“บิ๊กต่าย” เพิ่งออก 7 มาตรการเข้ม ป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหยกๆคาดโทษตำรวจที่ปล่อยปละละเลย หย่อนยาน ไม่สนใจการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันรั้วบ้าน ปล่อยชาวต่างชาติผ่านแดนไปตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหลายคนออกมาแฉว่า ถูกทำร้าย บังคับให้ทำงาน พ่นคำลวงเหยื่ออีกที!ที่สำคัญไม่ได้มีเฉพาะคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อ แต่มันขยายเครือข่ายการก่อเหตุชนิดรวมมิตร โดนหมดไม่ว่าจะเป็นคนเอเชีย ยุโรป แอฟริกาทำให้ทั้งโลกกำลังจับจ้องมาที่ประเทศไทย ที่เหมือนเป็นทางผ่านที่สะดวกสบาย กลายเป็นช่องทางให้กลุ่มแก๊งเหล่านี้หาแรงงานเข้าไปเดินเครื่องหลอกชาวโลกอีกทอด!ไม่ต้องแปลกใจที่งานเต้นไปถึงรัฐบาล เพราะบ้านเราตอนนี้อยู่ได้เพราะการท่องเที่ยว?แต่ดูท่าแล้ว หลังจาก ผบ.ตร.ออก 7 มาตรการเข้ม หลายคนยังไม่ตื่น ผู้บังคับบัญชาเลยต้องมีมาตรการปกครอง เพื่อให้การเดินเครื่องป้องกันแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้คล่องตัวขึ้นล่าสุด พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 ออกคำสั่งด่วนย้ายผู้กำกับ 3 โรงพักรวด ตามแนวชายแดน จ.ตาก เข้ากรุศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6ประกอบด้วย พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด พ.ต.อ.ฉัตรชัย คำยิ่ง ผกก.สภ.พบพระ และ พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผกก.สภ.แม่ระมาดงานนี้หนักเอาเรื่อง เพราะเป็นคำสั่งย้ายขาดจากตำแหน่งเดิม!ที่สำคัญอยู่ในช่วงกำลังจะแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ รอง ผบก.ลงมาด้วยเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนต่างชาติไปบังคับทำงาน มันกลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว มานั่งตั้งการ์ดป้องกันตำแหน่งกันเฉยๆไม่ได้ต้องทำงานเชิงรุก?หลังจากนี้คงต้องมาดูกันว่า ตำรวจท้องที่และหน่วยขึ้นตรงตามแนวชายแดนจะตื่นกันหรือยัง?สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม