ทุกวันนี้ การโปรโมตนักร้องหรือเพลงสักเพลง ทำได้ค่อนข้างง่าย หากพลาดก็ไม่เจ็บตัวมาก ต้นทุนในการผลิตต่อหนึ่งเพลง ไม่น่าเกินเลขห้าหลักต้นๆมีกล้องดีๆ มือถือไฮเทคสักเครื่อง โปรโมตผ่านสื่อออนไลน์ ก็กลายเป็นเจ้าของค่ายเพลงได้แล้วจังหวะเหมาะโชคช่วย เพลงฮิตติดหูติดตาผู้บริโภคเท่ากับถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งชุดใหญ่!!เพลงอินดี้จากค่ายโนเนมหลายเพลง เคยแหวกตลาด จนกลายเป็นเพลงระดับหลายร้อยล้านวิวจนค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ตะลึงตึงๆ ตาค้างมาแล้วแต่สิ่งที่น่าห่วง...คือสื่อหลักนำไปขยายผลให้เพลงเหล่านั้น จะโดยตามน้ำ รู้เท่าไม่ถึงการณ์และหรือโดยเจตนาเพลงบางเพลง เนื้อหาค่อนข้างฉวัดเฉวียน เกาะแกะอยู่เรื่องราวใต้สะดือ เนื้อร้องละม้ายไปทางคลิปหรือหนังสือลามกชื่อเพลงค่อนข้างสองแง่สองง่าม ส่อทางการร่วมประเวณีของมนุษย์ หรือชี้ไปในแนวนั้นแต่ก็เอามาโปรโมตมาเชียร์กัน บางทีสื่อโทรทัศน์บางสำนัก เอาไปพูดถึง เชียร์ทั้งทางตรงทางอ้อม?ข้อสังเกตคือเพลงเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อร้องเป็นภาษาอีสาน แล้วนำมาใส่ ทำนองโจ๊ะๆที่โดนหูโดนใจวัยรุ่น!!ไม่อยากจะเรียกคนแต่งเหล่านี้ว่า “ครูเพลง” แต่อยากเรียกว่า นักเขียนลามกสอดใส่ทำนองเพลงมากกว่าเราเองนั้น คงไม่ซีเรียสมากนัก ธุระไม่ใช่!!แต่หน่วยงานของรัฐที่ชื่อ “สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม” ยังอยู่ดีมีสุขหรือไม่??หากยังไม่ถูกยุบ กรุณาตื่นขึ้นมาทำงาน ให้สมกับเงินเดือนบ้าง!!“สันติพงษ์ นาคประดา”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “ทีวีบันเทิง” เพิ่มเติม