เรื่องราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ นาทีนี้ ต้องถือว่าเป็นเรื่องราวหรือข่าวที่ฮอตที่สุดของโลก เพราะท่าน “ลงนาม” ในคำสั่งบริหารในแบบ “เขย่าโลก” โดยแทร่...จนเกิดผลกระทบไปทั่วโลกและในประเทศสหรัฐฯของท่านเองสถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไรบ้าง? โดยเฉพาะสงครามเศรษฐกิจ ซึ่งมีข่าวว่า เม็กซิโก และ แคนาดา ยอมเซ็นสัญญาหยุดยิงกับท่านไปแล้ว 1 เดือน แต่ จีน ดูเหมือนจะเดินหน้าสู้ต่อ...นายแรงมาฉันแรงตอบ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลักๆจากสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้ไปเรียบร้อยให้มันรู้ไปซีน่าว่า ผิง เป็น ผิง...เอ้ย ไผ เป็น ไผ ระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์...ที่ผมจะเขียนถึงในวันนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานการอาละวาดของคุณทรัมป์ที่เป็นข่าวร้อนแรงระดับโลกเช่นกัน แม้จะเป็นการอาละวาดกับหน่วยงานในประเทศของท่านเอง...นั่นก็คือข่าวการเตรียมปิดองค์กรสำคัญองค์กรหนึ่งของสหรัฐฯที่เรียกย่อๆว่า “USAID”ชื่อเต็มๆขององค์กรนี้ก็คือ United states Agency for International Development ซึ่งเมื่อย่อแล้วก็เป็น USAID เป็นที่รู้จักอย่างดีทั่วโลกUSAID ตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1961 หรือ พ.ศ.2504 ราวๆ 64 ปีที่แล้ว โดยอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี เพื่อทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในยุคนั้นในประเทศไทยของเราก็มีองค์กรนี้มาทำหน้าที่ประสานการช่วยเหลืออยู่ด้วย ผมจำได้ว่าสำนักงานอยู่ที่เดียวกับ USOM อีกหนึ่งองค์กรความช่วยเหลือของสหรัฐฯที่คนไทยยุคโน้นคุ้นเคยอย่างดียิ่ง ซึ่งตั้งอยู่แถวๆประตูนํ้าที่ผมคุ้นเคยกับคำว่า USAID ก็เพราะในปี 2509 ทาง USAID ซึ่งส่งทุนการศึกษามาช่วยพัฒนาข้าราชการไทยจำนวนมาก ได้แบ่งมาที่ สภาพัฒน์ ต้นสังกัดของผมด้วย ปีละ 2 ทุนเผอิญผมสอบได้ทุนนี้กับเขาด้วย จึงมีโอกาสได้ไปเรียนโทที่สหรัฐอเมริกา และไปรายงานตัวกับตัวแทนยูเสดที่อยู่ใกล้ๆยูซ่อมในประเทศไทย และต่อมาเมื่อไปสหรัฐฯแล้วก็ไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ USAID ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนจะเดินทางต่อไปเรียนที่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโดซะ 2 ปี และตอนจะกลับบ้านก็แวะมารายงานตัวและมารับตั๋วเครื่องบินกลับบ้านจากยูเสดที่กรุงวอชิงตันอีกครั้งผมต้องยอมรับว่าการได้ทุนไปเรียนที่สหรัฐฯของผมในครั้งนั้น เท่ากับเป็นการพลิกชีวิตของผมครั้งยิ่งใหญ่ ส่งผลให้ผมได้เกิดในอาชีพที่ผมรักที่สุดคือการเขียนหนังสือ และการเป็นนักสื่อสารมวลชน จนในที่สุดก็ได้มาเป็น “ซูม” อย่างทุกวันนี้ทำให้ผมรำลึกอยู่เสมอว่า USAID เป็นองค์กรที่มีพระคุณแก่ผมองค์กรหนึ่ง แม้จะไม่ลึกซึ้งถึงขั้น “บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ” เพราะตระหนักดีว่าการตั้งองค์กรนี้ของประธานาธิบดีเคนเนดี โดยหลักแล้วก็เพื่อสนองความประสงค์ที่จะเป็นใหญ่ หรือเป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯอยู่พอสมควรเวลาเขาช่วยประเทศใดก็ตาม ก็ถือเป็นการช่วยเศรษฐกิจของเขาด้วย เพราะการใช้จ่ายเงินทุกเม็ดอยู่ในสหรัฐฯหมด--ไม่ว่าค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก ก็ล้วนหมุนเวียนอยู่ในอเมริกาทั้งสิ้นแต่ก็นั่นแหละครับ ในฐานะคนไทยเมื่อทราบว่าองค์กรที่เคยมีพระคุณต่อชีวิตเรากำลังจะโดนคุณทรัมป์ และคุณอีลอน มัสก์ เล่นงานอย่างหนัก ก็อดเห็นใจและห่วงใยเสียมิได้ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบัน USAID พัฒนาไปทำหน้าที่อะไรบ้าง จะไปทำผิดคิดร้ายอย่างใหญ่หลวงดังที่คุณ อีลอน มัสก์ วิจารณ์ไว้ จริงหรือไม่?แต่ที่แน่ๆข่าวล่าสุดคุณทรัมป์น่าจะยุบ USAID เรียบร้อยแล้ว ให้ไปขึ้นกับกระทรวงการต่างประเทศ โดยยุบหลายๆส่วนและหลายๆ แผนกซึ่งเราคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปขอแสดงความเห็นใจอย่างยิ่งสำหรับองค์กร ที่ไม่ว่าอย่างไร ก็เคยมีพระคุณต่อผมไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งนะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม