเปล่าๆ“ก่อแก้ว” ซัดพวกต้านแก้ รธน.วันเดียวกัน นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันที่ 13 ก.พ. จะประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอโดยพรรค พท.และพรรคประชาชน (ปชน.) หลังกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญถูกขัดขวางต่อเนื่องจากบางพรรคและบางกลุ่มที่พยายามยื้อเวลา ข่มขู่ สร้างอุปสรรคไม่ให้เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญปัจจุบันถูกออกแบบมาให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งอ่อนแอ ถูกโค่นล้มได้ง่าย ส่งผลให้การพัฒนาประเทศเป็นไปได้ยาก การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีเป้าหมายให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ข้อเสนอพรรคพท.ให้ยกเว้นการแก้ไขหมวด 1 ว่าด้วยรูปแบบการปกครอง และหมวด 2 ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ไล่พรรคร่วมฯขวางคลองถอนตัว“การประชุมรัฐสภาพิจารณาการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้อาจเผชิญอุปสรรค มีบางพรรคและ สว.บางส่วน ประกาศคัดค้านตั้งแต่ต้น โดยยังไม่ได้พิจารณาเนื้อหาร่างแก้ไข การผลักดันให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา เป็นนโยบายสำคัญพรรค พท. หากพรรคร่วมรัฐบาลใดเลือกคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญนโยบายหลักรัฐบาล เท่ากับต้องการดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ปฏิเสธภารกิจสำคัญที่ต้องร่วมกันขับเคลื่อน ขอแนะนำให้ถอนตัวจากการเป็นัฐบาล”นายก่อแก้วระบุชวน สส.–สว.ร่วมสร้างกติกา ปท.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า การพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 13-14 ก.พ. ข้อถกเถียงของสังคมต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 เรื่องหลักคือเนื้อหาและที่มา ในส่วนเนื้อหาพรรค พท.เคยยื่นร่างแก้ไขรายมาตราหลายประเด็น แต่เมื่อจะขับเคลื่อนการร่างใหม่โดย ส.ส.ร. แล้วควรให้เนื้อหาเป็นเรื่องที่ตัวแทนประชาชนเป็นผู้พิจารณา แต่ประเด็นที่มา คือสิ่งที่ส่งผลต่อการยอมรับของสังคมของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน แม้จะรับรองด้วยเสียงประชามติเกินครึ่งหนึ่งก่อนประกาศใช้ แต่ในกระบวนการจัดทำ อยู่ภายใต้บรรยากาศไม่เปิดกว้างและสร้างการ มีส่วนร่วมของประชาชนที่มากพอ สังคมส่วนหนึ่งจึงไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ พรรค พท. มั่นใจว่าการพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 13-14 ก.พ.อยู่ในขอบเขตอำนาจ สส.และ สว. เพราะเป็นการแก้ไขวิธีร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่เข้าสู่การเริ่มร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อประธานสภาบรรจุวาระนี้แล้ว อยากให้ทุกฝ่ายร่วมพิจารณาและลงมติ เปิดโอกาสให้สร้างกติกาที่เป็นที่ยอมรับของสังคมมากขึ้นยื่นสอบนายกฯเป็นผู้ช่วยหาเสียงวันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์อีเอ็มเอสถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.นครพนมว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมและนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ไปขึ้นเวทีและร่วมปราศรัยช่วยหาเสียงให้นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ.นครพนม พรรค พท. เมื่อวันที่ 12 ม.ค. เป็นผู้ช่วยหาเสียงตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 หรือไม่ และจะเป็นเหตุทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร นายสุริยะและนางมนพรสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ฐานเป็นลูกจ้างของบุคคลใดอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 หรือไม่ ขอให้ กกต.รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว เพราะการที่นายกฯและรัฐมนตรีไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง จึงเข้าข่ายเป็นลูกจ้างตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 อันอาจเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว กกต.ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่