นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม. กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้สำรวจคลอง คู ลำราง ลำกระโดง ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหารุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯมีคลอง คู ลำราง ลำกระโดง ที่อยู่ ในความรับผิดชอบของ สนน. 233 คลอง ความยาว 1,002 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็นคลอง 227 คลอง ความยาว 968 กม. และคู ลำราง ลำกระโดง 6 แห่ง ความยาว 34 กม. และในส่วนที่ 50 เขตรับผิดชอบ 1,747 คลอง ความยาว 1,743 กม. แบ่งเป็นคลอง 983 คลอง ความยาว 1,302 กม. และคู ลำราง ลำกระโดง 764 แห่ง ความยาว 441 กม. จากการสำรวจบริเวณที่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะ 6 กลุ่มเขต รวมทั้งสิ้น 11,035 หลัง แบ่งเป็นกลุ่มเขตกรุงเทพฯเหนือ 7,667 หลัง กลุ่มเขตกรุงเทพฯกลาง 1,635 หลัง กลุ่มเขตกรุงเทพฯตะวันออก 471 หลัง กลุ่มเขตกรุงเทพฯใต้ 1,078 หลัง กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 123 หลัง และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ 61 หลัง ปัจจุบันรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว 2,752 หลัง ยังไม่ได้รื้อย้าย 8,283 หลัง อยู่ระหว่างเจรจา 7,803 หลัง ใช้ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 (ปว.44) 422 หลัง ดำเนินการตามกฎหมายควบคุมอาคาร ปี 2522 จำนวน 53 หลัง และยังไม่ดำเนินการ 5 หลังทั้งนี้ ได้มอบหมาย สนน.และสำนักงานเขตพื้นที่ เร่งเจรจาทำความเข้าใจกับชุมชนที่รุกล้ำแนวเขื่อนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ เช่น คลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร เป็นคลองในส่วนของราชพัสดุและอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ ยังมีจำนวนผู้ที่รุกล้ำจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นในการจัดหาที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้ประสานหน่วยงานอื่นๆ เช่น การเคหะแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คลองในพื้นที่กรุงเทพฯมีความสะอาด เรียบร้อย สวยงาม ปลอดภัย รวมถึงใช้ในการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่