ผิดว่าไปตามผิด–ถูกก็ต้องให้ความเป็นธรรมไม่ต้องหวั่นหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าเทวดาถ้อยคำที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.) หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไปตรวจเยี่ยมกรมที่ดิน ได้ยกประเด็นอ่อนไหวต่อการดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ระหว่างไปมอบนโยบายชนิดสมบูรณ์แบบ กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด“เขากระโดง” เป็นปมร้อนทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง หลังคำพิพากษาศาลฎีกาปี 60-61 ให้ที่ดินเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 5,038 ไร่ แต่กรมที่ดินเกิดข้อพิพาทกับ รฟท.ที่พิสูจน์สิทธิไม่ได้รฟท.ฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อให้กรมที่ดินเพิกถอนสิทธิ โดยมีพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 กฎหมายที่ดินนายอนุทิน บอกให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า เขากระโดง กรมที่ดินไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง เป็นเรื่องของ รฟท.ที่อ้างสิทธิเป็นเจ้าของกับชาวบ้านผู้ครอบครอง-ตระกูลชิดชอบ ซึ่งถือครองอยู่ประมาณ 300 ไร่ ตระกูลชิดชอบไม่เคยไปฟ้องร้องไม่เคยถูกฟ้องในกรณีนี้ คำพิพากษาศาลฎีกา เป็นเรื่องที่ชาวบ้านผู้ครอบครอง 35 ราย ไปฟ้อง รฟท.ขั้นตอนตามกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่ผมเข้ามาเป็น รมว.มท. แต่เมื่อมอบนโยบายแล้วไปทำนอกเหนือจากนี้ ข้าราชการผิดใช่ไหม คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเขารู้จักผมแน่นอน แต่ผมไม่รู้จัก ไม่เคยคุย ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน รฟท.ก็สามารถพิสูจน์สิทธิต่างๆได้“ถ้าเกิดข้อถกเถียงกันอย่างนี้ ก็เข้าทางกลายเป็นเรื่องของระหว่างการเมือง เขากระโดงไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ครอบครองสิทธิกับ รฟท.ที่อ้างสิทธิเหนือพื้นที่ผืนนั้นพรรคเพื่อไทย และพรรค ภท.ไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น เชื่อว่าคนของทั้งสองพรรค เอาระดับหัวก่อน ไม่มีที่ดินในพื้นที่ตรงนั้นมันต้องแยกประเด็นให้ถูก”มีความหวั่นไหว กังวลในประเด็นนี้อย่างไร เพราะหัวหน้าพรรค ภท. สนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ รมว.มท. ชี้แจงอย่างไรสังคมยังไม่เข้าใจ นายอนุทิน บอกว่า ไม่ได้หวั่นไหว เพราะมอบนโยบาย และข้อสั่งการชัดเจนให้กรมที่ดินต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีละเว้นหรือความพยายามช่วยเหลือใดๆส่วนความสนิทสนมกับนักการเมืองชั้นนำ นักธุรกิจใหญ่ ผมก็สนิทสนมกับทุกคน เป็นความสัมพันธ์ด้านมิตรภาพ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายรมว.มท. อธิบดีกรมที่ดิน ออกมาชี้แจง แต่สังคมยังไม่เชื่อ จะทำอย่างไรต่อ นายอนุทิน บอกว่า ขอให้ดูที่ข้อเท็จจริงเอกสารมีตรงไหนที่กรมที่ดินทำขัดต่อกฎหมาย และผมก็เข้ามาเป็น รมว.มท.หลังกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว จะเอาอิทธิพลอะไรไปบังคับคณะกรรมการชุดนี้คงไม่มีใครให้ใช้อิทธิพลล่วงหน้าถึง 2 ปี ทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง และพวกพ้อง คนที่รู้จักผมจะรู้ว่าผมเป็นคนมีเพื่อนน้อย คนรู้จักเยอะ หลายคนไม่เลือกคบผม หรือผมเลือกไม่คบเขา ซึ่งเจอกี่ทีก็ขอๆให้ช่วยนั่นให้ช่วยนี่ ให้ทำนั้นทำนี้ จนมีชื่อเสียงอย่างหนึ่งคือ เพื่อนคือเพื่อนแต่ไม่ช่วย ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมถึงช่วยเต็มที่ทำในสิ่งที่มันผิดให้เป็นถูกไม่ได้โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับราชการ ภูมิใจได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องตลอดสมัยดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมัยที่ผมเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดในบริษัทเอกชน ธุรกิจครอบครัว พ่อบอกให้ซื้อของเจ้านี้จ้างเจ้านี้พ่อยังสั่งไม่ได้คงไม่มีใครสั่งได้ ผมใช้วุฒิภาวะสั่งตัวเองตามกฎหมายและความถูกต้องอยู่ตรงนี้ทำผิดกฎหมายไม่ได้ มีคนคอยเอาสิ่งเหล่านี้ทำให้พ้นตำแหน่ง รมว.มท. โดยไม่มีความสุขได้ตลอดเวลา ผมต้องการทำงานที่นี่และออกไปด้วยความสบายใจในฐานะแคนดิเดตที่เป็นตัวเต็งนายกฯ ประเด็นเขากระโดงอาจมีผลกระทบต่อตำแหน่งนี้ได้ นายอนุทิน บอกว่า ต้องหาหลักฐานชี้ให้เห็นว่าผม ครอบครัวของผม คนที่เกี่ยวข้องไปทำผิดกฎหมายตรงนี้“คนที่ถือที่ดินเขากระโดง ยกตัวอย่างไปที่ตระกูลชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. (นายไชยชนก ชิดชอบ) ถือตามสิทธิ วันหนึ่งศาลชี้ไม่ถูกต้อง รฟท.ต้องไปเพิกถอนเพิกถอน ไม่เพิกถอน คนที่ถือสิทธิตามที่กรมที่ดินโอนให้ เขาไม่ได้ผิด กรมที่ดินต้องเอาเงินไปจ่ายค่าเสียหายหลายๆ พันล้านบาทต่อปี บางปีเป็นหมื่นล้านบาทเป็นนโยบายหนึ่งที่บอกกรมที่ดิน ถ้ามีปัญหา กรมที่ดินต้องเป็นโจทก์–จำเลยคู่กับคนที่เป็นคู่กรณี ชาวบ้านตาดำๆจะไปสู้ได้อย่างไร ถ้าเป็น กรณีเขากระโดงที่สู้กับ รฟท.ถูกแล้วที่ รฟท.เอากรมที่ดินเป็นคู่ กรณี พิสูจน์ได้กรมที่ดินก็เพิกถอน พิสูจน์ไม่ได้ก็ไม่เพิกถอน ต้องรักษาสิทธิประ ชาชนด้วยเช่นกัน”รมว.มท.ยืนยันเขากระโดงไม่เป็นข้อบาดหมางกับพรรคเพื่อไทย แต่ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสองพรรคนี้ขบเหลี่ยมกัน นายอนุทิน บอกว่า การแข่งขันทางการเมือง มีใครมีความสุขที่พรรค ภท. กำกับดูแลมท. ไม่มีหรอกตรงไหนที่ขบได้เขาก็ขบ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้ขบ อย่างวันก่อนก็โทรศัพท์พูดคุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ในงานที่ มท. และกระทรวงคมนาคม สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตามคณะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไปประชุมกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง พูดคุยเรื่องยาเสพติดกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ถ้าเป็นเรื่องของประชาชน ผมต้องเอาประชาชนเป็นใหญ่ไม่มีความขัดแย้งกับใครแน่นอนความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นระหว่างนายทักษิณกับนายเนวินดีขึ้นแค่ไหน หลังนำเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า นายอนุทิน บอกว่า ไปหาผู้ใหญ่ถึงบ้านจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีได้อย่างไร แสดงถึงยังมีความระลึก เคารพนับถือ“เราเป็นผู้น้อย คุณทักษิณเป็นผู้บังคับบัญชาของคุณเนวิน และผมตั้งแต่ปีมะโว้ ถ้ามีความขัดแย้ง ไม่ถูกกัน มันก็เจอกันไม่ได้”หากช่วงไหนที่พรรคเพื่อไทย และพรรค ภท.เหมือนแตกกัน มีโอกาสแค่ไหนที่ มท.หนู ควงแขนนายเนวินไปพบนายทักษิณ ให้ บรรยากาศคลี่คลาย การเมืองมีเสถียรภาพขึ้น นายอนุทิน บอกว่า ทำไมต้องเอาผมไปเป็นตัวกลางจากนั้น นายอนุทิน ได้เจาะเวลาหาอดีตที่เคยอยู่บ้านเลขที่ 111 เป็นลูกน้องหรือรุ่นน้องของทั้ง “ทักษิณ-เนวิน” ที่หารือกันตลอดตั้งแต่ยังไม่มีพรรค ยังคุยกันเล่นๆ ถ้าขัดแย้งกัน นายทักษิณคงไม่คุยกับผม แต่ตามไทม์ไลน์ที่เจอท่านในต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าไม่ได้ขัดแย้งกันหรือถ้านายเนวินมีปัญหากับนายทักษิณ นายเนวินก็ต้องบอกว่า “หนู” อย่าไปเลย มันไม่ดีก็ยังไปมาหาสู่ปกติ จนเมื่อทุกคนมีบทบาททางการเมือง ปี 62 ฟอร์มรัฐบาลขั้วอนุรักษ์นิยมด้วยเหตุผลทางการเมืองเลือกตั้งปี 66 ทุกอย่างมันรีเซ็ต รัฐบาลน่าจะมีเสถียรภาพมากกว่า ทำประ โยชน์ให้บ้านเมืองมากกว่า ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สบายใจ ทำงานกันไปตามบทบาท ผมก็ทำหน้าที่ให้มันที่สุดเท่านั้นเองเริ่มพูดถึงขั้วรัฐบาลเดิมแตะมือการเมืองทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น นายอนุทิน บอกว่า ถ้าแตะมือเมื่อไหร่เดี๋ยวรู้ สมมติแตะมือสำเร็จก็ถูกเรียกว่า “ฮั้ว” ฉะนั้นต้องยึดหลักสปอร์ตแมนชิพ นักกีฬาสู้กันถึงเวลาเลือกตั้งทุกพรรคสู้กันเต็มที่กลายเป็นพื้นที่ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยเริ่มตีกันชิงพื้นที่พรรคภท. นายอนุทิน บอกว่า ตีกันตรงไหน ไม่มี เวลามีเลือกตั้งผู้สมัคร สส. ของผมสู้เต็มที่ ไม่มีหลบต่อให้ผมอยากหลบ นักมวยก็ไม่ยอม“เฮ้ยน้องๆ หลบไป เขตนี้ตกลงกับพรรคเพื่อไทยเอาไว้ พื้นที่นี้ให้เขาได้เป็น สส. ผู้สมัครคนนั้นจะมองผมว่าดีกว่าสุนัขตรงไหนผมเป็นผู้นำ ก็ต้องสู้ ถ้าจะแพ้ก็ขอแพ้คาสนาม แพ้หลังจากได้สู้แล้ว”วันนี้ภาพรวมการเมือง รัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า พรรค ภท.ปฏิบัติมาเสมอ โดยพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ถ้าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ยกเว้นประชาชนไม่เอาเลย ดูเอื้อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหลือเกิน ก็ต้องแสดงจุดยืนฉะนั้นเข้ามาทำงาน ก็อยากให้อยู่ครบเทอมอยู่ได้หรือไม่ พรรคร่วมฯ ต้องประคับประคอง.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม