ผงะ พบปลาหมอคางดำโผล่อ่าวไทยห่างฝั่งสมุทรปราการ 3 ไมล์ทะเล ผ่าท้องพบซาก “เคย” ที่สวาปามเข้าไปเต็มกระเพาะ จี้รัฐเร่งแก้ด่วนหวั่นลุกลามทำลายสัตว์ทะเลสูญพันธุ์ ด้านอนุ กมธ.หมอคางดำถกเดือด “หมอวาโย” จ่อบุกกรมประมงตามหาต้นตอหลักฐานการแพร่กระจายพันธุ์ และตัวอย่างครีบปลาที่บริษัทนำเข้าส่งมาให้พิสูจน์ ขู่เจอไม่ทำตามกฎหมายต้องมีโทษถึงคุกความหวังในการกำจัดปลาหมอคางดำมหาภัยเอเลี่ยนสปีชีส์แห่งสายน้ำให้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินไทย คงจะไม่ง่ายอย่างหอยเชอรี่ หรือตั๊กแตนปาทังกา เพราะนอกจากปลาปิศาจพันธุ์อึดนี้จะแพร่พันธุ์ได้เร็ว ยังสามารถใช้ชีวิตในทะเลอ่าวไทยได้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมง จ.สมุทรปราการ พาผู้สื่อข่าวไปดูบริเวณปลายแม่น้ำเจ้าพระยา ปากอ่าวไทย จุดที่ชาวประมงทอดแหครึ่งชั่วโมง จับปลาหมอคางดำได้ประมาณครึ่งถังพลาสติกเป็นประจำทุกวัน จากนั้นเปิดเผยว่า มีชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล หลังผ่าท้องพบมีเคยในท้องเป็นจำนวนมาก กังวลว่าหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดปัญหาหนักกับกลุ่มประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐช่วยเร่งหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็ว ปลาหมอคางดำ อาจจะไปทำลายสัตว์น้ำในทะเลอ่าวไทยจนหมด และอาจขยายวงกว้างไปสู่ทะเลเพื่อนบ้าน ทำให้สัตว์น้ำในทะเลลึกสูญพันธุ์ได้ ด้านนายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทร ปราการ กล่าวว่า ยอมรับปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ใน จ.สมุทรปราการ ระบาดอยู่ในขั้นวิกฤติ มีประชาชนแจ้งเข้ามาว่านอกจากพบที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ และต.คลองด่าน อ.บางบ่อ แล้ว ยังพบอยู่ในพื้นที่ของ อ.เมืองสมุทรปราการ และที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ เพิ่มอีก ดังนั้น จึงต้องการให้ความรู้ข้อมูลที่ถูกต้องกับทุกภาคส่วน จะได้เข้ามาร่วมกันจัดการกับปลาหมอคางดำให้หมดไป ส่วนเรื่องราคาที่รับซื้อตอนนี้มีความ หลากหลายในแต่ละพื้นที่ ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายให้ภาครัฐช่วยรับซื้อในราคาที่เหมาะสม คือ 15 บาทต่อกิโลกรัม ขณะนี้รอคำสั่งอย่างเป็นทางการ และพร้อมดำเนินการในทันทีต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดสดเทศบาลเมืองพระประแดง จ.สมุทรปราการ พบบรรยากาศในตลาด โดยเฉพาะอาหารสด เช่นสัตว์น้ำและอาหารทะเลมีผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันเป็นปกติ แต่ยังไม่พบการซื้อขายปลาหมอคางดำ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดตามแหล่งน้ำและลำคลองพื้นที่ อ.พระประแดง ยังพบเห็นฝูงปลาหมอคางดำกระจายอยู่ทั่วไปตามคูคลองสำคัญต่างๆที่สามารถเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยาได้ นางจุฑารัตน์ เกณฑ์กอบศรี อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองลัดหลวง อ.พระประแดง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน บริเวณคลองแห่งนี้ มองไปทางไหนก็จะมีแต่สีดำของฝูงปลาหมอคางดำตัวใหญ่ อยู่เต็มคลองไปหมด แต่ก็มีชาวบ้าน ลงแห และจับกันไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันเริ่มลดจำนวนลง ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายไพโรจน์ รัตนรัตน์ สมาชิกสภาเกษตรกร จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับมาตรการปล่อยปลากะพงขาวขนาด 5 นิ้วไปกำจัดวงจรระบาดปลาหมอคางดำ เพราะนอกจากต้องใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว ปลานักล่าขนาดดังกล่าวส่วนหนึ่งจะกลายเป็นผู้ถูกล่าจากสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดโตกว่า และยังต้องเป็นผู้ถูกล่าจากผู้ที่มีอาชีพจับปลามาบริโภคหรือจำหน่ายรัฐบาลและกรมประมงควรจะเปลี่ยนเป็นการใช้งบซื้อพันธุ์กะพงขาว มาแจกจ่ายให้เกษตรกรเลี้ยงในบ่อกุ้งร้างที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังและจังหวัดใกล้เคียง แล้วสนับสนุนให้ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวไล่ล่าจับปลาหมอคางดำ มาใช้ทำเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงปลากะพงขาว แบบนี้จะเกิดผลประโยชน์มากกว่า เพราะประชาชนมีรายได้จากการเลี้ยงปลากะพงขาว และปลาหมอคางดำจะมีจำนวนลดลงเกิดความสมดุลในธรรมชาติได้อย่างแน่นอนนางสมจิตร ดีชู หรือ “ป้าจิตร” อายุ 74 ปี ชาวบ้าน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพไล่ล่าจับปลาหมอคางดำมาจำหน่ายสดๆ และแปรรูป กล่าวว่า หลังจากการ Kick Off จับปลาหมอคางดำพบว่าจำนวนปลาหมอคางดำในบ่อบำบัดน้ำเสียลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ทำให้จับได้น้อยลง ไม่เพียงพอต่อคำสั่งซื้อของลูกค้าในแต่ละวัน แต่หากทางรัฐบาลหรือกรมประมงปล่อยปลากะพงขาวให้กินปลาหมอคางดำ เชื่อว่าหากคนสามารถจับปลากะพงขาวจะไม่ปล่อยคืนกลับแหล่งน้ำอย่างแน่นอน เพราะปลากะพงขาวที่จับได้มีราคาสูงกว่าปลาหมอคางดำ เช่นเดียวกับที่ จ.ราชบุรี นายอนันต์ สุนทร ประมง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางสาวสุรังษี ทัพพะรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดราชบุรี นายยุทธพยงค์ โล่เกียรติคุณ ผู้แทนภาคการประมง จ.ราชบุรี นำเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงาน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ จากข้อมูลพบว่า จ.ราชบุรีมีการระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ 5 อำเภอ สำนักงานประมงจังหวัด จะได้กำหนดจุดรับซื้อราคากิโลกรัมละ 15 บาท ทั้งมีมติเห็นชอบมาตรการใช้ข่ายและแห ในการกำจัดปลาหมอคางดำขนาดใหญ่และการปล่อยปลาอีกง ปลากดคัง ปลาช่อน และปลากระสูบ เพื่อกำจัดปลาหมอคางดำขนาดเล็กอีกด้านหนึ่งที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้า ปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ที่มี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานโดยได้เชิญนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ตัวแทนแต่ละภาคส่วนมาให้ข้อมูล บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างดุเดือด มีการไล่ซักถามข้อมูลจากกรมประมงในเรื่องต่างๆ นพ.วาโยกล่าวว่า เรามีตัวอย่างและ DNA ปลาที่ระบาดในประเทศไทยแล้ว ถ้าเราสามารถจับตัวตั้งต้นได้ อาจจะเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไม่กี่คู่นี้ แล้วตรงกัน ก็น่าจะคลายความสงสัยและหาตัวผู้กระทำผิดได้ ตัวอย่างปลาที่เป็นขวดโหล 25 ตัว ที่ทางบริษัทซีพีเอฟแถลงข่าวมาว่า ได้มอบให้ทางกรมประมงไปแล้ว เดี๋ยวเราจะต้องขออนุญาตท่านไว้ก่อนว่าเราอยากไปเยี่ยมกรมประมง ไปดูห้องเก็บตัวอย่าง ว่าอยู่ชั้น 1 หรือชั้น 2 และขอตัวอย่างครีบ 3 ตัว ให้ทางหลายหน่วยงานได้ตรวจ DNA ขอสำเนาสมุดคุมว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร จะได้คลายความสงสัย พร้อมย้ำถึงการเก็บตัวอย่างครีบ ถ้าไม่มีการเก็บ จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ สังคมกำลังตั้งคำถามว่าปลาที่มันหลุดอยู่ในประเทศไทย ไม่รู้ว่ามันซื้อตั๋วมาเองหรือไม่ มันหลุดมาจากงานวิจัยชิ้นนี้หรือไม่ ถ้าหลุดมาจริง ก็อาจจะเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 55 มีโทษจำคุกส่วนอธิบดีกรมประมงกล่าวชี้แจงว่า ข้อมูลวันนี้ที่กรมประมงมีที่พอจะเห็นร่องรอย มีบริษัทเดียวที่ขอนำเข้า เดือน ก.ย. ปี 2553 และตนพร้อมตอบรับคำเชิญหากอนุ กมธ.ไปที่กรมประมง เราโปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้ เชิญไปเยี่ยมกรมประมง ไปวันไหนขอให้บอกล่วงหน้า กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Parinya Photography Passion ได้โพสต์ข้อความว่า “ปลาหมอคางดำโผล่อ่าวไทย ลามถึงประจวบแล้ว ชาวประมงบางคนเจอไข่เต็มท้อง รายงานจากชายหาดบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ชาวบ้านล้อมอวนในทะเลหน้าหาดได้ปลากระบอก ปลาเห็ดโคน และอื่นๆ หลายชนิดแต่ปลาที่ได้มามากที่สุด กลับเป็นปลาหมอคางดำ ยืนยันว่าไอ้คางดำ ใช้ชีวิตในทะเลแท้ๆ ได้จริงๆ ไม่ใช่แค่น้ำกร่อย” ล่าสุดผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปสัมภาษณ์นายถาวร โรจนะรัตน์ ประมงอำเภอบางสะพาน ได้รับการเปิดเผยว่า พบการระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ อ.บางสะพาน ในทุกลำคลอง มีปริมาณมากพอสมควร ส่วนบริเวณชายทะเลก็พบว่ามีการแพร่กระจายมาสักระยะหนึ่ง การแพร่กระจายในทะเลยังไม่น่าห่วงเท่าตามลำคลองเนื่องจากในทะเลเครื่องมือประมงค่อนข้างเยอะแต่ตามแม่น้ำลำคลองในพื้นที่เป็นป่าชายเลน ซึ่งการควบคุมการแพร่ค่อนข้างลำบาก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางประมงอำเภอมีการทดสอบลองทอดแห่เพื่อสำรวจปลาในคลองปากปิด ใกล้ทางออกสูุ่ทะเล โดยทดสอบทอดแห่ 2 รอบ ได้ปลาทั้งหมดประมาณ 3 กิโลกรัม พบว่าเป็นปลาหมอคางดำเกือบทั้งหมดเมื่อเวลา 16.40 น. ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา สาเหตุและแนวทาง แก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบ จากการนำเข้าปลาหมอคางดำ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมกรณีสาเหตุการระบาดของปลาหมอคางดำ ว่า ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้น การติดตามเอกสารต่างๆ อาทิ สมุดคุม การนำเข้าปลาชนิดนี้ อธิบดีกรมประมงได้ส่งสำเนาให้ กมธ.และในวันที่ 23 ก.ค.จะเชิญ กมธ.เดินทางไปที่กรมประมงเพื่อดูห้องเก็บตัวอย่างซากปลาของกรมประมง รวมถึงเรื่องของการติดตามสัตว์ต่างประเทศที่นำเข้ามาว่ามีกระบวนการรัดกุมแค่ไหน ที่วิจารณ์กันมากคือ มีการส่งออกในปี 2556-2559 จริงหรือไม่ อธิบดีกรมประมงได้ตรวจสอบพบว่ามี 11 บริษัทส่งออกจริงไปยัง 17 ประเทศทั่วโลก 2.3 แสนตัว ส่วนที่ภาคประชาชนเรียกร้องให้เรียกค่าเสียหายเรื่องสิ่งแวดล้อมกับบริษัทเอกชน เราเชิญสภาทนายความร่วมประชุม เสนอแนะดำเนินการเรื่องความผิดทางละเมิดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประเทศ ไทย และจะขอข้อมูลจาก กมธ.เพื่อประกอบการพิจารณาในการฟ้องร้องต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่