ทำเอาแฟนๆ เซอร์ไพรส์ หลัง เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ออกมาโพสต์ไอจีเล่าถึงความภาคภูมิใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบสุดโต่ง หลังการตัดสินใจเรียนปริญญาโทเกี่ยวกับ Anti-Aging ซึ่งเรียนเนื้อหาเหมือนหมอและได้นั่งเรียนกับหมอจริงๆ เจอ เกรซ งานประกาศรางวัลผลิตภัณฑ์และบริการความงามที่สุดแห่งปี “PRAEW ICONIC BEAUTY 2024” ภายใต้คอนเซปต์ PERFECT 10 “THE JOURNEY OF BEAUTY” จัดโดย นิตยสารแพรว ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป เลยถาม เห็นล่าสุดเกรซโพสต์ว่ากำลังเรียนหมออยู่ หลายคนรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก?“ต้องแจ้งก่อนว่าตอนนี้เกรซเรียนปริญญาโท Anti-Aging ซึ่งคนก็จะคิดว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามอย่างเดียว แต่มันไม่ใช่ มันคือองค์รวมทั้งหมดของร่างกาย และการที่เกรซพูดและติดแฮชแท็ก การเรียนหมอ ความหมายของเกรซคือไม่ได้เรียนไปแล้วจะจบไปเป็นหมอ มันไม่สามารถจบได้ เพราะจริงๆ แล้วพื้นฐานของคนเป็นหมอเค้าต้องเรียนเป็นแพทย์หกปี ของเกรซเป็นคอร์สปริญญาโท แต่เพียงแค่ว่าไม่ได้มีโอกาสชี้แจงในโพสต์แรก เพราะโพสต์แรกเป็นโพสต์ที่ให้กำลังใจว่าเราทำได้คนอื่นก็ต้องทำได้ เพราะเราไม่ได้มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์เลย เกรซก็ไม่ได้เข้าใจว่าหลายคนจะเอาไปตีความว่าเกรซไปเป็นหมอ อันนี้คือไม่ใช่ ถ้าอ่านแคปชันจนจบจะเข้าใจว่าหมายความว่ายังไง แต่ก็เข้าใจว่าบางคนอาจจะอ่านแค่บรรทัดบน ก็อาจจะเข้าใจข้อความไปอีกอย่าง แต่ความจริงแล้วเนื้อหามันเหมือนกับที่หมอเรียนอะไรประมาณนี้ ความหมายก็คือมันยากมากแล้วเราต้องปรับเยอะมาก มันแลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่าง และเราก็เสียโอกาสหลายอย่างไป แน่นอนว่าคนเรามี 24 ชั่วโมงแต่ทำยังไงฉันถือเป็นล้านอย่างเลย แล้วฉันจะเรียนด้วยอะ มันจะทำอะไรหลายๆ อย่างมันต้องเลือกค่ะ อันนี้เรียนสองปีเป็นปริญญาโท เรียนจบไปคือได้วุฒิการศึกษาเป็นวิทยาศาสตรบัณฑิต” เข้าคลาสแรกเป็นยังไงบ้าง?“ช็อกมากค่ะ วันแรกที่ไปเรียนคือถอดรหัสดีเอ็นเอ โครโมโซม คือต้องรู้ขนาดนี้มั้ย แล้วหันไปข้างขวาคือหมอซ้ายก็หมอ แต่มันก็มีความอุ่นใจตรงที่ว่าถ้าเราไม่เข้าใจอะไร เพื่อนที่เป็นหมอก็สามารถที่จะอธิบายให้เราได้ แต่เนื้อหาของหมอก็จะลงลึกมากกว่า” ตอนแรกเรากังวลใจมั้ยที่จะเรียน?“ตอนแรกมั่นใจมาก เพราะเรารู้สึกตื่นเต้นกับการตัดสินใจเรียน ด้วยเราอยากรู้ให้ลึกกว่านี้ เพราะในอนาคตเราจะทำอาชีพและประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรดักส์ เปิดเวลเนสที่เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ คือที่ผ่านมาเกรซชอบด้านนี้จริงๆ เลยอยากจะลองเรียนรู้ให้มันลึกไปเลย ซึ่งมันเกิดจากการที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะ เวลาไปโรงพยาบาลคุณหมอก็จ่ายยามา ซึ่งจะเป็นยาลดกรด มีผลกระทบต่อร่างกาย ตอนนั้นกินไปเยอะจนเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ ต้องผ่าตัดเอาติ่งเนื้อออก หลังจากนั้นมีโอกาสได้มารักษากับหมอ Anti aging พอรักษาก็รู้สึกว่านี่คือทางออกและประตูแห่งความรู้มันจะต้องเปิดแล้วล่ะ ฉันจะต้องรู้จริงแล้ว ซึ่งมีหลายคนบอกว่า ความรู้ไม่เคยแพง ความไม่รู้แพงกว่าเสมอค่ะ”เกรซมีมุมมองเกี่ยวกับ Lifelong Learning ลึกซึ้งขึ้นยังไงบ้าง?“เราควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วแบบนี้แหละ จะบอกว่าตัวเองไม่ได้เรียนอะไรแบบนี้มานานมาก เพราะว่าทำงานถ่ายละคร มันคือการจำเลย แล้วลืมเลย ณ ตรงนั้น แต่ความรู้ในห้องเรียนมันจำแต่ลืมเลยไม่ได้ มันจำแล้วมันต้องเอาไปใช้สอบ เราต้องรู้จริงก็เลยเป็นอะไรที่เครียด และปรับตัวยากมากช่วงแรก เพราะมันจะมีการเรียนปรับพื้นฐานด้วย สำหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานวิทยา ศาสตร์มาอย่างเกรซ รู้แค่ว่าตัวโน้นตัวนี้คืออะไร อันนี้คือการเรียนแบบจริงๆรู้ลึกถึงรากถึงโคนเลย ก็สะใจดีเป็นการเบิกเนตรสุดๆ” แต่เราก็ต้องทำการบ้านหนักมาก?“หนักมากค่ะ คอนเทนต์ช่วงนี้ก็จะออกมาน้อยนิดนึง ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มันปรับตัวไม่ได้ แล้วมันก็ยากจากชีวิตเราที่เรื่อยเปื่อย ก็ต้องมานั่งอ่านหนังสือทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันมันไม่มีการกระทำใดสูญเปล่า เราก็ทำมาและเราก็ได้ความรู้กลับมาและนำไปใช้และบอกคนที่เรารัก ครอบครัว ฟินมาก แค่นี้ก็ฟินแล้ว”.