วันนี้ (9 สิงหาคม 2567) เวลา 16.30 น. จะมีพิธีมอบรางวัล “โพธิคยานาคาธิบดี” ประจำปี 2567 ณ ลานพระอาทิตย์ พญาภุชงค์นาคราช องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่จัดโดย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่ซาบซึ้งในพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีโอกาสไปบรรพชาและอุปสมบทหมู่เพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ปี พ.ศ.2550 ณ ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ณ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย มาด้วยกันเมื่อลาสิกขากลับคืนสู่ประเทศไทยแล้ว คณะบุคคลกลุ่มนี้ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่พูดคุยกันถึงการใช้ชีวิตขณะอุปสมบท และหลักธรรมคำสอนต่างๆของพุทธองค์อยู่ตลอดต่อมาก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าควรจัดตั้งองค์กรขึ้นองค์กรหนึ่งเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่และปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่ยั้งยืนยงและเป็นที่เคารพสักการะของชาวโลกไปตราบนานเท่านานในช่วงแรกก็ก่อตัวเป็นชมรมขึ้นก่อน เรียกว่า “ชมรมโพธิคยาวิชชาลัย 980” ซึ่งมาจาก “โพธิ” อันหมายถึงโพธิญาณ หรือปัญญา การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า, “คยา” หมายถึงที่ตั้งอยู่ของสถานที่ตรัสรู้ในจังหวัด คยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดียส่วน 980 นั้น หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา อันเป็นสาเหตุหลักที่คณะบุคคลกลุ่มนี้ไปบรรพชาบ้าง อุปสมบทบ้าง ดังที่เล่าไว้ข้างต้นในส่วนของคณะกรรมการบริหารนั้นได้รับเมตตาจาก พระธรรมโพธิวงศ์ หรือท่าน วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ มาเป็นประธานให้แก่คณะกรรมการของสถาบัน ตั้งแต่แรกตั้งจนถึงบัดนี้สำหรับรองประธานฝ่ายฆราวาส ได้แก่ ดร.อภัย จันทนจุลกะ และ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ ซึ่งท่านหลังนี้รั้งตำแหน่งเลขาธิการสถาบันฯด้วย ถือเป็นแกนหลักในการบริหารสถาบันนับตั้งแต่แรกโครงการหลักๆที่สถาบันได้ดำเนินการไปแล้ว ก็เช่นโครงการ พระธรรมทูตโพธิคยา ส่งเสริมพระสงฆ์จำนวนหนึ่งให้ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึก ณ ดินแดนพุทธภูมิ-อินเดีย เนปาลอีกหนึ่งโครงการที่มีการกล่าวขวัญถึงบ่อยๆ ได้แก่ โครงการ ธรรมยาตราโพธิคยา เพื่อเชื่อมโยงประเทศ 5 ประเทศลุ่มแม่นํ้าโขงที่นับถือพระพุทธศาสนา อันได้แก่ ลาว, พม่า, เวียดนาม, กัมพูชา และไทย ให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นต่อมาก็มีโครงการ วิจัยพญานาค เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อและอิทธิพลของพญานาค ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาทั้งในประเทศไทย ประเทศลาว และกัมพูชา ซึ่งมีการแถลงผลการวิจัยไปเมื่อปี 2563ล่าสุด ที่เป็นข่าววันนี้ก็คือโครงการมอบรางวัล โพธิคยานาคาธิบดี ซึ่งหมายถึงรางวัลที่ระลึกถึงคุณความดีของพญานาค ที่ได้บำเพ็ญโพธิธรรมเพื่อปกป้องพุทธศาสนามาแต่โบราณกาลเมื่อนำรางวัลนี้ไปมอบให้แก่บุคคลใดก็ตามก็เท่ากับว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้ใฝ่ธรรม และพร้อมที่จะปกป้องและเผยแพร่พุทธศาสนาให้กระจายกว้างออกไป และอยู่ยั้งยืนยงไปโดยไม่มีที่สิ้นสุดเนื่องจากวันพรุ่งนี้คอลัมน์ผมจะแปรสภาพไปเป็นการเขียนถึงการเที่ยวงานการอ่านหนังสือและฟังเพลงย้อนยุคต่างๆ 1 วัน และวันอาทิตย์ก็จะเป็นคอลัมน์ซอกแซก ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่แล้วก็เก็บมาเขียนถึงอีก 1 วันส่วนวันจันทร์ของสัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็ตรงกับวันเฉลิมพระชนม พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่ประชาชนชาวไทยฉะนั้น โปรดอดใจรอนิดเดียวครับ...วันอังคารที่ 13 สิงหาคม เราค่อยมาเปิดเผยรายชื่อว่า ผู้ได้รับรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ปีนี้ ได้แก่ ภิกษุและฆราวาสท่านใดบ้าง.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม