โฆษกดีเอสไอแจง หลังยกทีมเข้าเรือนจำแจ้งข้อหาเพิ่มแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ 18 บอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป ทั้งหมดขอแจงเป็นลายลักษณ์อักษรแก้ข้อกล่าวหาภายในกรอบเวลา 15 วัน ชี้ยินดีรับฟัง เป็นสิทธิที่จะอธิบายว่ามันไม่เป็นแชร์ลูกโซ่อย่างไร ด้าน “ทนายวิฑูรย์” เผยการแจ้งข้อกล่าวหาของดีเอสไอในวันนี้สู้ได้ทุกประเด็น จ่อขอประกัน “บอสวิน” คนแรก เพราะร่างกายเริ่มแย่จากมะเร็งเม็ดเลือดขาว ยัน “บอสพอล” ไม่กังวลเรื่องถูกแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมให้ออเดอร์ใหม่มาดำเนินการเป็นกลุ่มแม่ข่ายกับนักธุรกิจประมาณ 4-5 ราย รวมทั้งรับรู้ “ทนายตั้ม” เข้าเรือนจำแล้ว “บิ๊กเต่า” ระบุ 4 คดีรีดทรัพย์บอสพอลเริ่มงวดดีเอสไอเข้าเรือนจำแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา 18 บอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป ในความผิด ก.ม.แชร์ลูกโซ่และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงฯแล้ว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำพนักงานสอบสวนเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมอยู่ทั้ง 18 คน และในฐานะผู้แทนนิติบุคคลอีก 1 รายต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยหลังดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมครบทั้ง 18 บอสดิ ไอคอน ว่า ทุกคนได้รับทราบข้อกล่าวหา และดีเอสไอได้สอบปากคำแต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงอะไรเพิ่มเติม เพราะแจ้งว่าขอเวลารวบรวมรายละเอียดเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแทนภายในกรอบเวลา 15 วัน ส่วนกรณีบอสดารา “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ที่ตนได้เข้าพบในทัณฑสถานหญิงกลาง เจ้าตัวได้เซ็นชื่อในคำให้การรับทราบข้อกล่าวหาและได้ให้การ แต่ตนขอสงวนรายละเอียดในสำนวน ในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาบอสชายทั้ง 11 ราย ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังไม่ได้รับรายงานกลับมาครบทุกราย แต่ทราบว่าทุกคนพร้อมสู้ในส่วนที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาพ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีบอสอูมมี่ หรือ น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา ที่นอนรักษาตัวในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ดีเอสไอได้เข้าไปพบและแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ดีเอสไอยินดีหากผู้ต้องหาประสงค์ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทุกประเด็นใน 15 วัน อยากให้ได้อธิบายเพื่อได้ใช้พิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดให้เห็นภาพรวมทีเดียว เนื่องจากดีเอสไอได้แจ้งพฤติการณ์ที่มองว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ให้รับทราบแล้ว เป็นสิทธิพวกเขาที่จะอธิบายว่ามันไม่เป็นแชร์ลูกโซ่อย่างไร เรายินดีรับฟังทั้งหมดด้านนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมบอสพอลว่า หากดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมาในวันนี้แก้ข้อกล่าวหาได้หมด วันนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 18 ราย ยังไม่ได้สอบปากคำเนื่องจากห้องสอบสวนของเรือนจำฯมีห้องเดียว และฝั่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีผู้ต้องหาชายหลายคนทำให้สอบปากคำไม่ทัน จากนี้จะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรและจะยื่นให้ภายใน 15 วัน โดยจะทำรายละเอียดว่าแต่ละเรื่องที่ดีเอสไอมีพฤติการณ์แห่งคดีมา ผู้ต้องหาจะชี้แจงอย่างไรบ้าง เรามีทั้งเอกสาร พยานหลักฐาน การส่งสินค้าไปยังปลายทางทุกอย่างไม่กังวล กรณีที่อาจจะสอบปากคำไม่ทัน 7 ฝาก หรือ 84 วัน มองว่าผู้ต้องหาให้การไปไม่รู้จะใช้ระยะเวลากี่วัน เพราะรายละเอียดเยอะ แต่ตนเชื่อว่าทัน ส่วนพยานอีกกว่า 2,000-3,000 ราย ตนย้ำว่าจะตัดออกไม่ได้ ถือเป็นการสอบปากคำพยานที่ขายของได้ให้เข้าไปในสำนวน และไม่ควรฟังความข้างเดียว ต้องฟังความอีกข้างด้วย ทั้งนี้ ตนอาจจะขอประกันตัวบอสวิน หรือนายธวินทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ ก่อน เพราะร่างกายเริ่มแย่เนื่องจากเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 3 แล้ว ทำให้เกิดความกังวลใจ โดยจะยื่นประกันเร็วๆนี้นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า วันนี้ได้พูดคุยกับบอสพอล เรื่องการต่อสู้คดีเป็นหลัก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และบอสพอลไม่ได้กังวลอะไรที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ยืนยันว่าสู้คดีได้หมด ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องการสู้คดีก่อน แต่ถ้าถามว่ามีออเดอร์ใหม่จากบอสพอลให้ไปดำเนินการหรือไม่ ยอมรับว่ามี แต่เป็นกลุ่มแม่ข่ายกับนักธุรกิจประมาณ 4-5 ราย ยังไม่เคยเปิดชื่อมาก่อน ทั้งนี้ ทางบอสพอลได้ทราบแล้วว่าทนายตั้มได้เข้าไปอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่บอสพอลไม่ได้มีแอ็กชันอะไรและไม่ได้พูดถึง แค่รับทราบเท่านั้นด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รรท.ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมสถานที่ในการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 18 คน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ได้ประสานดีเอสไอพร้อมอำนวยความสะดวกในการแจ้งข้อหาพร้อมกันต้องวางแผนบริหาร คงไม่ใช่พร้อมกันทีเดียว ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกายทั้ง 18 บอส โดยรวมยังปกติทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง ส่วนผู้มีโรคประจำตัวมีการดูแลตามมาตรฐานอยู่แล้ว ส่วนกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าเยี่ยมนายจิระวัฒน์ หรือโค้ชแล็ป แสงภักดี ในห้องพนักงานสอบสวนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กระทั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งให้กรมราชทัณฑ์ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อเท็จจริงจะได้นำเรียนให้รับทราบอีกด้านหนึ่งที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ว่า มีการสอบปากคำไปแล้วกว่า 10,000 ปาก มีการส่งเอกสารไปแล้วกว่า 5,800 ปาก ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบความเรียบร้อย ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะนำส่งทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำต่อ จากการพูดคุยกันคาดว่าจะสรุปสำนวนทั้งหมดครบฝากสุดท้าย และจะต้องเสร็จให้ทันตามกรอบระยะเวลา 48 วัน หรือถ้าไม่ทันตามกรอบระยะเวลาจะมีการปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่ว่าไม่มีการตัดสิทธิในการฟ้องร้อง จากนั้นจะเรียกผู้ต้องหามาฟ้องเพิ่ม ถ้ามีคนช่วยปกปิดอำพรางจะดำเนินคดีกับบุคคลนั้นต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยหลังประชุมเร่งรัดคดีที่บอสพอลถูกกลุ่มนักร้องนักการเมืองนักเคลื่อนไหวตบทรัพย์ว่า วันนี้มีประชุม 4 เรื่องเป็นหลัก เรื่องแรกเรื่อง น.ส.กฤษอนงค์ นักร้องเรียนหญิง ปมคลิปเสียงเรียกเงิน ในตอนนี้เนื้อหาพยานหลักฐานคืบหน้าไปเยอะ หลังจากนี้จะสอบปากคำพยานเพิ่มอีกสองปากเพื่อยืนยันหลักฐาน คาดอาทิตย์นี้จะมีความชัดเจนรอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า เรื่องที่สองเป็นกรณีนายสามารถ นักการเมือง ขณะนี้พบเส้นเงินเชื่อมโยง แต่ยังรอคำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล รอไทม์ไลน์ตามหลักฐานเป็นตัวตั้ง แม้ผู้เสียหายไม่อยากดำเนินคดีกับนายสามารถ แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรคงต้องรอดู เพราะคลิปเสียงเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ส่วนจะเข้าข่ายความผิด ม.148 ของ ป.ป.ช. หรือจะเป็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ ต้องคุยกับนักกฎหมายอีกครั้งให้ชัดเจน ส่วนกรณีแม่ของนายสามารถ จากการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังสองปีพบเส้นเงินโอนจากบัญชีบอสพอลเข้ามากว่า 600,000 กว่าบาท กำลังตรวจสอบย้อนหลังอีกหลายปีว่ามียอดตรงไหนเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นว่า มีการนัดเคลียร์เจรจากันหรือไม่ เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้คงช่วยเหลือบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จากนี้จะเรียกแม่นายสามารถมาให้การพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเอก สายไหมต้องรอด ตอนนี้สอบพยานไว้มากพอสมควร เบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนพยานเท็จขอประชุมอีกครั้งว่าเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรก็ตาม มองในเจตนาเป็นหลัก หลังจากนี้ให้มันจบเป็นเรื่องๆ ส่วนเรื่องทนายตั้ม ที่น้องสาวทนายตั้มนำหลักฐานของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัท ดิ ไอคอน ประมาณ 60 กว่าคน มายื่นเป็นหลักฐาน ตั้งแต่วันที่ 1-14 ต.ค.67 กำลังตรวจสอบความเสียหายจริงว่าผู้เสียหายติดต่อ บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จริงหรือไม่ ต้องดูเจตนารมณ์เป็นหลัก ว่าช่วงที่เรียกเงิน 7.5 ล้านบาทจากบอสพอล เป็นการขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายเองหรือไม่ ต้องดูว่าผู้เสียหายว่าจ้างให้ทนายตั้มช่วยทำคดีหรือไม่ หรือเป็นค่าช่วยเหลือค่าดำเนินการอะไร ในวันที่ 13 พ.ย.จะประชุมอีกครั้งอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่