“แพทองธาร” เยือนมาเลย์หารือ “อันวาร์” ชื่นมื่น จับมือร่วมกันสร้างสันติสุข ตั้งเป้าลุยเพิ่มการค้าสองประเทศทะลุ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท ภายในปี 2027 ยันไทยหนุนบทบาทนั่งประธานอาเซียนปี 2025 เผยนายกฯ มาเลเซียเล็งแต่งตั้ง “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ช่วยกันพัฒนาภูมิภาคอาเซียน พท.เต้นผลโพลคนไม่เชื่อมือรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ “ภูมิธรรม” โอดเพิ่งบริหารมา 3 เดือนประเมินเร็วไป อ้อนรอดูผลงานดีๆจะออกมาอีกเยอะในปี 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยได้เจรจากระชับความสัมพันธ์และยกระดับความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งนี้นายกฯทั้งสองประเทศได้แถลงข่าวร่วมกันที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายสร้างการค้า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2027“นายกฯอิ๊งค์” จับมือมาเลย์สร้างสันติสุขเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบมาเลเซีย เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเดินทางเยือนมาเลเซียในฐานะแขกของรัฐบาลมาเลเซีย โดยดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย นำตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นได้ประชุมร่วมกัน ฝ่ายไทยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯและ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรมเข้าร่วมโดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณนายอันวาร์และทางการมาเลเซียที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นสมเกียรติ ในการเยือนมาเลเซียเป็นทางการครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง มาเลเซียเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิด มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน เป็นหุ้นส่วนทางการค้าใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน เป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก ตอกย้ำให้ทั้ง 2 ประเทศ มุ่งมั่นประสานความร่วมมือที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพื่อความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศลงนามร่วมมือพัฒนายาง-วัฒนธรรมจากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.แพทองธารและดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ร่วมเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่าง Malaysian Rubber Board (MRB) กับการยางแห่งประเทศไทย เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลมาเลเซีย และรัฐบาลไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ก่อนแถลงข่าวร่วมกัน โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่ามุ่งมั่นรักษาพลวัตความสัมพันธ์เพื่อสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ไทยสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปี 2025 โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน การเชื่อมโยงชายแดน เศรษฐกิจดิจิทัล และการท่องเที่ยว ส่งเสริมศักยภาพความร่วมมือในอุตสาหกรรมยางและฮาลาลตั้งเป้าการค้า 3 หมื่นล้านเหรียญปี 2027นายกฯกล่าวอีกว่า ไทยและมาเลเซียจะเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2027 ด้วยความร่วมมือในพื้นที่ชายแดน ที่จะหารือแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ 2 ประเทศเผชิญอยู่ ไทยและมาเลเซีย ยินดีที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานชายแดนคืบหน้า พร้อมจะทำงานอย่างใกล้ชิดต่อไป และขอบคุณนายกฯมาเลเซียสำหรับมิตรภาพ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในศักยภาพความร่วมมือระหว่างกันที่จะก้าวไปข้างหน้าในอนาคต ขอเชิญนายกฯมาเลเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายกฯและคณะเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันอย่างเป็นทางการที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ ที่ห้อง Protocol ทำเนียบนายกฯมาเลเซีย ก่อนเดินทางกลับถึงประเทศไทยช่วงเย็นวันเดียวกัน“อันวาร์” พร้อมหนุนการท่องเที่ยวขณะที่นายกฯมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียยืนยันในความสำคัญของความสัมพันธ์และความร่วมมือสองประเทศที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การท่องเที่ยวและด้านอาหารฮาลาล ความเชื่อมโยงด้านคมนาคม ขอชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของไทย อาทิ ภูเก็ตและพร้อมสนับสนุนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว “6 Countries, 1 Destination” จะส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยวระหว่างไทย-มาเลเซีย และการท่องเที่ยวในภูมิภาค และสนับสนุนความสัมพันธ์ของประชาชนด้วย ปีนี้เพียง 11 เดือน พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียไปเที่ยวไทยเป็นอันดับต้นๆ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้าน soft power ของสองประเทศด้วย มิติด้านความมั่นคงยืนยันว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประเด็นภายในของประเทศไทย มั่นใจว่าไทยจะบรรลุความสำเร็จในการส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ เพื่อการขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านต่างๆ จะมอบหมายให้มีการกำหนดกรอบการดำเนินงาน ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมเล็งตั้ง “ทักษิณ” ที่ปรึกษา ปธ.อาเซียนต่อมาเวลา 16.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) น.ส.แพทองธารเดินทางกลับจากการเยือนมาเลเซีย พร้อมให้สัมภาษณ์กรณีสื่อมาเลเซียรายงานข่าวว่า ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซียจะแต่งตั้งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวตำแหน่งประธานอาเซียน ที่นายกฯมาเลเซีย จะเข้ารับตำแหน่งในปี 2568 ว่า ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิมให้เกียรตินายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ท่านมีกลุ่มผู้นำทั้งอดีตและปัจจุบันที่สนิทอยู่ มีการคุยปรึกษากันระหว่างประเทศรวมถึงเรื่องภายในประเทศตัวเองเป็นการช่วยทุกประเทศในอาเซียน ให้เกิดการรวมพลังสมองเกิดขึ้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในกลุ่มอาเซียน จะช่วยพัฒนาภูมิภาคเราได้แน่นอน เพราะนายทักษิณเคยเป็นนายกฯ มา 6 ปี สนิทกับดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ ตั้งแต่ตอนนั้น พูดคุยอัปเดตเรื่องเศรษฐกิจมาตลอด และมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านเรา มีทั้งเหมือนและแตกต่าง ช่วยสนับสนุนกันได้ การเยือนครั้งนี้จะสนับสนุนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและชายแดนได้คุยกันในรายละเอียดเยอะในระดับผู้นำ พูดถึงความช่วยเหลือต่างๆเต็มที่ นายทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาคงได้รายละเอียดอีกเยอะ นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆอีกที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาตรงนี้ คงได้ช่วยกัน เพราะอยากได้แง่มุมหลายประเทศมาร่วมกันผู้นำมาเลย์เยือนไทยปีหน้าดันดับไฟใต้เมื่อถามว่าการเยือนมาเลเซียครั้งนี้จะส่งผลดีกับสันติสุขชายแดนใต้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้ทำตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯว่าจะให้มาเลเซียช่วยสนับสนุนการพูดคุย มีการประสานกันมาต่อเนื่อง เมื่อถามว่าการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ที่คุยไว้เราตั้งใจให้เกิดสันติสุขให้เร็วที่สุดในปีนี้ ต้นปีหน้าได้นัดแนะกับนายกฯมาเลเซียว่าจะมาเจอกันช่วงเดือน ก.พ.หรือ มี.ค.ที่ประเทศไทย เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อจะมีขั้นตอนที่ต้องผลักดันระหว่างกัน เมื่อถามอีกว่า นายกฯจะนั่งประธานคณะพูดคุยสันติสุขด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มีการแบ่งทั้งสองอย่าง ชายแดนมีหน้างานที่ต้องทำเพื่ออัปเดตติดตามงาน แน่นอนต้องเป็นผู้นำทั้งสองประเทศช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ และทั้งสองประเทศพูดคุยกันว่าเราจะไม่สนับสนุนความรุนแรง อันนี้คือสิ่งที่ยืนยันด้วยกันทั้งคู่โชว์พรรคร่วมฯเหนียวแน่นน.ส.แพทองธารยังให้สัมภาษณ์ถึงความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล โดยหันไปกล่าวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พร้อมหัวเราะก่อนกล่าวว่า “ยังแน่นแฟ้นไหม” ทำให้นายอนุทินหัวเราะและตอบว่า “แน่นแฟ้น” ก่อนที่นายกฯจะผายมือหันไปถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ที่เดินตามมา ทุกคนต่างยิ้มตอบว่าแน่นแฟ้น“อ้วน” โอดเพิ่ง 3 เดือนประเมินเร็วไปเมื่อเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ “3 เดือน รัฐบาลแพทองธาร” พบว่า ร้อยละ 54.99 ประชาชนไม่เชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ตนมองว่าถามเฉพาะบางข้อไม่ได้ แต่ต้องดูผลโพลสวนดุสิตทั้งระบบ และจริงๆหากดูทุกข้อเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ การที่บอกว่ายังไม่เชื่อมั่นคือไม่มั่นใจ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเพิ่งทำงาน 3 เดือน ผลงานทางด้านเศรษฐกิจเรื่อง ดิจิทัลวอลเล็ตที่ประชาชนพอใจมาก และอีกหลายเรื่องที่เชื่อมั่น ดังนั้นการที่ยังไม่เชื่อมั่นและผลออกมามากกว่า 50% ที่หมิ่นเหม่มีแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าดูทั้งระบบความไม่เชื่อมั่นเกิดขึ้นจากสภาพการทำงานที่ยังมีเวลาน้อยไป บางที 3 เดือนยังไม่ทันทำอะไรที่เป็นผลงานออกมา ทำได้เพียงเริ่มต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำต่อไป ตนคิดว่าเวลาน้อยไปที่จะถามคำถามนี้ แต่ก็เป็นการถามเพื่อเป็นแนวให้รู้ว่าประชาชนยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง เขาก็จะรอดู แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ไม่มีความสามารถ ถ้าดูโดยรวมผลออกมาเป็นบวกทั้งหมดจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจอ้อน ปชช.รอดูผลงานดีๆในปี 68เมื่อถามว่า ปี 2568 จะต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักคู่กับปัญหายาเสพติดและระบบน้ำ เพราะระบบน้ำเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ หากเราทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เคยบอกแล้วว่าปัญหาความหมักหมมของระบบเศรษฐกิจไทยมีมายาวนานว่า 10 ปีแล้ว ขณะนี้เรากำลังดึงมันขึ้นมา รัฐบาลทำแบบลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาส จะเห็นอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เราอยากทำตั้งแต่แรก ยังไม่ทำเพราะขาดความเข้าใจกัน แต่รัฐบาลนี้ใช้ความร่วมมือและการรับฟังจากทุกฝ่ายแก้ปัญหา แม้จะช้าไปหน่อยแต่เรารีบทำ ดิจิทัลวอลเล็ตกำลังมีระลอกใหม่ที่กำลังจะดำเนินการอีกหลายเรื่อง เมื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจเสร็จ จะแก้ปัญหาระบบน้ำทั้งระบบช่วยเหลือเกษตรกร ควบคู่สร้างรายได้ หาตลาดให้เกษตรกรมากขึ้น ยาเสพติดเป็นอีกปัญหาสำคัญ การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่ รัฐบาลกำลังทำทุกอย่างให้เดินหน้าไป ปีหน้าเป็นปีที่เราต้องทำงานหนัก ตอนนี้ทำงานมา 3 เดือนวางรากฐาน มองอย่างไรคงยังไม่เห็นผลงานเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนเพียงพอ ปีหน้าขอให้ประชาชนรอดูผลงาน จะมีผลงานดีๆออกมาอีกมาก“วิโรจน์” เย้ย พท.ถูกพรรคร่วมฯ บีบคอนายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โต้ผลโพลสวนดุสิตสำรวจพบ 3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร ประชาชน 54.99% ยังไม่เชื่อมั่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่า ปีหน้าขอให้ประชาชนรอดูผลงานดีๆอีกมากว่า เชื่อว่ารัฐบาลมีแผนว่าจะทำสิ่งใดบ้าง แต่ไม่กล้าสัญญาอะไรสักอย่าง เพราะเสถียรภาพวันนี้ถูกบีบคอจากพรรคร่วมฯ ดิจิทัลวอลเล็ตถ้าไม่ประเมินผลแล้วจะแจกครั้งต่อไปจะซ้ำรอยปัญหาเดิม การลดค่าใช้จ่ายแผนปีหน้าจะเคลียร์กับนายทุนโรงไฟฟ้า ให้ค่าไฟไม่แพงและเป็นธรรมอย่างไร กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม บอกจะพยายามผลักดันเรื่องตั๋วร่วมแล้วมันเมื่อไหร่ กล้าหาญพูดหรือเปล่า ไม่ใช่ขายฝันไปเรื่อย ต่างจากนโยบายสมัยทักษิณ หลายอย่างชัดเจน อาทิ กองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น คำว่าปีหน้าอย่างนี้ไม่ต่างจากชาติหน้าตอนบ่ายๆแซะสตรีทรงอิทธิพลโลกใต้เงาพ่อนายวิโรจน์กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลมีแผนแต่พอรัฐบาลขาดเสถียรภาพ นายกฯขาดภาวะผู้นำ นายกฯจะแถลงอะไรต้องมี รมต.อาวุโส ยืนเป็นวอลเปเปอร์ หันรีหันขวาง รัฐบาลไม่กล้ารับปากอะไรสักอย่าง แตกต่างจากยุคทักษิณสิ้นเชิง “ต้องเรียกว่า ลูกไม้มันโอ้โหห่างไกลต้น ห่างไกลแบบไพศาล หลุดวงโคจรของต้นไม้ไปเลย” ส่วนที่ พรรค พท.ตีปี๊บผลการจัดอันดับ Top 100 The World’s Most Powerful Women ประจำปี 2024 ของนิตยสาร Forbes น.ส.แพทองธารติดอันดับที่ 29 จากสตรีทรงอิทธิพล 100 คนทั่วโลก ถ้าเอาเงาตะคุ่มๆของนายทักษิณออก น.ส.แพทองธารจะได้อันดับ 29 ของโลกหรือเปล่า นายทักษิณยังให้สัมภาษณ์แทนรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ประหนึ่งนายกฯอยู่เลยไม่ใช่หรือ“บิ๊กป้อม” ส่งตัวแทนดินเนอร์ฝ่ายค้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง กรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็นในวันพุธที่ 18 ธ.ค.เพื่อหารือทิศทางการทำงานในสภาฯ ว่า ยืนยันว่าพรรคจะส่งตัวแทนเข้าร่วม ส่วนจะเป็นใครต้องรอที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.จะไม่เข้าร่วมแน่นอนปธ.วุฒิฯแจ้งเหลือ สว.199 คนเมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีนายสมชาย เล่งหลัก สว.ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 111 (4) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายสมชาย หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า มีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีคำสั่งให้นายสมชายหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว. ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.67 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ขณะนี้มี สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 199 คน และองค์ประชุมกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปสว.ขู่ยื่นซักฟอกนายกฯ ชิ่งตอบกระทู้จากนั้นเข้าสู่วาระพิจารณากระทู้ถาม มีการตั้งกระทู้สดถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การระงับคลื่นวิทยุของ กสทช. ของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. 2.กลุ่มมาเฟียต่างด้าวผิดกฎหมายและบัตรประชาชนปลอม ของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. 3.ความปลอดภัยของประชาชน กรณีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดของ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. โดยนายกฯมอบให้รัฐมนตรีมาชี้แจงแทน แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่างติดภารกิจขอเลื่อนตอบทั้ง 3 เรื่องต่อมาเวลา 11.00 น. นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แถลงเรียกร้องให้นายกฯมาตอบกระทู้ สว.ในสภาว่า อยากให้นายกฯมาตอบกระทู้ สว.สักครั้ง ไม่ให้ติดนิสัยพูดฝ่ายเดียว หากยังไม่มาตอบกระทู้ สว.อาจเข้าชื่อเสนอขออภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติ สว.รู้สึกร่วมกันนายกฯไม่มาตอบกระทู้ ไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่าง สว.ต้องการตรวจสอบดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 มีหลักเกณฑ์อย่างไร หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลไม่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ สว.ไม่ใช่ฝ่ายค้านจ้องโค่นรัฐบาล เราติเพื่อก่อ เสนอแนะแก้ปัญหาทางสร้างสรรค์“ทักษิณ” จ่อปิ๊กเชียงใหม่ช่วย “สว.ก๊อง”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค. เพื่อช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง อดีตนายก อบจ. เชียงใหม่ หาเสียงในการลงเลือกตั้งนายก อบจ.อีกสมัย ทั้งนี้ นายทักษิณจะออกเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวันที่ 23 ธ.ค. จากนั้นขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ ส่วนวันที่ 24 ธ.ค. นายทักษิณ จะพบกับสมาคมหอการค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่โรงแรมสมายล์ ล้านนา ก่อนที่ช่วงสาย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ตลาดภูสุวรรณ อ.สันป่าตอง ช่วงบ่ายจะขึ้นเวทีปราศรัย ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปิดท้ายช่วงเย็นขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณลานหน้าหมู่บ้านสมหวังอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่